Onghoon – Photograph
#องฮุนรายสัปดาห์ #KamiSF
3rd week theme :save
Note : ฝากด้วยนะคะ :-)
I keep my love in photograph :-)
-Photograph-
คุณเก็บความรักของคุณไว้แบบไหนกันครับ?
อยู่ในฝุ่นละอองของความทรงจำ ?
อยู่ในตุ๊กตาตัวใหญ่ที่ถูกวางไว้ตรงมุมห้อง?
อยู่ในน้ำหมึกที่ถูกซึมซับไว้ด้วยกระดาษเนื้อดี ?
เราทุกคนเก็บความรักไว้ในรูปแบบแตกต่างกันไป
ส่วนผมน่ะเหรอ...
แชะ
ผม
– เก็บมันไว้ในภาพฟิล์ม :-)
-Photograph-
ฟึบ
มือหนาปัดไม้ขนไก่ไปทางขวาในขณะที่ฝุ่นโรยตัวลงมาจนเข้าต้องเบ้หน้า
ปึก
เสียงของอะไรบางอย่างที่ตกกระทบพื้นทำให้เขาต้องลืมตาขึ้นมองพ่อบ้านจำเป็นก้มลงไปหยิบกล่องคุ้นตาที่ไม่ได้เห็นมานานมากแล้วขึ้นมาไว้ในมือระบายยิ้มในขณะที่เปิดมันออกแผ่นฟิล์มที่ถูกจัดอยู่เป็นระเบียบเช่นเดิมทำให้หัวใจเขาพองโต
และ –
เขาเริ่มหวนนึกถึงความทรงจำที่ดีที่สุดในชีวิต
-Photograph-
ปีใหม่
– ที่ฤดูใบไม้ผลิหวนกลับมา
เทอมใหม่
– ที่กำลังจะกลายเป็นเทอมสุดท้ายสำหรับใครบางคน
แชะ
เสียงชัตเตอร์ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบของโรงเรียนในช่วงเช้าใบไม้สีเขียวที่กำลังเริ่มผลิบานดูเย็นตา และคนๆนั้น – พัคจีฮุนคนนั้น
เป็นเหตุผลทั้งหมดในการกดชัตเตอร์ของเขา :-)
“เอาอีกแล้วนะ องซองอู” เขา – เจ้าของชื่อองซองอูหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ เขาหันไปมองคังแดเนียลที่กำลังยืนกอดอกจ้องมาบนศีรษะมีหมวกเบสบอลวางอยู่แบบกลับด้าน – นั่นทำให้มันดูกวนประสาทเข้าไปใหญ่ เขาทำเสียง ชู่ ใส่เพื่อนในขณะที่แดเนียลกรอกตาอย่างเบื่อหน่ายพร้อมกับลากร่างหมีๆของมันมานั่งแหมะลงบนเก้าอี้ไม้ข้างเขา
“วันแรกก็เอาเลยนะ”
“ก็ทำอยู่ทุกวัน” เขาได้ยินมันถอนหายใจพรืดใหญ่ไม่ต้องเดาให้เสียเวลา ประโยคต่อไปก็คงจะเป็น…
“เมื่อไหร่มึงจะบอกชอบน้องเขาสักที / เมื่อไหร่มึงจะบอกชอบน้องเขาสักที”
“ก็รู้ตัวนี่หว่า” แดเนียลว่าพลางกัดขนมปังมื้อเช้าเข้าไปคำใหญ่เขาไม่ตอบอะไรและก้มลงเช็ครูปของเช้าวันนี้ไปเรื่อยๆมันเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่เราพูดเรื่องนี้ เขาก็แค่เงียบและไม่ตอบอะไร
ที่เป็นอยู่แบบนี้…
มันก็ดีแล้ว
-Photograph-
“ซองอู ทำอะไรวะ?” เจ้าของชื่อที่ก้มเขียนอะไรยุกยิกอยู่บนโต๊ะเงยหน้าขึ้นมาหาคิมแจฮวานที่ทำคอยืดคอยาวมองมาที่โต๊ะเขาทั้งๆที่อาจารย์ยังยืนอยู่หน้าห้องเขาทำหน้าเหม็นเบื่อใส่ก่อนจะโบกมือไล่ให้มันกลับไปตั้งใจเรียนเสียที
“จะมีอะไร๊” เสียงของแดเนียลที่นั่งอยู่ข้างหน้าทำให้เขาต้องหันไปแยกเขี้ยวใส่มันทำลอยหน้าลอยตาในขณะที่พูดต่อ “ก็น้องคนนั้นน่ะสิ”
แจฮวานห่อปากเป็นรูปตัวโอทำเสียงอ๋อแบบลากยาวเบาๆอย่างน่าหมั่นไส้จนเขาต้องยื่นเท้าไปเขี่ยเก้าอี้มันแรงๆสักที
“โอ๊ย ไอ้อง!”
