เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บันทึกการเดินทาง ณ สำนักพิมพ์นาฬิกาทรายNATTANAN NATCHAN
สัปดาห์ที่ 3 ถึง สัปดาห์ที่ 7 : เริ่มต้นจากป่วย แล้วหวนกลับมาใหม่
  •  สวัสดีค่ะ ยังจดจำกันได้ใช่หรือเปล่าเอ่ย ขอโทษที่ห่างไปหลายสัปดาห์เลยนะคะ เนื่องจากมีธุระคอยเข้าแทรกทำให้ช่วงวันอาทิตย์ที่สัญญาว่าจะอัพบล็อกให้อ่านจึงถูกเลื่อนและทดเอาไว้ (ในใจ) แต่ตอนนี้ได้เวลากลับมาเล่าเรื่องราวกันแล้วค่ะ!

     เริ่มจากช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของการฝึกงาน เราได้หนังสือเพิ่มเติมจากที่ได้รับมา ซึ่งสำหรับเรายังคงคอนเซปต์เลี้ยงลูกและนิทานเด็กเป็นหลักเช่นเคยค่ะ แต่ได้มีหนังสือมอนเตสมาด้วย เรียกว่าโล่งใจที่มีแนวอื่นมาบ้าง
                                                          (น้องใหม่ค่ะ มาเพิ่มเติม ฮ่า)

    งานหลัก ๆ ของช่วงนี้จะเป็นการเก็บบันทึกโควทเด็ด โควทคม โควทจี๊ดโดนใจมาใส่ไว้ในคลังเพื่อเอาไว้ใช้ในการโปรโมทหนังสือต่อไปค่ะ เราก็เริ่มทยอย ๆ อ่านเก็บ จดไล่โควทต่าง ๆ ที่ชื่นชอบไปก่อน แล้วต้้งใจพิมพ์ใส่ทีหลังค่ะ นอกจากนี้ยังมีช่วงที่คุย meeting กับพี่ ๆ ในส่วนของแผนงานอีเว้นท์ที่ทีมเด็กฝึกงานคิด และมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย รวมถึงพี่นิดนกได้ส่งตารางอีเว้นท์ของ CREAM Bangkok ซึ่งเป็นโรงแรมที่มีไว้สำหรับกิจกรรมของเด็ก ๆ มาให้พวกเรา เป็นการส่งทีมเด็กฝึกงานให้เจอกับเด็ก ๆ จริง เป็นการฝึกให้เราคุ้นชินกับการเล่นและดูแลเด็กน้อยทั้งหลาย และแล้ว เรื่องไม่คาดฝันและไม่ต้องการฝันถึงก็มาเยือนเราค่ะ…

    ในวันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน เราตรวจเจอว่า ATK ขึ้นสองขีด! 

     เราติดโควิดค่ะ ทำให้ต้องรีบแจ้งทางพี่ ๆ ไปก่อนเผื่อมีการเรียก meeting ขณะที่เราไม่สะดวก ซึ่งทำให้เราต้องขนย้ายข้าวของไปกักตัว การทำงานต่าง ๆ ก็มีอุปสรรคเป็นยาค่ะ ใช่แล้ว ยาที่คุณหมอส่งมาให้นั่นแหละค่ะ ยาแก้แพ้ที่กินทุกมื้อทำให้ง่วงบ่อยมาก งานการทำได้นิดนึงแล้วก็ต้องหยุดเพราะตาจะปิด แต่ถือว่าพักผ่อนเก็บพลังมาสู้ต่อค่ะ!

     ทำให้ในสัปดาห์ที่ 4 การทำงานของเราค่อนข้างจะช้ากว่าเพื่อน ๆ ค่ะ การเก็บโควททำได้ลำบากเพราะยาที่กินทำให้เกิดการง่วง ฝืนได้แปป ๆ หลับคาหนังสือก็ทำมาแล้วค่ะ ฮ่า แต่ก็ยังคงประชุมอีเว้นท์กับเพื่อนได้นะคะ! เพราะประชุมวันหลัง ๆ ใกล้ปล่อยกักตัวแล้วค่ะ พอปล่อยกักตัวแล้วในวันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน เราต้องเก็บของต่าง ๆ มาทำความสะอาดยกใหญ่ เลยลืมมาอัพบล็อกไปเลยค่ะ (ขอโทษนะคะ??) ซึ่งในวันที่19 ถ้าจำไม่ผิดเป็นจอนนี่กับเปตองได้คิวไป CREAM ก่อนแหละค่ะ! เปิดทางเซอร์เวย์ให้เรากับแฟรี่สุด ๆ 

