“น้องคะ มาอยู่ตรงนี้ก่อนนะ อย่าซนสิ” เสียงตะโกนโหวกเหวกของจอยทำให้คนว่างงานอย่างลู่หานเดินเข้าไปช่วยเพราะไม่อยากอยู่เฉยที่เต็นท์ประจำสี วันนี้ที่โรงเรียนของลู่หานมีงานกีฬาสีประจำปีการศึกษานี้ ช่วงสามอาทิตย์ก่อนวันแข่งกีฬาสีจริงๆเขาก็ไม่ได้มาช่วยเป็นสตาฟฟ์กีฬาให้เด็กๆหรอก เขาอยู่ฝ่ายศิลปะที่ต้องนั่งทำป้ายนั่นป้ายนี่เพื่อใช้ในการเดินขบวนและการแข่งขันเต้นแอโรบิกของสี เวลาที่จะลงไปเป็นสตาฟฟ์ตามที่ใจหวังไหวไม่มีหรอก
“มีอะไรให้เราช่วยมั้ยจอย?”
“ลู่หานมาพอดีเลย เธอช่วยคุมเด็กปอสามทีได้มั้ย ชั้นหนึ่งมีกันตั้งแปดคน เราคุมคนเดียวสองชั้นไม่ไหวหรอก”
“ได้สิๆ มีใครบ้างหล่ะ” เขาถามขึ้น จอยชี้ไปที่เด็กๆแต่ละคนที่วัยกำลังแก่นได้ที่ เด็กๆแปดชีวิตฝากความหวังไว้ที่ลู่หานและตามติดเขาแจตั้งแต่เพิ่งได้รู้จัก ความจริงเขาเองก็ไม่ได้รู้จักชื่อน้องๆหมดทุกคนหรอกนะ เวลาเรียกเด็กๆทีไรก็เรียกน้องทุกที คงมีแต่น้องแหละมั้งที่รู้จักชื่อของเขา
ตอนนี้เขาคงเหมือนพ่อลูกอ่อนก็ไม่ปาน เด็กๆทั้งหลายตามติดเขาอย่างกับตังเมเวลาบอกให้นั่งกันอยู่นิ่งๆเคยฟังกันที่ไหน เอาแต่เล่นกันจนเขาต้องดุไปรอบหนึ่งถึงจะยอมหยุดซนได้ ดุในที่นี่ของเขาคือการขู่ว่าถ้าไม่เงียบจะโดนกรรมการปรับแพ้ เด็กเลยเงียบได้
“อ้าว! พี่ลู่ หวัดดีครับ” เสียงคุ้นๆหูทักขึ้น ลู่หานละสายตาจากเด็กๆมามองที่คนต้นเสียง เป็นน้องเซฮุนมอสี่ที่สะพายกล้องเดินลาดตะเวนถ่ายรูปกิจกรรม
“หวัดดี อยู่สีอะไรหรอเราอ่ะ”
“สีแดงครับ พี่สีฟ้าหรอ”
“อือ ไม่แข่งกีฬาหรอ นึกว่าแข่งกีฬาซะอีกนะเนี่ย”
“ไม่ดีกว่าครับ นี่พี่เป็นสตาฟฟ์ด้วยหรอ ผมไม่เคยเห็นพี่มาคุมน้องเลย”
“มาช่วยเพื่อนเฉยๆน่ะ ไหนๆก็มีกล้องแล้ว ถ่ายรูปพี่กับเด็กๆให้หน่อยสิ”
“ได้ครับพี่” น้องเซฮุนยกกล้องขึ้นมาระดับสายตา ส่วนตัวเขาก็กวาดต้อนเด็กๆมารวมกันให้เป็นกระจุกเดียวและบอกให้น้องๆพูดชีสพร้อมกัน ลู่หานไม่รู้หรอกนะว่าน้องเค้ารัวไปได้กี่รูป จะกี่รูปเขาก็คงบอกให้น้องเซฮุนส่งมาทางไลน์ให้หมด มีรูปเขาในกล้องน้องคงเปลืองพื้นที่จัดเก็บแย่เลย
ไม่ต้องแปลกใจนะว่าเขามีไลน์น้องได้ยังไง น้องเซฮุนเป็นคนแอดไลน์เขามาตอนที่น้องกำลังหาพี่รหัสและคงเป็นเพราะว่าน้องคิดว่าเขาเป็นพี่ร่วมสายรหัสด้วยก็เลยแอดมามั้ง แต่ที่เขายังแปลกใจไม่หายคือน้องไปเอาไอดีไลน์ของเขามาจากไหน ทั้งๆเขาไม่เคยบอกเพื่อนเลยนะว่าตัวเขาเองนั่นเล่นไลน์อยู่