“คุณสามคนน่ะ ถ้าไม่เรียนก็ออกไปยืนข้างนอกมั้ยคะ?”
-Photograph-
“ไงล่ะ คุยกันดีนัก” เขาเห็นแดเนียลเบ้ปากใส่ฮวังมินฮยอนที่เพิ่งเดินพ้นประตูออกมาเพื่อนตัวโตบุ้ยปากไปหาคิมแจฮวานที่เดินนำลิ่วไปที่โรงอาหารอย่างรวดเร็ว
“ไปบอกเพื่อนมึงนู่น”
“มึงก็ด้วยอะแดน” คนโดนดุเบ้ปากอีกครั้งก่อนสะบัดตูดเดินตามแจฮวานไป – งอนกันเป็นเด็กๆ
“แล้วมึงอะ ทำอะไร?” เขาเลิกคิ้วในขณะที่มินฮยอนออกเดิน
“ก็เหมือนเดิม”
“เฮ้อ…”
“…”
“เมื่อไหร่มึงจะบอกน้องเขาสักทีอะอง?” เขาถอนหายใจเมื่อได้ยินประโยคนี้ซ้ำเป็นรอบที่สองของวัน
“เอาเถอะ กูก็เข้าใจมึง แต่ว่านะ – ดูนั่นสิ” เขามองตามปลายนิ้วของมินฮยอน
ใครบางคนยืนอยู่ตรงนั้น
ใครบางที่ยึดสายตาของเขาไว้ได้ทั้งหมด
ใครบางคนที่มีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าในทุกๆวัน
ใครบางคนที่น่ารัก – จนเป็นที่รัก
ใครบางคน…
– ที่ขโมยเอาหัวใจของเขาไปหมดทั้งดวง
รอยยิ้มที่เขาชอบนักหนาปรากฏบนใบหน้าสวยไม่ต้องเดามากมายก็รู้ได้ว่าเจ้าของรอยยิ้มนั้นกำลังมีความสุขขนาดไหน
“มึงไม่อยากเป็นสาเหตุของรอยยิ้มแบบนั้นบ้างเหรอวะ?”
เขาคิดตามคำพูดนั้นขณะที่จ้องมองรอยยิ้มที่เขาตกหลุมรักอีกครั้ง และ –
แชะ
บันทึกมันลงไปในใจของเขา
-Photograph-
เป็นอีกวันที่เราขึ้นรถบัสคันเดียวกัน
เขาก้าวขึ้นประตูหลังจากสแกนทีมันนี่กระเป๋าเป้ใบใหญ่ของน้องเด่นอยู่ไม่ไกลนักแต่ในช่วงเวลาสี่โมงเย็นแบบนี้คนก็แน่นขนัดไม่ใช่น้อยเขาแทรกตัวไปอยู่ใกล้น้องให้ได้มากที่สุดแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังห่างจากน้องอยู่หลายช่วง พัคจีฮุนของทุกคนก้มลงมองโทรศัพท์กลุ่มผมนิ่มสายตามจังหวะโยกศีรษะ ริมฝีปากสีหวานระบายยิ้มบางเบาเขาจดจ้องทุกรายละเอียดบนใบหน้าน่ารัก – คำพูดของเพื่อนทั้งสามกรอกลับเข้ามาในความคิดอีกครั้ง
‘มึงไม่อยากเป็นสาเหตุของรอยยิ้มแบบนั้นบ้างเหรอวะ?’
‘มึงไม่อยากดูแลน้องได้มากกว่าที่เป็นอยู่แบบนี้เหรอวะ?’
‘มึงไม่อยากบอกให้น้องรู้ความรู้สึกของมึงสักครั้งเลยเหรอ?’
