เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
INCLUDE | HUNHANhuan_97
03 Little Duck Kindergarten
  • โรงเรียนอนุบาลเป็ดน้อย

    โรงเรียนสหศึกษาแห่งนี้เป็นเครือย่อยขององค์กรไม่ปรากฏนามที่เปิดสอนตั้งแต่แนทเซอรี่ถึงอนุบาลสาม และโรงเรียนมินยองที่เปิดสอนตั้งแต่เกรดหนึ่งถึงเกรดสิบสอง มีครูและบุคลากรรวมกันนับพันคนและนักเรียนอีกหมื่นกว่าคน พวกคุณสามารถแยกความแตกต่างของสองโรงเรียนนี้ได้จากยูนิฟอร์ม โรงเรียนอนุบาลเป็ดน้อยจะมีเสื้อสีเหลืองนวลตากับกางเกงขาสั้นสีเทาในนักเรียนชายและชุดเอื้อมสีเทาในนักเรียนหญิง ส่วนของโรงเรียนมินยองเสื้อนักเรียนเป็นเชิ้ตสีขาวกับสูทสีเหลืองนักเรียนชายสวมกางเกงขายาวและนักเรียนหญิงสวมกระโปรงห้ามสั้นกว่าหัวเข่า แต่ที่เหมือนกันคงเห็นว่าจะเป็นตราสัญลักษณ์ขององค์กรไม่ปรากฏนาม

    นักเรียนตัวเล็กทั้งหลายในยูนิฟอร์มของอนุบาลเป็ดน้อยห้องสี่เริ่มตื่นจากการนอนกลางวันกันแล้ว คนแรกที่เดินเตอะแตะออกมาไม่ใช่ใครนอกจากเด็กชายจงอินที่ดูเผินๆคงจะละเมอ แต่ไม่ใช่อยากที่คุณเห็น เจ้านั้นแค่ตายังตื่นไม่เต็มที่ต่างหากหล่ะ หนูน้อยจงอินเดินมายังพี่เลี้ยงตาโตที่กำลังเพลินกับการเล่นโทรศัพท์อยู่เงียบๆที่โต๊ะ

    “ตะยอง หิว” กระตุกชายเสื้อพี่เลี้ยงแถมสายตาอ้อนๆไปหนึ่งดอก

    “ตื่นมาก็หิวเลยนะงินๆ แต่งินๆต้องรอเพื่อนๆตื่นก่อนนะครับ ต้องทานของว่างพร้อมกัน” พี่เลี้ยงโดคยองซูหรือตะยองของจงอินบอกและกลับไปให้ความสนใจกับโทรศัพท์ในมือต่อ

    จงอินเดินเตอะแตะกลับมาที่นอน มือเล็กป้อมสะกิดเพื่อนที่นอนข้างๆให้ตื่นกันทีละคนสองคนเริ่มจากเซฮุนและเทาตามด้วยคนอื่นๆ เสียงเจี๊ยวจ๊าวเริ่มดังขึ้นจนคยองซูต้องละสายตาจากโทรศัพท์ไปยังต้นเสียง ร่างเล็กของคยองซูจึงต้องลุกจากที่สิงไปเอาของว่างให้แก่เด็กๆทั้งหลาย

    “ทุกคน หยิบแก้วน้ำของตัวเองมาด้วยนะ นั่งที่ให้เรียบร้อย ไม่งั้นครูไม่แจกขนมกับนมให้นะ วันนี้มีคุกกี้กับนมจืดนะเด็กๆ”

    นักเรียนตัวเล็กทั้งหลายจึงทยอยกันมานั่งที่ของตนรอครูตัวเล็กมาแจกให้ จงอินกระตือรือร้นเป็นพิเศษที่จะได้กินคุกกี้ ขนมสุดโปรดของเขา

    คยองซูคิดว่าเขาควรจะมีใครอีกคนมาช่วยแบ่งเบาภาระในการดูแลเด็กเล็กนับสามสิบกว่าคนด้วยตัวเขาคนเดียว ความคิดไม่เคยหยุดที่คิด คยองซูต่อสายหาอู๋อี้ฟาน ผู้อำนวยการเงิงเยอะแสนใจดีและเขามั่นใจอย่างแน่นอนว่าจะได้เพื่อนพี่เลี้ยงมาเพิ่มอีกคน เชื่อหัวคยองเห๊อะ

    (ตู๊ด... ฮัลโหล ว่าไงคุณคยองซู)

    “ผมต้องขอโทษผู้อำนวยการด้วยนะครับ พอดีมีเรื่องอยากจะขอ”

    (ว่า?)