“งั้นเดี๋ยวผมขอตัวก่อนนะพี่ สู้ๆครับ” น้องชู้กำปั้นขึ้นมาและยิ้มให้อย่างเป็นกันเอง
“เราก็สู้ๆนะ” ลู่หานบอกกับน้องเซฮุน “เด็กๆ เดี๋ยวเราไปเข้าแถวที่ตรงหน้าตึกมอหกนะ ตามพี่มาเร็ว” มือเล็กยื่นให้เด็กจับและจูงฝ่าผู้คนไปยังที่หมาย
ไหนๆเขาก็พูดถึงน้องเซฮุนแล้ว น้องเค้าเป็นเด็กมอสี่ที่ตัวสูงมาก(กอไก่ล้านตัว) นอกจากจะสูงแล้วยังขาวด้วย หน้าตาก็ดี เรียนก็เก่ง เป็นหน้าเป็นตาแก่โรงเรียนอย่างมาก จะเรียกว่าเพอร์เฟ็คก็ยังไม่ได้หรอก น้องเค้าไม่เก่งกีฬา แต่ก็ดีแล้วที่ไม่เล่น เสียดายผิวขาวของน้อง
การแข่งขันเป็นไปอย่างยืดเยื้อย แดดก็ร้อน เด็กๆก็เริ่มอยู่ไม่สุข เขาเองก็เช่นกัน ความวอแวของน้องๆทำให้เริ่มโมโหขึ้นมานิด พอถามว่าอยากกินอะไรมั้ย พวกหนูๆก็พาเขาไปเสียเงินซื้อหวานเย็นหมดไปเกือบยี่สิบบาท พอได้กินอะไรนิดหน่อยก็กลับมาเริงร่าได้อีกครั้ง ร่าเริงได้ก็เริ่มซน เริ่มซนก็เหนื่อยเขาอีก
“เด็กๆ สู้ๆนะ เดี๋ยวก็ได้พักแล้วนะ” เขาบอกให้กำลังใจก่อนจะพาเด็กๆไปแข่ง เพราะตัวเขาเองก็หิวจนไส้จะกิ่วอยู่แล้ว ลู่หานคอยเอาใจช่วยและในที่สุดเด็กที่ฟิตซ้อมมาเกือบเดือนก็คว้าที่หนึ่งมาครองจนได้ ทั้งเขาและเด็กๆกระกันหยองๆด้วยความดีใจ และภารกิจสุดท้ายในวันนี้ก็คือพาน้องๆกลับห้องไปกินข้าวเที่ยง
หลังจากหลุดพ้นจากเหล่าเด็กๆได้แล้วลู่หานก็พาร่างอันหิวโซของตัวเองมายังโรงอาหาร เขาสั่งข้าวราดแกงมากินเพิ่มพลังในช่วงบ่าย ความเย็นที่แก้มทำให้เขาสะดุ้ง เป็นน้องเซฮุนคนเดิมที่เอาขวดน้ำเย็นๆมาแนบแก้มเขา น้องยิ้มและนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
“ทำไมมากินข้าวคนเดียวครับพี่”
“หิวข้าวไง กว่าเพื่อนจะแข่งเสร็จพี่คงเป็นลมไปก่อนพอดี ว่าแต่เราเหอะ เพื่อนไปไหนหมด”
"ผมก็โดนเพื่อนเทแบบพี่นี่แหละครับ"
"แล้วนี่กินข้าวเสร็จแล้วหรอ"
"ครับ กำลังจะไปถ่ายรูปต่อพอดี แต่เห็นพี่นั่งคนเดียวเลยเข้ามาทัก"
"ใจดีนะเราเนี่ย ไปถ่ายรูปต่อสิ"
"ผมเปลี่ยนใจแล้วครับ นั่งรอพี่ทานข้าวดีกว่า ผมจะได้มีเพื่อนคุยด้วย"
"หู้ย ไม่เอาอ่ะ พี่เกรงใจ" ลู่หานโบกมือเป็นพัลวัน "เดี่ยวเซฮุนจะเสียงาน"