อยากสิ – ความรู้สึกแรกในใจเขาตะโกนตอบมาแบบนั้น
แต่เขาน่ะกลัว – กลัวเหลือเกินว่าถ้าบอกแล้วความสุขทั้งหมดของเขาในตอนนี้จะหายไป..
เขากลัวแบบนั้นจริงๆ
-Photograph-
ปรี๊น
เสียงบีบแตรและแรงเบรกของรถบัสทำเอาคนทั้งรถเซไปตามๆกันเขาชะเง้อคอมองสาเหตุของแรงเบรกมหาศาลนั่นก่อนจะกลับมาสอดส่ายตาหาคนที่กลืนหายไปกับผู้คนแต่สูทสีเหลืองที่เด่นสะดุดตานั่นก็ทำให้ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องยาก
หือ? – ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ?
เขาขมวดคิ้วเมื่อน้องทำหน้าแปลกๆสายหูฟังสีขาวถูกปลดลงข้างหนึ่งในขณะที่ข้างขมับชื้นเหงื่อความเป็นห่วงตีตื้นขึ้นมาบนอกของเขายามที่ไล่สายตาหาความผิดปกติบนตัวของน้อง
และมือของใครบางคนที่วางอยู่บนต้นขานั่นทำให้เขารู้สึกโกรธจนเลือดแทบขึ้นหน้า
“ขอโทษนะครับนี่แฟนผม”
รู้ตัวอีกทีเขาก็ดึงน้องเข้ามาหาตัวเองแล้วเสียอย่างนั้น
-Photograph-
ความเงียบโรยตัวลงระหว่างเรา ป้ายรถเมล์ที่เราลงเป็นประจำในเวลาหกโมงเย็นเงียบกว่าทุกครั้งเขารู้สึกว่าแขนขามันเกะกะไปเสียหมดในสถานการณ์แบบนี้
“เอ่อ… / เอ่อ…”
“อ่า น้องพูดก่อนเลยครับ”
“คือ…ขอบคุณนะครับที่ช่วยไว้”
“ไม่เป็นไรครับ ขอโทษด้วยนะที่พูดไปแบบนั้น โกรธหรือเปล่า?” เส้นผมละเอียดสีน้ำตาลอ่อนพลิ้วไปตามจังหวะการส่ายศีรษะของคนตัวเล็กเขาระบายยิ้มขณะที่น้องบอกว่าไม่เป็นไรและขอบคุณเขาซ้ำอีกครั้ง
“คราวหลังก็ระวังตัวด้วยล่ะ” น้องพยักหน้ารับและความเงียบก็โรยตัวลงอีกครั้ง ตัวเขายืนรอให้น้องเดินกลับบ้านแต่เจ้าของใบหน้าน่ารักกลับยังไม่ยอมขยับไปไหน
“ไม่กลับบ้านเหรอ?” ความประหม่าฉายชัดบนแววตาใสดวงตากลมโตช้อนมองเขา ขณะที่ริมฝีปากสีสดเม้มเข้าหากัน
“คือว่า…”
“?”
“ขอบคุณนะครับ พรุ่งนี้ผมจะเอาขนมไปตอบแทนให้นะ :-)”
องซองอูยืนนิ่งในขณะที่น้องหมุนตัวออกเดินไปทางซ้ายของป้ายรถเมล์รอยยิ้มที่เขาตกหลุมรักฉายชัดในความรู้สึกหัวใจเต้นหนักและรัวเสียยิ่งกว่าจังหวะกลองที่เขาเคยตี
เขาตกหลุมรักพัคจีฮุนซ้ำอีกครั้ง
เหมือนดั่งเช่นหนึ่งปีก่อน
-Photograph-
1 yearsago
เสียงจ้อกแจ้กของเด็กนักเรียนทั้งสามชั้นเรียนสามสาขาวิชาดังก้องไปทั่วโรงยิม กลิ่นสีลอยคลุ้ง ขณะที่เศษไม้อัดถูกวางกองอย่างไม่เป็นระเบียบ
“เอาล่ะ เลิกซ้อมได้” เสียงของผู้กำกับละครเวทีดังมาจนเขาต้องเงยหน้าขึ้นมองหน้าตาของนักแสดงนำทุกคนดูเหนื่อยล้า – ก็แหงล่ะนี่มันวันซ้อมใหญ่แล้วนี่
“เฮ้ย! อง ว่างปะ มาดูตรงนี้หน่อยดิ” เจ้าของชื่อเรียกสั้นๆหันกลับไปมองขณะสาวเท้าเข้าไปใกล้ฮาซองอุน – เพื่อนตัวเล็กจากฝ่ายฉาก
“ว่า?”