     สัปดาห์ที่ 5 วันจันทร์และอังคารก็ทำงานตามปกติเลยค่ะ คิดคอนเท้นต์เขียนไว้คร่าว ๆ เก็บไว้และยังเก็บโควทหนังสือตามเดิม เพิ่มเติมคือขายหนังสือใหม่ที่สำนักพิมพ์กำลังจะวางขาย โดยส่วนใหญ่ก็จะพยายามยกมาจากเนื้อเรื่องและแตกย่อยก่อนวกกลับมาขายในตอนท้ายตามแนวที่ชอบเขียนค่ะ แต่ในวันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน เราได้เดินทางไปโรงแรม CREAM ครั้งแรกค่ะ เป็นกิจกรรมช่วงเย็นหลังเลิกเรียนที่เด็ก ๆ จะทำตามใจตัวเอง ไม่ว่ามุมประดิษฐ์หรืออ่านหนังสือ อ้อ! เราจะเล่าภาพรวมของโรงแรมคร่าว ๆ นะคะ เป็นบ้านสามชั้น ที่ภายในมีการตกแต่งออกมาดูสบายตามากเลยค่ะ ชั้นล่างสุดเป็นที่เช็คอินสำหรับเด็ก ๆ มีบ่อปลาและลานหนังสือ ชั้นสองเป็นชั้นงานฝีมือ มีผลงานเด็ก ๆเยอะแยะเลยค่ะ

     ชั้นที่สามเป็นห้องสมุด หนังสือเยอะมากกกกกกก (ก.ไก่ร้อยตัว) เรียกว่าครบครันสำหรับเด็ก ๆ เลยค่ะ ในวันนี้เราได้มีโอกาสเล่นกับน้องพลัส เด็กชายตัวน้อยบ่อยกว่าคนอื่น น้อง ๆ ทุกคนน่ารักมากเลย แต่เนื่องจากเป็นกิจกรรมตอนเย็นที่ไม่ได้มีแบบแผนอะไร ทำให้การเล่นกับน้อง ๆ จะเป็นการเล่นไปเรื่อย ตกเย็นก็ได้เวลาแยกย้ายกลับบ้านค่ะ และเราก็ได้ไปที่โรงแรมอีกครั้งในวันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน ในวันนี้เนื่องจากรูปแบบกิจกรรมมีแผนการชัดเจน เราจึงได้ตามประกบกิจกรรมกับเด็ก ๆ ค่อนข้างเยอะกว่าวันพฤหัสที่ผ่านมา โดยธีมในวันนี้เป็นธีมภูเขาค่ะ 

     เปิดมาคุณครูจะให้เด็ก ๆ เช็คอินแล้วรอมาฟังนิทานกัน (วันนี้เราไปกับแฟรี่ และเราสองคนก็มีนัดกับจอนนี่ไปคิโนะคุนิยะ เซนทรัลเวิร์ลเพื่อดูสถานที่จัดอีเว้นท์คร่าว ๆ ในวันที่ 9 กรกฎาคมค่ะ)
                                                                                   (คุณครูเล่านิทานธีมภูเขา)


     และจากรูปด้านบนเป็นรูปของน้องณนญ ลูกสาวของพี่นิดนกและน้องอีกคนที่ลืมชื่อ(;-;) ซึ่งเราคอยมาชวนเล่นและพูดคุย โดยหลังจบนิทานกิจกรรมที่จะให้เด็ก ๆ ทำคือ การทำสีจากหินธรรมชาติ ปั้นภูเขาไฟวิทยาศาสตร์ ระบายสีภูเขาจากกล่องลัง ระบายสีทำจากน้ำแข็ง ทำพุดดิ้งและทำตะกร้าใส่ของ (เราไม่ได้ถ่ายมาทั้งหมดเนื่องจากคอยดูและเล่นกับเด็ก ๆ) กิจกรรมทั้งหมดเสร็จสิ้นในช่วงบ่าย ก่อนที่เรากับแฟรี่จะเดินทางไปต่อกันถึงสยาม เพื่อไปสำรวจพื้นที่และหนังสือของสำนักพิมพ์ที่มีขายในร้านคร่าว ๆ แล้วจึงแยกย้าย แต่กว่าจะเดินทางมาถึงสยามก็บ่ายสองกว่า สำรวจร้านคิโนะ เซนเวิร์ลแล้วไปกินข้าว จากนั้นแยกย้ายกันกลับบ้านค่ะ 