"ใครแคร์ นี่กล้องผมซะอย่าง ไม่ได้มีคนจ้างเสียหน่อย" น้องเซฮุนยิ้ม ดวงตาที่ว่าตี่แล้วพอยิ้มเข้าไปยิ่งตี่กว่าเดิมซะอีก เหมือนสระอิไม่มีผิด
"ว่าแต่พี่ลู่จะไปไหนต่อรึเปล่าครับ"
"คงไปสิงอยู่ที่เต๊นท์สีนั่นแหละ สีฟ้ากับสีแดงแข่งบอลด้วยนะ"
"ผมไปอยู่ด้วยได้มั้ยพี่ ไม่มีเพื่อนอ่ะ"
"อ้าว แล้วเพื่อนคนอื่นหล่ะ"
"ส่วนใหญ่ก็ผู้หญิงอ่ะ ผมไม่ชอบโดนผู้หญิงรุมนะพี่"
"คิดว่าสีฟ้าจะมีแต่ผู้ชายรึไง เรานี่ก็" ลู่หานอมยิ้ม "ระวังเพื่อนพี่จีบเอาไม่รู้ด้วยนะ"
"ผมจะระวังอย่างดีเลยครับ" น้องเซฮุนทำมือรับทราบเหมือนทหาร
ลู่หานทานข้าวเสร็จในไม่กี่นนาทีต่อมา เขาขอตัวมาซื้อไอศกรีมกินแก้ร้อน ระหว่างที่กำลังจะจ่ายเงินก็ไดด้ยินเสียงเด็กๆในการดูแลดังขึ้นจากด้านหลัง เด็กๆตัวเล็กเห็นเขาตั้งแต่ปากประตูเข้าโรงอาหาร เป็นอีกครั้งที่ลู่หานต้องเสียเงินซื้อไอศกรีมเพิ่มอีกสี่อัน สามอันรสคุกกี้แอนด์ครีมของเด็กๆและอีกอันรสวนิลาของน้องเซฮุน รุ่นพี่ตัวเล็กสั่งในทุกคนจับมือกันและเดินตามเขามา ไอศกรีมรสวนิลาถูกยื่นให้รุ่นน้องหน้าตาดี
"อ่ะ พี่ซื้อมาให้"
"ขอบคุณครับ แล้วนี่มากันได้ยังไงครับเด็กๆ" น้องเซฮุนรับไอศกรีมไปก่อนจะย่อตัวลงคุยกับน้องๆตัวเล็ก ท่าทีของเด็กๆแต่ละคนทำเอาลู่หานหัวเราะออกมา เพราะน้องๆที่ว่าเป็นเด็กผู้หญิง ท่าทีเขินอายและไม่กล้าสบตาคนหล่อๆเป็นเรื่องธรรมดาของเด็กผู้หญิง
แผนการที่จะไปนั่งเปื่อยอยู่ที่เต๊นท์เป็นอันต้องเปลี่ยน ลู่หานบอกให้เด็กๆนั่งกินไอศกรีมให้เรียบร้อยก่อนเพราะถ้ามือเลอะก็จะได้ล้างมือเลย เด็กๆไม่ชอบความเหนอะหนะหรอก ตนที่เดินผ่านไปผ่านมาก็เอาแต่มองพวกเขาอยู่ได้ มีอะไรให้น่ามองตรงไหนกัน
"พี่ลู่หานครับ" หรือบางทีคนที่ผ่านไปผ่านมาอาจจะมองคนหล่อที่กำลังนั่งอยู่กับเขาก็ได้
"ว่าไง"
"ผมอยากชิมรสที่พี่กิน ขอชิมหน่อยได้มั้ยครับ แลกกับของผมคนละหนึ่งคำ"
"ได้สิ" ลู่หานยื่นไอศกรีมในมือส่งให้อีกคนรับไว้ แต่รุ่นน้องหนุ่มกลับยื่นหน้ามางับเนื้อไอศกรีมรสช็อกโกแลตจนเลอะขอบปากไปหมด เซฮุนยื่นของตัวเองมาบ้าง รุ่นพี่ตัวเล็กจะถือไว้แต่เซฮุนส่ายหน้าเป็นเชิงว่าไม่ให้ถือ ลู่หานเลยต้องยื่นหน้าไปงับเนื้อไอศกรีมเช่นเดียวกับที่หนุ่นรุ่นน้องทำ
ริมฝีปากสีพีชเปื้อนไปด้วยคราบครีมนม ลู่หานจะใช้หลังมือเช็ดแต่โดนรั้งเอาไว้ นิ้วหัวแม่มือของน้องเซฮุนค่อยๆบรรจงเช็ดออกให้อย่างเบามือ การกระทำแบบนั้นทำให้หัวใจของลู่หานเต้นผิดไปหนึ่งจังหวะ ใบหน้าหวานเห่อร้อนราวกับกำลังโดนไอน้ำจากแก้วน้ำอุ่นที่แม่ชอบให้เขาดื่มอย่างไรอย่างนั้น