“ตรงนี้ดียังวะ หรือต้องเพิ่มอีก โล่งไปปะ?” เขามองตามปลายนิ้วอีกฝ่ายขยับแมสปิดปากลงจากใบหน้า มองพิจารณาแผ่นไม้อัดอันใหญ่ก่อนจะส่ายหน้า
“ไม่มีอะไรแล้วแหละ” เพื่อนตัวเล็กทำท่าเยสก่อนจะกระโดดโลดเต้นไปมา
“อ้าว จีฮุนนี่~ กลับยังไง?” เขาหยิบกล้องขึ้นมาเช็คภาพที่เป็นส่วนรับผิดชอบของเขาอีกครั้งภาพเบื้องหลังการซ้อม เบื้องหลังการทำงานของแต่ละฝ่ายผ่านตาไปเรื่อยๆ ในขณะที่บทสนทนาของเพื่อนตัวเล็ก – และน้องคนนั้น ผ่านเข้ามาในโสตประสาทด้วยเช่นกัน
เขาก็ไม่ได้อยากจะเสียมารยาทหรอกนะ..
“อ้าว? จะกลับเองเหรอ ไม่ได้ๆ ดึกแล้วกลับคนเดียวอันตราย”
“แต่ว่า..”
“รอแปป เดี๋ยวหาคนไปส่งให้ อ่า.. เอ้อมึงอยู่ตรงนี้พอดีเลยอง ไปส่งน้องให้กูหน่อยดิ”
“ห๊ะ?”
-Photograph-
สุดท้ายเขาก็ออกจากโรงยิมมากับน้องอยู่ดี
“ขอโทษทีนะ วันนี้จอดรถไว้หลังโรงเรียนน่ะ เดินไกลเลย” เขาเอ่ยท่ามกลางความเงียบ พัคจีฮุน – ปี1เอกการแสดงเจ้าของใบหน้าน่ารักที่โดนใจสาวน้อยสาวใหญ่ทั้งโรงเรียนส่ายหน้าไปมาเขาได้ยินน้องพูดเบาๆว่าไม่เป็นไรจุกแอปเปิลที่ถูกรวบขึ้นไปเด้งเป็นจังหวะตามการเดินทำให้เขาแอบอมยิ้ม
“เหนื่อยมั้ย?”
“ครับ?.. อ่า ก็เหนื่อยนิดหน่อยครับ”
“งั้น… กินไอติมมั้ย?”
“ครับ?”
-Photograph-
เวสป้าสีเหลืองลูกรักถูกจอดลงหน้าร้านไอศกรีมเจ้าประจำของเขาเขายืนมองพัคจีฮุนที่กำลังเกาะขอบตู้แน่น
“เอาอันนี้.. อันนี้.. แล้วก็อ่า.. เลือกยากจัง อันนี้แล้วกันครับ” เขาหลุดหัวเราะให้กับท่าทางเหล่านั้นเด็กน้อยที่ตัวเล็กกว่าเขาเกือบสิบเซนตาเป็นประกายเมื่อถ้วยไอศรีมไซส์แอลถูกส่งลงบนมือของเจ้าตัว
“อื้อออ อร่อยอะ” เขาพิงสะโพกลงกับเบาะลูกรักขณะที่เจ้าของทรงผมจุกแอปเปิลยังคงตักไอศกรีมเข้าปากไม่หยุด
“พี่ครับ” แรงกระตุกบนชายเสื้อเชิ้ตเรียกให้เขาต้องเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์ดวงตากลมใสช้อนมองเขา
องซองอูไม่แน่ใจว่าการตกหลุมรักมันเป็นแบบไหน
แต่ที่เขาแน่ใจ…
“ขอบคุณนะครับ :-) ”
คือหัวใจเขาไม่เป็นของตัวเองอีกต่อไป
-Photograph-
‘akitten take a nap in the morning’
แผ่นฟิล์มที่ถูกล้างมาพร้อมรอยปากกาเมจิกสีดำบนด้านหลังรูปถูกหย่อนลงในล็อคเกอร์อันเดิมเช่นทุกวัน – แบบที่เป็นมาตลอดหนึ่งปี
องซองอูลากรองเท้าผ้าใบไปตามทางเดิน เสียงประตูห้องดังครืดยามที่เขาเลื่อนมันสายตาของเพื่อนในห้องจับจ้องมาที่เขาจนรู้สึกแปลกๆ – รวมไปถึงเพื่อนทั้งสามคนด้วย
“ทำไมมองแบบนั้นกันวะ?” เขาขมวดคิ้วขณะที่วางกระเป๋าลงบนโต๊ะมินฮยอนพยักเพยิดไปที่ถุงกระดาษไม่คุ้นตาโพสอิทสีฟ้าอ่อนถูกแปะไว้พร้อมกับลายมืออ่านง่าย – ลายมือที่เขารู้จักดี
‘ ขอบคุณสำหรับเมื่อวานนะครับ :-) – PJH’
เอาจริงเหรอวะ?