     สัปดาห์ที่ 6 งานประจำที่เคยทำก็ยังคงหมุนเวียนไปเรื่อย ๆ เหมือนเดิมค่ะ แต่ก็ได้มี meeting กับพี่เปย์ในหัวข้อของการแปลและ edit ซึ่งก็ได้รับคำแนะนำมากมายจากคนทำงานจริงอย่างพี่เขา รวมถึงยังจะได้รับงานให้ลอง edit จากพี่เขาว่าเราจะทำออกมาเป็นอย่างไรกัน (ตอนนี้ก็ยังรองานอยู่ค่ะ พี่เปย์ยังเลือกเรื่องไม่ได้บวกกับงานที่รัดตัว) จากนั้นก็เป็นช่วงที่ขอสวมบทบาทเป็นแม่ค้าแม่ขายค่ะ! เนื่องจากสำนักพิมพ์ Sandclock ของเรามีออกบูธงาน Amarin Baby & Kids ในวันที่ 30 มิถุนายน - 3 กรกฎาคม ทำให้ต้องเริ่มจัดบูธตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน ซึ่งทีมเด็กฝึกงานที่ไปจัดบูธคือจอนนี่และแฟรี่ ส่วนเรากับเปตองเริ่มมาวันที่ขายวันแรก ซึ่งในวันแรกเปิดมาหลังจากมาถึงไบเทคบางนาก็รีบกินข้าวที่ซื้อมา จากน้้นจึงทักหาพี่โบว์ที่มาประจำบูธด้วยกันเพื่อรับบัตรเข้างาน 


     จากนั้นเมื่อเข้าไปกับพี่เขาแล้ว จึงได้เริ่มทำการจดจำว่าหนังสืออะไรอยู่ชั้นไหน จุดไหน แล้วเมื่อเปตองมาถึงก็เริ่มนับสต๊อกก่อนขาย ตลอดทั้งวันก็มีคุณพ่อคุณแม่เดินผ่านและแวะเวียนมาซื้อหนังสือกันอยู่เรื่อย ๆ อาจจะเพราะเป็นวันธรรมดา ทำให้คนดูค่อนข้างเบาบางก่อนงานเลิกจึงได้เช็คสต๊อกหลังขาย จดบันทึกสิ่งต่าง ๆ เก็บของและขึงผ้าปิดบูธก็ได้เวลาแยกย้ายกลับบ้าน ตัวเรามาขายอีกที่วันสุดท้ายกับจอนนี่ ซึ่งทำเหมือนเดิมด้วยความคุ้นชิน (แม้จะมาขายเพียงวันเดียวก่อนหน้าก็ตาม) รับบทนางแคชเชียร์ตลอดเวลาค่ะ ฮ่า แต่ที่ทำให้รู้สึกดีใจมาก ๆ เลยคือมีคุณแม่คนหนึ่งมาดูหนังสือที่บูธและเราทั้งสองคนก็แนะนำหนังสือไปให้หลายเล่ม ก่อนที่เขาจะตัดสินใจซื้อ จากนั้นสักพักใหญ่ ๆ เราก็สังเกตว่าคุณแม่เดินกลับมาอีกคร้้งพร้อมบอกว่าพาเพื่อนมาดูหนังสือ เนื่องจากพวกเราแนะนำได้ดีและมีความจริงใจอย่างมาก ไม่ว่าจะแนะนำประเภทพ็อคเกตบุ๊คหรือนิทาน แม้เป็นคำชมเล็ก ๆ แต่ก็ทำให้พวกเราทั้งสองคนดีใจมาก ๆ ใจฟูที่สุดเลยค่ะ


     และเมื่อวันนี้เป็นวันสุดท้าย การค้าการขายก็จบลง เรา จอนนี่และพี่โบว์เริ่มนับสต๊อกหนังสือ ทยอยเก็บของและรอคนมายกของไปทั้งหมด ซึ่งก็เป็นการทำให้รู้ว่าพวกเราก็แพ็กกิ้งของได้เก่งเหมือนกันนะ แต่กว่าจะเสร็จก็สองทุ่มกว่าเกือบสามทุ่ม แม้จะรู้สึกเหนื่อยแต่ก็ถือว่าได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ เช่นกัน ภาพด้านล่างเป็นการเก็บตกมาฝากค่ะ 