    “อยากได้พี่เลี้ยงอีกคนของอนุบาลสามห้องสี่ครับ”

    (เห็นว่าจะไม่ได้นะคุณคยองซู แต่ถ้าชั่วคราวน่าจะได้อยู่)

    “ชั่วคราวก็ได้ครับผมต้องการด่วนมากๆเลยครับ”




    ลู่หานกำลังหลงทางถึงแม้ว่าจะมีแผนที่ในมือก็ตามเถอะ!!!

    คนหน้าหวานกระชับกระเป๋าเรียกความมั่นใจ เขาตัดสินใจจ้างแท็กซี่ไปส่งที่โรงเรียนอนุบาลเป็ดน้อยหลังจากที่เดินไปเดินมาอยู่นานพอสมควร ก็เมื่อวานพี่ชายเขาอุตส่าห์หางานพาร์ทไทม์ให้ทำระหว่างปิดภาคเรียนของทางมหาลัย มาเป็นพี่เลี้ยงชั่วคราวสักสี่เดือน เดือนละหมื่นกว่าๆสี่เดือนก็สี่หมื่น สวรรค์ชัดๆ

    แท็กซี่จอดลงหน้าโรงเรียนเป็ดน้อยที่เด่นหรามาแต่ไกลด้วยป้ายชื่อโรงเรียนสีเหลือง ลู่หานจ่ายเงินก่อนจะลงจากจากรถมายืนจังก้าหน้าโรงเรียนอนุบาล เด็กๆตัวเล็กที่เริ่มทยอยมาโรงเรียนในตอนเช้าแอบทำเขาอิจฉาเล็กๆในใจ เป็นเด็กดีจะตายไป กิน นอน เล่น วนลูปอยู่แค่เนี่ย ขอชีวิตวัยเด็กกลับมาได้มั้ย?

    ลู่หานเดินไปยังห้องผู้อำนวยการที่พี่ชายทำงานอยู่ เขาเคาะประตูสองสามครั้งก่อนจะเดินเข้าไปตามมารยาท มีคนตาโตนั่งอยู่ก่อนเข้าจึงจะเดินออกมาแต่โดนห้ามไว้ก่อน

    “ไอ่ลู่ มานี่ๆ คุณคยองซูครับ คนนั้นแหละครับผู้ช่วยของคุณ”

    “สวรรค์ ขอบคุณท่านผู้อำนวยการเป็นอย่างยิ่งมากครับ นายด้วยลู่หาน” คนที่ชื่อว่าคยองซูจับมือเขาเขย่าๆอย่างดีใจ “ป่านนี้เด็กๆมาแล้วหล่ะ รีบไปกันเถอะ” และเขาก็ถูกลากมายังสถานที่ทำงานของจริง เด็กๆในยูนิฟอร์มสีเหลืองนั่งกันเต็มโต๊ะทุกโต๊ะที่จัดไว้

    “อรุณสวัสดิ์เด็กๆ วันนี้ครูมีครูพี่เลี้ยงอีกคนเพิ่มเข้ามา จะมาช่วยครูดูแลพวกหนูๆนะ แนะนำตัวสิ” คยองซูกระทุ้งศอกใส่สีข้างเขาเบาๆ

    “สวัสดีนะเด็กๆ พี่ชื่อลู่หาน พี่มาช่วยครูคยองซูดูแลน้องๆ ฝากตัวด้วยนะ” โปรยยิ้มอีกเล็กน้อยเป็นพิธี

    “พี่สาวน่ารักจัง”

    “จ๋วย ปี้สาวจ๋วย”

    เดี๋ยวก่อนนะ ไอ่น่ารักกับจ๋วยๆแถมยังคำว่าพี่สาวอะไรนั่นอีก มันใช้เรียกผู้หญิงนะนู๋ พี่เป็นผู้ชายนะหนูจ๋า!!!