ไม่รู้ว่าตัวเขาทำหน้าแบบไหนออกไปแจฮวานมันถึงได้หัวเราะออกมาเสียงดังลั่นแดเนียลยิ้มกริ่ม ในขณะที่มินฮยอนแตะมือลงบนบ่าของเขา
“เอาล่ะ เล่ามาให้หมดซะ องซองอู”
-Photograph-
“มึงก็ไปบอกว่าเป็นแฟนน้องเขาอะนะ?” เขาส่งเสียงอืมขณะที่แดเนียลทำหน้าราวกับมันเป็นเรื่องเหลือเชื่อ
“นี่องซองอูเพื่อนกูตัวจริงปะเนี่ย?”
“มึงไม่ได้โกหกกูใช่ปะ?”
เขากรอกตาและตอบออกไปเป็นครั้งที่ร้อย
“กูพูด-”
“อ้าว พี่ซองอู ใช่มั้ยครับ?” เสียงคุ้นหูทำให้เขาปิดปากฉับรวมถึงสามคนนั้นด้วยพัคจีฮุนที่มากับรอยยิ้มสดใสหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ – ที่ดันว่างแค่ข้างเขา
“เฮ้ยแดน กูลืมส่งรายงานดนตรีอาจารย์ปาร์คว่ะ พากูไปส่งหน่อยดิ”
“เออ มึง กูอยากกินขนมปังว่ะ เดี๋ยวมานะ”
อืม ทิ้งเขาไปให้หมด – พวกนี้นี่ -_-
“อ่า.. พี่ได้ขนมแล้วใช่มั้ยครับ?” เขาพยักหน้ารับขณะที่น้องยิ้มกว้าง
“ลองทานหรือยังครับ?”
“ลองแล้วล่ะ อร่อยดีนะ ทำเองเหรอ?”
“ครับ”
“เก่งจังนะ”
“ก็ไม่เท่าไหร่หรอกครับ” น้องหัวเราะแหะๆ – และนั่นมันโคตรน่ารัก
“โอ๊ะ พี่ใช้กล้องฟิล์มเป็นด้วยเหรอครับ?”
“อื้อ พ่อสอนมานานแล้วน่ะ”
“เก่งจังครับ ผมใช้พวกนี้ไม่เป็นเลยแต่ก็มีคนๆนึงเอาแผ่นฟิล์มพวกนี้มาให้ผมทุกวันเลยล่ะครับ”
“…”
“ก็เลย… อยากจะลองสัมผัสมันดูบ้าง”
“งั้น…”
“ครับ?”
“พี่สอนให้เอามั้ย?”
รอยยิ้มสวยถูกวาดขึ้นบนใบหน้าน่ารักซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในขณะที่เขา
– ก็ตกลงไปในหลุมที่ชื่อว่าพัคจีฮุนซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นกัน
-Photograph-
องซองอูไม่รู้ว่าเราสนิทกันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
องซองอูไม่รู้ว่าเขาไม่ต้องแอบถ่ายรูปน้องอีกต่อไปตั้งแต่ตอนไหน
อาจจะตอนที่เขาสอนน้องถ่ายรูปครั้งแรก?
อาจจะตอนที่เขาเลี้ยงปิ้งย่างน้อง?
หรืออาจจะตอนที่เขาช่วยซ้อมบทละครให้?
“พี่ซองอู อันนี้ดีมั้ยครับ?”