"กินเลอะเหมือนเด็กเลยนะครับ แถมยังจะเอาหลังมือเช็ดอีกด้วย"
"พะ...พี่ว่าเรารีบทานไอติมให้หมดกันดีกว่านะ พี่อยากไปดูบอลแล้ว" ลู่หานเปลี่ยนเรื่อง ใบหน้าของเขาร้อนผ่าวไปหมดเพราะมือใหญ่ๆของรุ่นน้องหนุ่มตาตี่
กลองทอมถูกตีเป็นจังหวะสนุกๆ เหล่ากองเชียร์รุ่นใหญ่ต่างพากันนั่งเกาะขอบสนามในเวลาบ่าย ผิดกับกงเชียร์รุ่นเล็กที่บางส่วนกลับไปอยู่ที่ห้องเรียนและบางส่วนก็เดินเล่นรอบๆบริเวณงาน เด็กๆที่ตอนแรกเดินจูงมือมากับลู่หานก็ขอตัวไปเล่นกับเพื่อนวัยเดียวกัน จึงเหลือแต่คนอายุมากหนึ่งอัตรากับเดือนของโรงเรียนหนึ่งอัตรา
พอเท้าทั้งสองคู่ก้าวเข้ามาในเต็นท์ของสีฟ้า เสื้อสีแดงเด่นของหนุ่มรุ่นน้องเป็นเหมือนแกะดำที่ทำให้สาวๆที่นั่งเกาะขอบสนามหันมามองกันให้ควั่ก เซฮุนยิ้มแหยๆก่อนจะสวัสดีพี่ๆทุกคนอย่างเป็นกันเอง พวกสาวๆที่รอดูนักฟุตบอลหล่อๆก็โอนเอียงมาทางน้องจนน้องเกร็งเลย ลู่หานรู้สึกได้
กรรมการในสนามเป่านกหวีด ทำให้ผู้คนเริ่มให้ความสนใจกับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้น นักกีฬาของแต่ละสีเริ่มลงทยอยสนามและเกมก็เรื่มในวินาทีต่อมา เหล่ากองเชียร์ของสีแดงและสีฟ้าต่างคนต่างเชียร์สุดใจ ลู่หานเองก็ได้แต่นั่งเชียร์อยู่ไกลๆเพราะไม่อยากให้หนุ่มรุ่นน้องนั่งตัวลีบอยู่คนเดียวในสีของเขา
ประกาศจากทางส่วนกลางนะคะ ในเวลาต่อจากนี้ไป จะมีการแข่งขันกองเชียร์ของแต่ละสี สีไหนที่เชียร์ได้นานและมันส์ที่สุดจะได้รับขนมและถ้วยราวัล และบัดนี้ ครูขอเริ่มการแข่งขันค่ะ!
เสียงประกาศจากส่วนการปลุกจิตที่อยากจะชนะให้ลุกโชน จุนมยอนที่เป็นผู้รับผิดชอบด้านกองเชียร์รีบส่งเสียงให้เหล่าเพื่อนๆและน้องๆในเต็นท์ให้ลุก ชานยอลที่รับหน้าที่เป็นมือกลองยืนประจำจุด มือจับไม้กลองแน่นก่อนจะเริ่มตีเป็นจังหวะสนุกๆ แบคฮยอนที่มีส่วนในงานเชียร์ก็คว้าไมค์มาร้องเพลง
นกกกกระยาง .. ยืนขาถ่างอยู่กลางทุ่งนา (ซ้ำ)
มองเห็นกุ้ง หอย ปู ปลา.. มองเห็นกุ้ง หอย ปู ปลา
แล้วก็ป้าปป้าปป้าป ! แล้วก็ป้าบป้าบป้าบ !
จุ๊บจุ๊บจิ๊บจิ้๊บจั๊บจั๊บ.. จุ๊บจุ๊บจิ๊บจิ้๊บจั๊บจั๊บ..
แล้วก็ป้าปป้าปป้าป ! แล้วก็ป้าบป้าบป้าบ !