    “เด็กๆ พี่เค้าเป็นผู้ชายลูก ผู้ชาย”คยองซูช่วยแก้ต่างให้ ขอบคุณสวรรค์

    กิจกรรมชั่วโมงแรกของเด็กๆก็คือการวาดรูประบายสี หัวข้อในแต่ละวันแตกต่างกันไปตามครูผู้สอนและเทศกาลในเดือนนั้นๆ หน้าที่แรกของลู่หานคงจะเป็นการช่วยครูคยองซูแจกกระดาษร้อยปอนด์ที่มีขนาดเท่าเอสี่ให้แก่เด็ก ขอบคุณพี่ลู่หานเค้าด้วยนะ เสียงของครูคยองซูตะโกนบอกเด็กทุกครั้งที่เขาช่วยแจกของ

    “เอาหล่ะ วันนี้หัวข้อในการวาดรูปคือพี่ลู่หาน ครูจะให้หนูๆวาดรูปพี่ลู่หานนะ ลงมือกันได้เลย” สายตานับสามสิบกว่าคนจดจ้องมาทางลู่หานเป็นตาเดียว เล่นเอาเขาทำตัวไม่ถูกกันเลยที่เดียว

    “หนูๆไม่ต้องไปจ้องเขาขนาดนั้นก็ได้ เห็นแบบไหนก็วาดแบบนั้นแหละลูก”

    เวลาหนึ่งชั่วโมงหมดไปสำหรับศิลเปอะของศิลปินตัวน้อย ครูคยองซูเดินดูผลงานของลูกศิษย์แต่ละคน เขาสังเกตเห็นว่าครูตัวเล็กนั่นปิดปากขำกับผลงานของลูกศิษย์ตัวน้อยหน้าดำหน้าแดงไปหมด

    “หมดเวลาแล้วนะ ไหนแนะนำผลงานให้พี่ลู่หานดูสิเซฮุน” ครูคยองซูพูดขึ้น นี่ยังไม่หยุดหัวเราะอีกเรอะ เด็กชายเซฮุนที่ว่าเดินออกมาพร้อมใบหน้าเขินอาย โอ๊ย เอาใจพี่ลู่ไปเลยหนู

    “หวัดดีฮะ ป๋มชื่อโอเซฮุน วันนี้ป๋มจะมาแนะนำรูปที่ครูยองซูให้วาด” เขาชูผลงานออกมาทำเอาเขาแทบขำตกเก้าอี้ “อันนี้ลูลู่” มือเล็กชี้ไปยังการ์ตูนไม้ขีดที่อยู่กลางหน้ากระดาษ “ฉ่วนอันนี้คือป๋ม” เลื่อนนิ้วไปชี้ตัวที่สูงกว่านิดหน่อย “แล้วนี่ก็หัวจายย ป๋มรักลูลู่ฮะ”

    เขาเห็นน้องยืนบิดไปบิดมา ลู่หานก็อดยิ้มไปกับความรักของหนุ่มน้อยเซฮุนไม่ได้ แต่จะดีกว่านี้ถ้าเป็นน้องผู้หญิง ผู้ชายกับผู้ชาย ลู่ไม่โอเค แต่ถ้าเป็นเซฮุน อภัยให้ได้เสมอ

    บรรดาเด็กๆในชุดเหลืองต่างทยอยกันออกมาแนะนำผลงานของตัวเอง ครูคยองซูที่ยังไม่หยุดขำน้ำหูน้ำตาเล็ดจนนักเรียนคนสุดท้าย ครูตัวเล็กเดินเก็บงานลูกศิษย์และยื่นส่งให้ลู่หานที่โดนเด็กๆมะรุมมะตุ้มอยู่

    "อนุบาลสามห้องสี่ยินดีต้อนรับ ส่วนนี่ลู่หานเก็บเอาไว้ ถือว่าเป็นของขวัญจากเด็กแล้วกัน"

    "ขอบคุณครับครูคยอง" เขารับมันมาเก็บลงให้กระเป๋าของตัวเองให้เรียบร้อยและรอคำสั่งของครูคยองซูต่อ

    กิจกรรมต่อไปคือการฝึกเขียนคัดลายมือ และเขาก็มีหน้าที่เดิมคือการแจกสมุดคัดลายมือของหนูแต่ละคนโดยการขานชื่อที่ละคนให้ออกมาเอา

    "เด็กชายคิมจงอิน"

    .
    .
    .
    "เด็กชายโอเซฮุน" สมุดเล่มสุดท้ายเป็นของพ่อหนุ่มนักรัก เซฮุนเดินออกมาเอาเป็นคนสุดท้ายก่อนจะกลับไปนั่ง กระจาดดินสองวางอยู่กลางโต๊ะเล็ก โต็ะหนึ่งตัวนั่งได้ห้าคน ภายในห้องนี้จึงมีโต๊ะอยู่หกตัวสำหรับนักเรียนสามสิบคน ลู่หานกับครูคยองซูเดินดูเด็กๆไปตามแต่ละโต๊ะ ส่วนใหญ่จะนั่งปนกันชายหญิงแต่จะมีชายล้วนก็โต๊ะของบอยแบนด์ ที่ประกอบด้วย จงอิน เซฮุน เทา มินโนและจองกุ๊ก ที่ตั้งอยู่กลางวง ครูคยองซูบอกกับเขาว่าเจ้าเด็กพวกนี้มันไฮเปอร์จัด

