เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Dear My Internship DiaryTonliew Suparat
Chapter 5: ทัศนศึกษา
  •          อย่างที่ได้เล่าไปแล้วใน Blog ของสัปดาห์ก่อน เรื่องที่เด็ก ๆ มาทัศนศึกษาที่พิพิธภัณฑ์เด็ก วันนี้จะมาอธิบายรายละเอียดงานและการรับเด็ก ๆ เข้าโซน โดยโรงเรียนต่าง ๆ หากต้องการพาเด็กมา ต้องเป็นเด็กที่อยู่ในระดับชั้นอนุบาล1 - ประถมศึกษาตอนต้น หรือไม่เกินป.4 เนื่องจากเนื้อหาและกิจกรรมภายในพิพิธภัณฑ์เด็กไม่เหมาะกับนักเรียนที่โตกว่านั้น และตารางกิจกรรมในแต่ละวันก็จะหมุนเวียนและแตกต่างกันไปแล้วแต่จำนวนเด็กและสายชั้นที่มา หากเป็นชั้นอนุบาล จะเข้าทำกิจกรรมที่อาคารสายรุ้งเป็นหลัก ชั้นประถม 1 - 4 จะเข้าทำกิจกรรมที่อาคารทอตะวัน อาคารยูนิลิเวอร์ และอาคารจักรวาลโซน Art Studio 

           การรับเด็กเข้าทำกิจกรรมในโซนห้องสมุด ตามปกติจะเป็นการพูดคุย ให้เด็ก ๆ ได้รู้จักว่าห้องสมุดคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร และมีระเบียบอย่างไรในการเข้าใช้บ้าง จากนั้นจะเป็นกิจกรรมเล่านิทาน เมื่อฟังนิทานจบแล้วจึงปล่อยให้เด็กทุกคนได้ลองหยิบหนังสือมาอ่านและนำหนังสือไปเก็บเข้าชั้นตามที่ตกลงกันไว้ ในสัปดาห์นี้ฉันได้เล่านิทานให้เด็ก ๆ ฟัง โดยฉันเลือกเล่านิทานเรื่อง ความลับของอลัน เรื่องและภาพโดย จาร์วิส แปลโดย พี่ข้าวตู นิทานเรื่องนี้เป็นเรื่องของจระเข้เกเรที่ชอบรังเเกสัตว์ตัวอื่น แต่แท้จริงแล้วมันสวมฟันปลอมเอาไว้และต้องคอยซ่อนไม่ให้สัตว์ตัวอื่นรู้ 

          ตอนเล่านิทานฉันรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากเพราะเป็นครั้งแรกที่ได้เล่านิทานให้เด็กฟังจริง ๆ อย่างที่ไม่ได้เล่าผ่านช่องทางออนไลน์ สิ่งที่ยากไม่ใช่การเล่า แต่เป็นการดึงความสนใจจากเด็กมาอยู่ที่หนังสือให้มากที่สุด ยิ่งเด็กเล็กมากก็ยิ่งทำได้ยาก หลายครั้งจึงจำเป็นต้องหยุดเล่านิทานสักครู่เพื่อชวนเด็ก ๆ พูดคุยแล้วค่อยดึงพวกเขากลับมาที่นิทาน ถึงมันจะยากสักหน่อยแต่เมื่อได้ลองทำหลาย ๆ ครั้งก็ทำให้พบว่าวิธีพูดแบบไหนหรือวิธีการเล่าอย่างไรเด็กถึงจะสนใจมากที่สุด แม้ครั้งแรกจะผ่านไปด้วยดีแต่ฉันก็เชื่อว่าฉันอาจจะทำได้ดียิ่งขึ้นกว่านี้ 



           
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in