"น้องคนไหนที่ไม่ลุกพี่จะไปดึงมาเต้นข้างหน้านะเว้ย แล้วน้องเสื้อแดงมาอยู่สีฟ้าได้ไงครับ" แบคฮยอนเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นเดือนของโรงเรียนนั่งหน้านิ่งอยู่ในเต็นท์สี เจ้าพ่องานรื่นเริงรีบดิ่งมาหาด้วยความสงสัยปนอยากจะแกล้ง พอเหลือบมองมาที่ลู่หานก็ทำหน้าทะเล้นส่งให้
"เดือนโรงเรียนอยู่สีแดงแล้วมาทำอะไรสีฟ้าครับน้อง"
"ไอ่แบค อย่าแกล้งน้อง" ลู่หานปราม
"แกล้งเกลิ้งอะไร กูจะมาชวนน้องไปเต้นเว้ย มาๆ มึงก็ด้วยไอ่ลู่"
"ไม่เอา กูเต้นไม่เป็น"
"ตอแหล วันวิทย์ฯมึงยังไปเต้นแร้งเต้นกาอยู่ในซุ้มดาราศาสตร์อยู่ กูเห็นนะ" สิ้นคำบอกเล่าจากปากเพื่อนสนิท เซฮุนก็หัวเราะออกมากับความจริงอีกข้อที่เขาได้พบและเขาก็อยากจะเห็นมันสักครั้ง
"ถ้าพี่ไปเต้น ผมก็จะไปกับพี่" รุ่นน้องตาตี่เสนอ แบคฮยอนเลยต้องเปลี่ยนเป้าหมายมาที่เพื่อนตากวางของตัวเองแทน
"ถ้ามึงออกไปเต้นกับกู เครปเค้กเจ้าประจำจะตกเป็นของมึงทันที" คิดหรอว่าเอาของกินมาล่อแล้วลู่หานจะยอม...
สวย เริด เชิด หยิ่ง จริงๆนะจ้ะ
สวย เริด เชิด กว่า กว่าใครไหนๆ
สวย เริด เชิด เก่ง กะเด้งกว่าใคร
สวย เริด เชิด ใส่ กว่าใครทุกคน
เหงื่อเม็ดโตตามรูปหน้าสวยมาจากการออกไปขยับแขนขยับขาที่หน้าเต็นท์ การหลอกล่อลุ่หานด้วยเครปเค้กประสบความสำเร็จ ตอนแรกเขาก็กะจะเต้นแบบเนียมอายหรอกแต่ว่าจังหวะกลองที่เพื่อนตัวโตตีมันเร้าใจจนไปกระตุ้นแขนขาให้กระตุก ลู่หานที่ใครคิดว่าเงียบๆเรียบร้อยจะเปลี่ยนความคิดก็วันนี้แหละ ส่วนเดือนของโรงเรียนนั้นก็มีสภาพไม่ต่างจากลู่หานเท่าไหร่
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา งานกีฬาสีก็เช่นกัน สีฟ้าของเขาได้รางวัลมามากมายทั้งรางวัลชนะเลิศและรางวัลรองอันดับต่างๆ เห็นจะดีใจที่สุดก็คงจะเป็นรางวัลขบวนพาเหรดยอดเยี่ยมและกองเชียร์ยอดเยี่ยม ที่ทุกคนในห้องหวังก็มีแค่สองรางวัลนี้เท่านั้น หลังจากงานเลิก ทุกคนต่างมาช่วยกันเก็บกวาดสถานที่ให้เรียบร้อยตามสีของใครของมัน หลังจากนั้นเพื่อนซี้อย่างแบคฮยอนก็พาเขาไปกินขนมตาทที่สัญญาไว้
ระหว่างรอขนมที่สั่ง แบคฮยอนที่เป็นเจ้าพ่อโซเซียลก็ไม่พลาดที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คกระแสข่าวรายวันตามทวิตเตอร์และเฟสบุ๊ค มือเรียวชะงักเมื่อเห็นบางอย่างบนหน้าไทม์ไลน์ในเฟส เรียกความสนใจของลู่หานที่ไม่เล่นเฟสได้อย่างดีทีเดียว
"อะไรอ่ะ ขอกูดูมั้ง"
"มึงจะได้แฟนก็วันนี้แหละ"
"แฟนเฟินอะไรของมึง ไหนเอามาดู" ลู่หานแย่งโทรศัพท์ในมือแบคฮยอนมาดูด้วยความสงสัยในคำพูดของเพื่อน
Se Say ได้เพิ่มรูปภาพ 99 ภาพลงใน "m i n e"
อัลบั้มที่มีแต่รูปของลู่หานทั้งอัลบั้ม
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in