    "ตะยอง เสร็จแย้ว" เด็กน้อยผิวสียกมือแหกปากลั่นเรียกครูคยองซูที่เดินตรวจอยู่หลังห้อง และเขาก็ยืนหัวโด่อยู่ใกล้ๆกับเจ้าเด็กนี้แท้ๆ

    "ส่งที่พี่ลู่หานสิงินๆ ครูตรวจของมินจีอยู่นะ"

    "ส่งที่พี่ก็ได้จงอิน" เดินยิ้มหวานเข้าไปใกล้อีกนิดแต่เด็กนั้นกลับลุกพรึบไปหาครูคยองซูที่อยู่หลังห้อง ย๊าส์!~ เจ้าเด็กดำ

    "ลูลู่ฮะ ตรวจให้หน่อย" เซฮุนกระตุกชายเสื้อของเขาพร้อมยื่นแบบฝึกคัดของตัวเองมาให้ ลู่หานคว้าสีเมจิกแถวๆนั้นจรดลายเซ็นลงไปและส่งกลับคืนให้แก่เด็กน้อยเซฮุน

    "ขอบคุณฮะ" ส่งยิ้มกลับมาอีก อร๊าย~ อยากฟัดเด็ก

    "ลู่หาน ไล่ตรวจให้หมดทุกคนเลยนะ แล้วเดี๋ยวช่วยฉันตักข้าวแจกเด็กๆ" เสียงของครูคยองซูดังขึ้นอีกครั้ง ลู่หานใช้ปากกาแท่งเดียวกับที่เซ็นชื่อให้เซฮุนไล่เดินตรวจคนที่คัดเสร็จแล้ว อาหารกลางวันสำหรับเด็กอนุบาลมื้อนี้คือข้าวผัดไส้กรอกกับของหวานคือแอปเปิ้ล ผลไม้ที่เขาเห็นทุกฤดูกาลในซุปเปอร์มาร์เก็ตอาหารทั้งหมดถูกแพ็คใส่ในกล่องพลาสติกสีเหลืองที่มีชื่อของเด็กแค่ละคนติดอยู่บนกล่อง หน้าที่ที่มันต้องแจก ครูคยองซูยกหน้าที่ให้เขาไปโดยปริยายเรียบร้อย ครูที่โรงเรียนนี้ก็กินดีอยู่ดีใช่ย่อย มีอาหารมาส่งให้ถึงที่ตามที่นักโภชนาการจัดให้ กินดีอยู่ดีทั้งเด็กทั้งครู รอลู่หานเรียนจบจะมาขอเฮียทำงานที่นี่แหละ

    "ตะยอง ป้อนหน่อย ป้อนๆ" จงอินโวยขึ้น เซฮุนที่นั่งอยู่ข้างๆจึงทำตามบ้าง

    "ลูลู่ฮะ ป้อนข้าวหน่อยฮะ" ลู่หานได้ยินเสียงเรียกจึงจำเป็นต้องยกกล่องข้าวของตัวเองไปนั่งลงข้างๆเด็กน้อยโอเซฮุน ช้อนลายเป็ด(สักวันผมจะหักมันทิ้ง:ลู่หาน)แสนน่ารักตักข้าวกะไส้กรอกเข้าปากเด็กขี้อ้อน(?) จงอินที่นั่งอยู่ข้างๆเมื่อไม่เห็นคยองซูเดินมาหาก็ทำหน้าบึ้งก่อนจะตักข้าวเข้าปากคนเดียว เชอะ!

  • ลู่หานต้องมานั่งตบตูดปุๆให้เจ้าเด็กขี้อ้อนเซฮุนที่่บอกว่าตนนอนไม่หลับ เขาเองตบจนเมื่อยมือแล้วเนี่ย เจ้าเด็กนี่ก็ยังคงมองเขาตาแป๋วใสวิ๊งอยู่เลย

    "หลับซะสิเซฮุนน่า พี่ตบตูดนายจนเมื่อยแล้วนะ"

    "จุ๊บเค้าจิ เดี๋ยวเค้าหลับเยย" อีหนู! นายเป็นเด็กแก่แดดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันห๊าา~ แต่ถ้าจุ๊บแล้วมันหลับ ลู่หานก็ยอมวะ!