     และจากที่จบงานค้าขาย งานถัดมาคือการให้ feedback งาน Amarin Baby & Kids แก่พี่ทรายเพื่อเอาไว้ปรับปรุงหรือทำเพิ่มเติมในงานหน้า จากนั้นตลอดทั้งสัปดาห์ที่ 7 เริ่มต้นตั้งแต่วันจันทร์ก็เป็นการพูดคุยและจัดเตรียมอีเว้นท์วันที่ 9 กรกฎาคมนี้ ทั้งการสร้างฟอร์มและการรับจำนวนคนในการทำกิจกรรม ก่อนที่เรากับเปตองจะได้ไปเตรียมอุปกรณ์ในไว้สำหรับมุมงานฝีมือของเด็ก ๆ  ที่ร้านของพี่นิดนกในวันพฤหัสที่ 7 กรกฎาคม ซึ่งอยู่ที่เดียวกับโรงแรม CREAM เจ้าเก่า 


     แต่เราเกริ่นมานาน ไม่ได้บอกเสียทีว่างานอีเว้นท์คืองานอะไร  อีเว้นท์ในครั้งนี้มีชื่อว่า วันนิทานในป่าใหญ่ โดยธีมหลักที่สำนักพิมพ์ของเราใช้จะเป็นเซตนิทานในป่าใหญ่นั่นเอง โดยเริ่มต้นวันอาทิตย์ที่ 9 กรกฎาคม นัดเจอกัน 9 โมงที่เซนทรัลเวิร์ลเพื่อจัดสถานที่ โดยพวกเราทั้งหมดและพี่ ๆ ทีมงานจะต้องแลกบัตรเพื่อเข้าห้าง จากนั้นเวลาสิบเอ็ดโมงก็ได้เริ่มงานขึ้น อีเว้นท์เล่านิทานจะเล่าโดยพี่ ๆ มูลนิธิเมล็ดฝันอย่างพี่กิ๊บและคูมิซัง ซึ่งนิทานในแต่ละรอบก็จะผลัดเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ และมีนิทานเซตในป่าใหญ่ในรูปร่างเล่มใหญ่มาก ๆ ไว้ปิดท้ายก่อนทำกิจกรรมที่พี่ ๆ เมล็ดฝันเตรียมมา


     อะ ๆ งง งงใช่ไหมคะว่าพวกเราสามหน่อ (เรา เปตอง จอนนี่ ส่วนแฟรี่ไม่ได้มาเพราะขึ้นสองขีด;-;) ก็ได้รับบทบาทเป็นพี่ ๆ คอยดูแลน้อง ๆ เด็กเล็กตัวจิ๋วมาทำกิจกรรมพับถุงกระดาษและสร้างโรงแรมในฝัน ซึ่งเป็นมุมที่ใกล้กับมุมเล่านิทาน โดยในงานจะกำหนดครอบครัวที่ฟังนิทานรอบละยี่สิบครอบครัว แต่ในส่วนของที่พวกเราฝึกงานดูแลสามารถแวะเวียนเข้ามาได้ตลอด และในงานนี้ครูเอื้องก็ได้มาหาพวกเราด้วย! เนื่องจากเราได้ทักถามครูเอื้องเกี่ยวกับการนิเทศเลยได้บอกเรื่องของอีเว้นท์ไว้ด้วย ซึ่งอีเว้นท์ก็สนุกมาก ๆ เป็นการเก็บประสบการณ์ที่ดีอีกครั้งหนึ่ง และหลังจากเสร็จงาน เช้าวันจันทร์ถัดมาก็ได้ต้องส่ง feedback อีเว้นท์นี้กลับไปให้พี่ทรายเหมือนเดิม ส่วนงานเราก็ยังคงคิดและเขียนการขายหนังสือที่เรามีอยู่เรื่อย ๆ แต่รู้สึกยังต้องปรับแก้คำอีกมากจึงยังไม่ได้ลง drive งาน และเนื่องจากคิดถึงบล็อกเลยแว้บมาเขียนเล่าก่อนค่ะ


     สำหรับอีเว้นท์ก็ได้มีมาจากพี่ทรายว่าจะจัดอีกในเดือนหน้า เปตองเลยได้คิดแพลนส่งไปก่อนและพี่นิดนกจะนัดประชุมอีกที เราเองก็กำลังลองจับคู่นิทานของ Sandclock พร้อมหากิจกรรมสำรองไว้เสนอเช่นกัน หากมีอะไรคืบหน้าวันอาทิตย์นี้คงได้มาเล่าสัปดาห์ที่ 8 ให้อ่านกันนะคะ สัญญาด้วยใจจริงว่าจะไม่หายนานขนาดนี้อีกแล้ว ก่อนลาวันนี้ก็มีภาพเก็บตกงานนิทานในป่าใหญ่มาฝากค่ะ ไว้เจอกันใหม่ในสัปดาห์ต่อไปค่ะ


                                                    (รูปจากกล้องครูเอื้องค่ะ สองนิ้วสู้ตาย✌?) 




เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in