องซองอูไม่รู้เลยว่าเขามาไกลขนาดมายืนอยู่ในสวนสนุกกับน้องแบบนี้ได้ยังไง
-Photograph-
F42015 – forever (4)
Today10.34 am
K.Danik : ขอใส่ใจคนไปเดทหน่อยจ้า
K.Danik : @OSW มาตอบเพื่อนเร๊ว
Minhyun : มันคงมาตอบมึงอะ
Minhyun : สำลักความสุขตายไปละมั้ง
พูดมากอะมิน : OSW
แล้วก็ไม่ได้เดทโว้ย : OSW
Jaehwan.Kim : มาแล้วว่ะไหนอัพเดท
เสือกเก่งนัก : OSW
Jaehwan.Kim : อย่ามากวนตีนไอ้อง
K.Danik : ต่อมเสือกกูกระตุกยิกๆ
ก็ไม่มีไรทั่วไป : OSW
Minhyun : แบบที่รัวรูปน้องไปแสนล้านรูป
K.Danik : เอาจริงขนาดนี้ละ ไม่บอกน้องเลยวะ?
Minhyun : ถามเหมือนมึงไม่รู้นิสัยเพื่อนมึงอะแดน
Jaehwan.Kim : แต่อันนี้กูเห็นด้วย
Jaehwan.Kim : ขนาดนี้ละอง
Jaehwan.Kim : ถ้ามึงนกกูยอมเต้นอัลปาก้าหน้าโรงเรียนเลยอะ
-Photograph-
“พี่ซองอู~ อันนี้ซื้อมาให้ครับ” พัคจีฮุนในชุดเอี๊ยมยีนส์สีอ่อน เสื้อสีพีชพร้อมกับที่คาดผมกรีนแมนบนศีรษะและไอศรีมสองโคนบนมือทำให้เขาหลุดยิ้ม
แชะ
เสียงชัตเตอร์ดัง พร้อมกับเขา – ที่บันทึกภาพนั้นลงในใจ
“อีกแล้วนะครับ”คนตัวเล็กเบ้หน้าเมื่อถูกเขาแอบถ่ายโดยไม่ตั้งตัวเขายิ้มในขณะที่รับช็อคโก้โคนในมือเล็กมาถือไว้ กัดมันเข้าปากปล่อยให้มันละลายบนลิ้น
“ก็น่ารักดีออก”
และสีแดงก็ถูกแต่งแต้มลงบนพวงแก้มนิ่มอีกครั้ง
-Photograph-
ผู้คนเพิ่มมากขึ้นในตอนบ่ายแก่ๆรวมถึงแถวของเครื่องเล่นที่ยาวเป็นกิโลทำให้เขาและน้องเลือกที่จะนั่งพักมากกว่าไปแย่งพื้นที่ของเด็กๆใบหน้าน่ารักเห่อแดงตามสภาพอุณหภูมิที่สูงขึ้น
“หิวมั้ย?” เขาหัวเราะเมื่อศีรษะกลมขยับขึ้นลงอย่างรวดเร็วจนเส้นผมนิ่มเด้งไปมา
“งั้นรออยู่นี่นะ เดี๋ยวพี่-”
“ไปด้วยกันสิครับ” มือเล็กคว้าชายเสื้อเมื่อเขาทำท่าจะลุกขึ้น – งอแงระดับหนึ่ง
“แต่มันร้อนนะ ถ้าลุกเดี๋ยวเราต้องหาที่นั่งใหม่ด้วย รออยู่นี่แหละเดี๋ยวพี่มา” เจ้าคนน่ารักทำหน้ามุ่ย – งอแงระดับสอง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยอมปล่อยมือจากชายเสื้อเขาอยู่ดี
“รีบกลับมานะครับ”
เฮ้อ – เขาไม่มีอะไรจะเสียให้พัคจีฮุนอีกแล้วนะ
-Photograph-
‘อง เป็นไงวะ?’
“ยังไม่รับโทรศัพท์เลยว่ะ”
เขาทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้สักตัวในสวนสนุกเสียงของเพื่อนสนิทจากปลายสายไม่ได้ทำให้ใจเขาหายหนักอึ้ง
สามสิบสองมิสคอล
สามสิบสองมิสคอลแล้วที่พัคจีฮุนเงียบหายไป
และเขากำลังเริ่มมันเป็นครั้งที่สามสิบสาม
ตู๊ด... ตู๊ด…
“รับสิ รับเถอะจีฮุนอา”
ตู๊ด... ตู๊ด…
‘ฮัลโหลครับ’
“พระเจ้า ในที่สุดเราก็รับโทรศัพท์สักที เราทำให้พี่แทบจะบ้าแล้วนะรู้มั้ย?”