    จุ๊บ~

    "นอนได้แล้วนะ" จุ๊บลงบนแก้มนุ่มๆของอีเด็กน้อยฮุน กว่าจะลุกออกมาจากที่นอนเด็กนั้นได้เกือบจะหลับแล้วเนี่ย ลู่หานเดินกลับมานั่งกับครูคยองซูที่กำลังเล่นโทรศัพท์อย่างไม่สนใจใคร ก็แหงล่ะ ขนาดเจ้าเด็กดำเรียกร้องความสนใจขนาดหนัก ครูคยองยังไม่กระดิกตัวสักแอะจนเด็กดำงอน

    "เซฮุนหลับแล้วหรอ"

    "ครับ กว่าจะหลับเล่นเอาผมเมื่อยข้อมือ"

    "ปกติเซฮุนเงียบๆนะ พอนายมาสอนเจ้าเด็กนั้นก็ดูเรื่องเยอะเหมือนจงอินขึ้นมาทุกชั่วโมง ตั้งแต่ตอนป้อนข้าวละ ฉันหล่ะหมั่นไส้" ครูคยองซูพูดติดตลกนิดๆ "อย่าให้ได้ใจหล่ะ ไม่งั้นกู่ไม่กลับเหมือนเด็กดำฉันแน่"




    ผ่านไปวันแล้ววันเล่า ความเรื่องเยอะของเซฮุนก็ดูจะทวีคูณมากขึ้นตามที่ครูคยองซูบอก ไม่ว่าจะกิน จะนอน จะทำอะไรก็ตามเหอะ ถ้าเขาหายไปสักวัน พ่อนักรักของเขาจะขาดใจตาย ดิ้นแด่วๆเป็นปลาขาดน้ำมั้ยนะ จะว่าไปแล้ว เจ้าเด็กฮุนนี่ชื่อคล้ายๆกับคนที่เขาชอบเลยนะ อย่าว่าแต่ชื่อเลย นามสกุลก็ใช่ แต่หมอนั่นไม่ค่อยจะพูด วันๆทำหน้าเป็นอยู่หน้าเดียว เรียนคณะวิทยาศาสตร์อีก เอาใจลู่ไปเถอะ~

    อีกวันกี่เดือนข้างหน้า เด็กๆเหล่านี้ก็จะเรียนจบอนุบาลแล้ว น่าใจหายจริงๆสำหรับคุณครูหลายๆคน ลู่หานเป็นห่วงก็แต่เจ้าเด็กฮุนนี่เนี่ยหล่ะ

    แต่กว่าจะถึงวันนั้น วันนี้ทางอนุบาลเป็ดน้อยมีการจัดทัศนศึกษาที่สวนสัตว์ เด็กทั้งหลายในชุดเหลืองกับหมวกเหลืองแสนสดใสเดินยิ้มร่าที่จะได้ไปเที่ยว ป้ายห้อยคอถูกแจกโดยลู่หาน(อีกแล้ว) ตอนนี้เขารู้จักเด็กๆทุกคนหมดแล้ว นิสัยเป็นยังไง ชอบอะไรไม่ชอบอะไร รู้! ลู่หานรู้

    "เข้าแถวให้เรียบร้อยนะ เดี๋ยวเราจะทยอยกันขึ้นรถแล้ว" รถบัสห้าคันของโรงเรียนที่ผู้อำนวยการเงิงเยอะแสนใจดีทุ้มทุนซื้อมาโดยเฉพาะ สีเหลืองอีกแล้วว!!! ลู่หานเกลียดสีเหลืองงงงงง!~

    รถบัสทั้งห้าคันออกตัวสู่ถนนใหญ่เป็นที่เรียบร้อย เสียงของนักเรียนตัวเล็กยังดังเซ็งแซ่ บางคนก็นั่งมองทางเงียบๆ บางคนก็หลับคอพับ บางคนก็คุยกัน แต่ดูเหมือนใครคนหนึ่งกำลังจ้องเขาไม่วางตา ขบวนทัวร์จอดลงที่จุดจอดรถของทางสวนสัตว์เพื่อนั่งรถรางเข้าไปอีกต่อ คยองซูบอกให้ทุกคนจับมือกันไว้ตามท้ายสุดด้วยเขา ด้วยความที่ขนาดตัวของนักเรียนแต่ละคนมันเล็ก สามสิบคนบวกกับผู้ใหญ่สองคนจึงสามารถอัดได้สบายสำหรับรถหนึ่งคัน เสียงเจี๊ยวจ๊าวดังขึ้นอีกระลอกขณะที่รถออกตัว ลู่หานยิ้มกับตัวเอง เขาไม่ได้มาสวนสัตว์นานแค่ไหนแล้วนะ

    จุดแรกที่รถรางจอดคือเสือ เด็กๆทุกคนทำตามคำสั่งครูคยองซูดีมาก รถจอดปุ๊บ มือเล็กๆก็คว้าก้านนิ้วของเขาไปจับเรียบร้อย

    "ลูลู่ นั้นอะไร" นิ้วป้อมชี้ไปทางด้านกรงลามะ "ม้าหยอย?"

    "นั้นลามะต่างหากเซฮุน เรามาดูเสือนะ ไม่ใช่ลามะ" เดินดูไปเรื่อยๆจนสิ้นสุดอาณาจักรเสือ ครูคยองซูหยิบกล้องจากกระเป๋าสะพายข้างขึ้นมาและขอให้พนักงานถ่ายรูปให้พวกเขาหน่อย

    แชะ!


    "เด็กๆเนี่ย ยิ้มสู้กล้องกันน่าดูนะ" ครูคยองซูมองรูปจากกล้อง มากี่ปีๆที่นี่ก็ไม่เคยเปลี่ยนเลย

    เดินๆนั่งๆกันมาจนถึงเที่ยง อาหารกล่องจากโรงเรียนส่งตรงมาถึงที่นี่กันเลยทีเดียว เซฮุนเห็นใบหน้าอิดโรยของครูพี่เลี้ยงหน้าหวาน ริมฝีปากนิ่มประทับลงบนแก้มนุ่มๆของครูพี่เลี้ยง เพื่อนที่นั่งกันอยู่แถวใกล้ๆก็ต่างลุกขึ้นมาหอมแก้มครูหน้าหวานกันยกใหญ่

    ความรักของพวกนายมันกำลังแอคแทคหัวใจฉันนะ





    อีกด้านหนึ่ง

    "สำเร็จแล้วชานยอล มันได้ผล" แบคฮยอนกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจเมื่อผลการทดลองออกมาเป็นที่น่าพอใจ ยากลับคืนสภาพใช้ได้ผล พวกเขาทำสำเร็จแล้ว

    "เดี๋ยวแลปก็พังพอดีแบคฮยอน ฉันรู้หน่า" ชานยอลรีบเบรกคนตัวเล็กที่เริงร่าเกินเหตุ "ใจเย็นลงหน่อยสิ"

    "ก็ฉันดีใจหนิ ที่ไอ่ฮุนมันจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม"

    "ค้าบ แต่ใจเย็นก่อนนะ" แลปยิ่งเล็กๆอยู่ เงินค่าขนมเดือนนี่ก็จะหมดกับการการทดลองบ้าๆนี่ด้วย เอาตังค์ของปาร์คชานยอลคืนมาน้าาาาาา




    เพลิดเพลินไปกับการเที่ยวเล่นในสวนสัตว์ของเหล่าลูกเป็ด คนเหนื่อยก็ลู่หานกับครูคยองซูอนี่ยแหละ นอนก็ไม่ได้นอนทั่้งขึ้นทั้งล่อง ไหนจะมาเจอแอร์เย็นๆบนรถนี่อีก ของีบสักแปปได้มั้ยอ่ะ

    ไม่นานนักก็กลับมาถึงโรงเรียนอย่างปลอดภัย เหล่าผู้ปกครองต่างมารอรับบุตรหลานกันอย่างหนาตา แต่ที่ลู่หานสนใจคือพ่อแม่ของเด็กชายโอเซฮุน

    "มารับโอเซฮุนครับ" เสียงทุ้มคุ้นๆหูดังขึ้นมทางด้านหลังของเขา ลู่หานหันกลับไปก็ต้องตกใจกับบุคคลตรงหน้า นี่มันชานยอลกับแบคฮยอนเพื่อนสนิทของคนที่เขาแอบชอบหนิ

    "โอ๊ะ!? ลู่หาน" คนทั้งคู่ก็ตกใจไม่ต่างจากเขานัก "นายมาทำงานที่นี่หรอ"

    "ใช่ๆ มารับเซฮุนหรอ นอนอยู่ในรถหน่ะ เดี๋ยวอุ้มมาให้นะ" ลู่หานแทบกรี๊ดเมื่อเห็นเพื่อนตัวเป็นๆของคนที่ชอบระยะประชิดขนาดนี้ เขาเดินกลับขึ้นรถไปอุ้มเจ้าเด็กนักรักลงมาส่งให้แก่ชานยอล คนที่ถูกอุ้มเมื่อรู้สึกตัวก็เอาหน้าซบกับต้นคอหอมๆของครูพี่เลี้ยงแน่น

    "ตื่นได้แล้วนะเซฮุน พี่นายมารับแล้ว" แต่ทำไมเซฮุนตัวอุ่นๆแบบนี้อ่ะ

    "งื้อ~" แขนเล็กล็อคคอเขาแน่นขึ้นอีกเมื่อถูกปลุก ตัวไม่ใช่เล็กๆแล้วนะเฟ้ย หนัก!