‘ขอโทษครับ..’ เสียงหงอยๆจากปลายสายทำให้ซองอูถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ถึงจะโกรธ แต่ความเป็นห่วงที่ตีตื้นขึ้นมาในใจนั้นมีมากกว่า
“อยู่ตรงไหนครับ หืม?”
‘หน้าร้านสายไหมครับ’
ให้ตายเถอะ หายไปอยู่ร้านสายไหมเนี่ยนะ?
– น่าหยิกจริงพัคจีฮุน
-Photograph-
ภาพคนตัวเล็กที่ยืนก้มมองปลายเท้าตัวเองใต้ต้นไม้ต้นใหญ่พร้อมกับสายไหมก้อนโตในมือทำให้องซองอูพรูลมหายใจ
แล้วเขาจะดุลงได้ยังไง
– ก็แพ้พัคจีฮุนเสียราบคาบขนาดนี้
“ว่าไงคนดื้อ หนีมาไกลเลยนะครับ” น้องยู่ปากพร้อมกับใช้สายตากลมคล้ายลูกหมานั่นช้อนมองเขา
“ขอโทษครับ ไม่คิดว่าร้านสายไหมจะอยู่ไกลแบบนี้”
“…”
“พี่ซองอู…”
“…”
“น้องจีฮุนขอโทษนะครับ ( . _ . )”
“เฮ้อ ทีหลังไม่เอาแบบนี้แล้วนะ” เขาวางมือลงบนกลุ่มผมนิ่ม จู่ๆคำพูดของมินฮยอนก็วิ่งย้อนกลับเข้ามาในหัว
‘มึงไม่อยากดูแลน้องได้มากกว่าที่เป็นอยู่แบบนี้เหรอวะ?’
“…”
และเขาสัญญากับตัวเอง
“เป็นห่วงนะรู้มั้ย”
ว่าจะไม่ปล่อยให้พัคจีฮุนหายไปไหนอีก
-Photograph-
“ว้าว~ สวยจังครับ” เด็กดื้อที่เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนยังทำหน้าหงอยใส่เขากลับมาพูดเจื้อยแจ้วเช่นเดิมดวงตากลมใสเป็นประกายยามที่วงล้อยักษ์นี่ขยับให้เราอยู่สูงขึ้นรอยยิ้มที่เขาชอบวาดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับจะฉุดรั้งให้เขาไม่สามารถหลุดออกจากหลุมที่ชื่อพัคจีฮุน – ไม่มีทางใดเลย
“พี่ซองอูยิ้มเร็ว~”
แชะ!
แต่ไม่เป็นไร
ถ้าเป็นคนๆนี้ เขายินดีทั้งหมด
เพราะ พัคจีฮุน
– ถูกสลักเอาไว้ในใจเขามาตั้งนานแล้วนี่นา :-)
-Photograph-
“พี่ซองอูทำอะไรครับเนี่ย?” เจ้าตัวดื้อที่ถูกเขาจูงมือให้เดินตามต้อยๆเอ่ยถามขณะที่ถูกปิดตาเอาไว้
“ยืนตรงนี้ก่อนนะ พี่มีของขวัญจะให้ครับ” ทันทีที่ได้ยินคำว่าของขวัญก็เหมือนมีหูกับหางงอกออกมากระดิกดุ๊กดิ๊กเหมือนลูกหมาพัคจีฮุนที่แม้จะถูกปิดตาหุบรอยยิ้มกว้างเอาไว้ไม่มิด
เชือกเส้นเล็กถูกวางลงบนมือของเขาแทนสัมผัสอบอุ่นของใครบางคนพัคจีฮุนขมวดคิ้ว ขณะที่กลิ่นน้ำหอมคุ้นเคยเริ่มจางหายไป
“พี่ซองอู…”
“อยู่นี่ครับ” พัคจีฮุนหันไปตามเสียงคิ้วเรียวขมวดเข้าหากันหนักขึ้น
“ทำอะไรน่ะครับ?”
“ยิ้มหน่อยสิ”
“หือ?”