    เป็นเวรกรรมของชานยอลที่ต้องไปแงะเพื่อนในร่างเด็กอนุบาลออกจากอ้อมอกครูพี่เลี้ยงชั่วคราวอย่างลู่หาน ชานยอลและแบคฮยอนกล่าวขอบใจอีกครั้งก่อนจะพากันกลับ อาการไข้ของเซฮุนก็ดูจะเป็นเรื่องใหญ่ไม่น้อย แต่ยังไงซะ ยากลับคืนสภาพก็จะต้องให้เซฮุนกินให้ได้ โชคดีหน่อยตรงที่ยานั่นมันเป็นของเหลว แบคฮยอนใช้หลอดดูดยาดูดของเหลวนั่นขึ้นมาในปริมาณที่พอดีและกรอกเข้าปากเพื่อนรักทันที

    "หวังว่ามึงจะหายนะ"




    ตลอดหลายวันที่ผ่านมาลู่หานก็นึกสงสัยว่าทำไมไม่เห็นเจ้าเด็กขี้อ้อนมานานแล้ว สงสัยคงจะป่วย แถมงานจบการศึกษาก็ใกล้เขามาแล้วด้วย รู้สึกใจหายแปลกๆ

    "ลู่หานฝากดูเด็กๆแป๊ปนะ เดี๋ยวมา" ครูคยองซูเดินออกไปทันทีที่รับโทรศัพท์ ลู่หานก็ได้แต่รับคำนั่งดูเด็กๆวาดรูปในตอนเช้า

    "ขอโทษครูคยองซูด้วยนะที่เรียกมาโดยพลการ ผู้ปกครองของเด็กชายโอเซฮุนมายื่นใบลาออกน่ะ ช่วยเซ็นรับทราบด้วยนะ" คริสกล่าว เลื่อนใบลาออกสีขาวมาทางคยองซู เขาเองตกใจไม่ใช่น้อยที่อยู่ๆลูกศิษย์ตัวน้อยๆของเขามาลาออกกลางคันแบบนี้ ลายมือชื่อเซ็นลงบนกระดาษเพื่อรับทราบ อยากจะเห็นหน้าคู่หูของจงอินอีกสักครั้งจริงๆ

    "ขอบคุณมาก เสร็จแล้วครับ ขอบคุณที่ไว้ใจโรงเรียนเรานะครับ"

    "อ่อครับ ขอโทษครูด้วยนะครับที่ต้องมารบกวน" ปาร์คชานยอลเอ่ยขึ้น

    "ผมขอคุยกับผู้ปกครองสักครู่ได้มั้ยครับ" ครูคยองซูถาม

    "ได้สิครับ ขอตัวก่อนนะครับ" ชานยอลโค้งให้ผู้อำนวยการก่อนจะเดินตามคยองซูออกไปที่ห้องพักครู ครูตัวเล็กหยิบรูปถ่ายที่อัดเรียบร้อยแล้วส่งให้ชานยอลสองใบ คือรูปที่ถ่ายตอนเปิดเทอมกับตอนที่ไปทัศนศึกษา

    "เป็นที่ระลึกจากผมแล้วกันนะ"

    "ขอบคุณครับ ขอบคุณครูคยองด้วยนะครับที่ช่วยดูแลน้อง"

    "ครับ" คยองซูยิ้มมองตามคนตัวสูงไป




    ลู่หานหมดหน้าที่การเป็นครูพี่เลี้ยงไปโดยปริยายเพราะมหาลัยเปิดภาคเรียนแล้ววันนี้เป็นวันแรก แต่วันหลังจะกลับไปใหม่เพราะเงินเยอะบริการแยะของทางโรงเรียนอนุบาลเป็ดน้อย รูปวาดของเด็กๆทุกคนอยู่ในแฟ้มงานของเขาเสมอแต่ที่จำได้ดีคงจะเป็นของเด็กชายโอเซฮุน ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเป็นไงบ้างน้าา

    อันที่จริงแล้วที่ลู่หานได้ทำงานที่โรงเรียนอนุบาลได้เป็นเพราะว่าเขาเองเรียนคณะครุศาสตร์เอกภาษาจีน แต่ที่ยังไปสอนเด็กโตไม่ได้เพราะยังไม่ถึงเวลาดูงานและฝึกงานนั้นเอง

    ปึก!

    ใครชนกู!~ ลู่หานได้แต่สบถในใจ หันกลับเตรียมจะต่อว่าแต่ก็ต้องยกมือค้าง ก็นั้นมันคนที่เขาแอบชอบหนิ แม่เจ้า! ขอถังออกซิเจนด่วน ความหล่อแอคแทคกูววว~

    "โทษที พอดีรีบน่ะ" เซฮุนกล่าวขอโทษ ก่อนจะเดินออกไป ลู่หานเห็นกระดาษตกอยู่หนึ่งแผ่นข้างๆจึงเก็บขึ้นมาดู มันเป็นเพียงกระดาษเปล่าๆ เขาพลิกไปพลิกมาอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่มีอะไรเหมือนเดิม เขาเตรียมจะพับเก็บใส่กระเป๋าแต่ข้อความดันเด้งขึ้นมาในมือถือของเขาเสียก่อน

    ถึงคุณเจ้าของเบอร์นี้ คุณคือผู้โชคดีที่ได้รับกระดาษจากเด็กคณะวิทย์ กรุณานำมาที่ตึกคณะวิทย์เดี๋ยวนี้

    อ่านข้อความเสร็จ ลู่หานก็วิ่งตาลีตาเหลือกไปยังตึกคณะวิทย์ ที่อยู่คนละฟากกับตึกคณะเขา เหนื่อยเว้ย!

    เหล่านักศึกษารุ่นน้องคณะวิทย์ยืนมุ่งกันอยู่หน้าตึกคณะ ลู่หานสบสายตาเข้าพอดีกับแบคฮยอนที่ยืนถือโทรโข่งอยู่ระหว่างชานยอลและเซฮุน

    "ผู้โชคดีมาแล้ว มาทางนี้เลย" กวักมือยิกๆเรียกเขา ลู่หานเดินฝ่าวงล้อมรุ่นน้องเขาไปแล้วยื่นกระดาษมาคืนแก่แบคฮยอน

    "เพื่อนนายทำตกไว้ ฉันเอามาคืนน่ะ"

    "จริงหรอไอ่ฮุน แต่ก็ถือว่านายเป็นผู้โชคดีอยู่ดีนะ อะชานยอล ทำการทดลองซิ" แบคฮยอนรับกระดาษจากเขาส่งต่อให้ชานยอล ชานยอลจุดตะเกียงแอลกอฮอล์ที่คาดว่าน่าจะเอามาจากแลปของทางคณะแล้วเอากระดาษไปลนไฟ มีรอยเกรียมๆสีน้ำตาลเกิดขึ้นบนแผ่นกระดาษเป็นข้อความอะไรสักอย่างที่ลู่หานยังอ่านไม่ออก

    People who collect this paper. I like you.
    คนที่เก็บกระดาษแผ่นนี้ได้น่ะ ผมชอบคุณนะ


    คงไม่ใช่เขาหรอก ลู่หานคิด

    "พูดอะไรหน่อยดิมึง" แบคฮยอนกระซิบ

    "ก็ตามที่บอก ใครเก็บได้ ฉันก็ชอบคนนั้นแหละ มีแค่ใบเดียว" เซฮุนพูดเริ่มเขินเล็กน้อย "แล้วที่เดินชนนะ จงใจ"

    ลู่หาน สติแกยังอยู่ครบใช่มั้ย!? ลู่หานเอาแต่ทำหน้าเหวอจนเซฮุนแอบยิ้มน้อยๆ ร่างสูงในชุดนักศึกษาเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กและกระซิบข้างหู

    "ผมชอบลูลู่นะ"

    จุ๊บ~

    ตู้มมมมมมมมมม~

    เรียกรถพยาบาลมา ไม่ไหวแล้วโว้ย! เซฮุนกดจมูกสูดกลิ่นหอมๆของแก้มนิ่ม ลู่หานยังคงสติแตกอยู่ เหล่ารุ่นน้องก็เอาแต่แซวจนลู่หานหน้าแดง นี่ซินะ! สารภาพรักแบบเด็กคณะวิทย์





Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in