แชะ!
“พี่ซองอู!” เจ้าคนน่ารักทำหน้ามุ่ยเมื่อถูกเขาถ่ายรูปให้แบบไม่ตั้งตัวอีกครั้งผ้าปิดตาถูกเอาออกก่อนที่เขาจะบอกเสียด้วยซ้ำ
“น่าเกล- หือ?” พัคจีฮุนยืนนิ่งขณะที่เขายังคงกดชัตเตอร์มือเล็กไล่สัมผัสไปบนฟิล์มแต่ละแผ่นที่ติดเรียงรายกันบนเส้นด้าย เมจิกสีดำลายมือคุ้นตา และตะกอนความรู้สึก – ที่ถูกปัดให้ลอยคลุ้ง
‘Lunchtime on some day
a kitten with a chicken :-)’
’25-12-2017Christmas Day
A kitten with his big friend :-)’
พัคจีฮุนหัวเราะ
– ขณะที่เขาอมยิ้ม
‘cuite with yellow uniforms’
‘when a kitten becomes a princess :-)’
‘First time ,
I met you’
พัคจีฮุนยิ้มกว้าง
– เขายิ้มตามรอยยิ้มนั้น
‘First time ,
I’m in love with you :-)’
พัคจีฮุนกอดเขาแน่น
–และเขา ก็ยังคงตกหลุมรักพัคจีฮุนเช่นเดิม
“จีฮุนอา”
“…”
“Can I keep you in my heart? :-)”
-Photograph-
“เหม่ออะไรครับ?”
องซองอูส่ายหน้าขณะที่ยกมอคค่าเย็นขึ้นจิบ พัคจีฮุนหรี่ตามองเขา
“พี่ยิ้มแปลกๆ”
“มีความสุขก็เลยยิ้มไงครับ ไม่ได้เหรอ?” เขาได้ยินเสียงถอนหายใจจากคนตัวเล็กกลิ่นหอมฉุยของข้าวผัดลอยฟุ้ง มือเล็กวางจานลงบนโต๊ะก่อนจะถอดผ้ากันเปื้อนตัวโปรด
“อ๊ะ มากอดทำไมเนี่ย?”
เขาไม่ตอบพลางกดจมูกลงบนกลุ่มผมหอม
ตามด้วยแก้มแดงทั้งซ้ายและขวา
และ –
จุ๊บ
จบลงที่ริมฝีปากนุ่มนิ่ม
“จีฮุนอา”
“ครับ?”
“ขอบคุณนะ”
“…”
“ขอบคุณ… ที่ให้พี่เก็บหัวใจของเราเอาไว้นะครับ :-)”
รอยยิ้มกว้างวาดบนใบหน้าที่เขาแสนรัก
“ขอบคุณเหมือนกันครับ”
“:-)”
“แล้วก็…”
“?”
“Thank you for coming to fulfill my life. My sunshine :-)”
เรา
จะเก็บความรักทั้งหมดไว้
ในทุกแผ่นฟิล์มที่ถ่าย
ทุกสถานที่ที่ไป
ทุกเส้นด้ายของความทรงจำ
และ
ทุกพื้นที่ – ในหัวใจ :-)
-Photograph-
[Talk]
ก่อนอื่นเลยต้องขอบคุณรูปจาก 3 แอคนี้ค่ะ
@jihoonbase , @WBoy529 ,@ccapturebyme
แล้วก็ขอบคุณพี่สาวที่เรารักมากๆที่คอยพรูฟฟิคให้ตลอดขอบคุณมากเลยค่ะ :-)
สำหรับเรื่องนี้ถ้าหากว่ามันรวบรัดไปต้องขอโทษด้วยนะคะเราไม่รู้ว่าถ้าเขียนยาวกว่านี้มันจะยืดเกินไปมั้ย T_T
เรื่องนี้เป็นทานตะวันต้นที่สามแล้วของปี 2018 จะเข้าเดือนที่สี่ของปีแล้ว
ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามารับดอกทานตะวันของเรานะคะ :-)
หวังว่าจะได้เจอทุกคนไปอีกเรื่อยๆเลยน้า
ฝากเรื่องนี้ไว้ในใจทุกคนด้วยนะคะเรารออ่านคอมเม้นของทุกคนเสมอค่ะ
แล้วเจอกันเรื่องหน้าน้า :-) ♡
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in