เรื่องราวความเชื่อเกี่ยวกับแม่มดในรูปแบบของวรรณกรรมเยาวชนที่ดูแตกต่างไปจากแฮร์รี่ พอตเตอร์ เพราะแม่มดในครั้งนี้เกลียดเด็กอย่างมาก และอยากสาปเด็กให้เป็นหนูทั้งหมด เพื่อให้มนุษย์ที่เกลียดหนูเป็นทุนเดิม จะได้กำจัดเจ้าหนูเหล่านั้นด้วยมือของมนุษย์เอง

“ยังไม่ทันจะข้ามวัน

ร่างเด็กพลันสิ้นสูณไร้

เหลือแต่หนูทั้งฝูงใหญ่

วิ่งพล่านไปในห้องเรียน”

“จากเรื่องแม่มด หน้า 100”

     คุณยายเล่าให้หลานฟังถึงเรื่องของแม่มดที่อยู่ปะปนกับคนทั่วๆไป และเเม่มดเกลียดเด็กมาก จนแม่มดอยากกำจัดเด็กทุกคนออกไปจากโลกใบนี้ให้หมดจนหมดสิ้น

“คุณยายขอเล่าเรื่อง

ให้หลานเรืองปัญญาฟัง

แม่มดเกลียดเด็กทั้ง

ที่ตั้งใจสาปเด็กกลายเป็นหนู”

     หลานชายเคยเจอแม่มดอยู่สองครั้ง ครั้งแรก หลานชายรอดมาได้ แต่พอมาเจอครั้งที่สองนี้ หลานชายได้เจอราชินีแม่มดพร้อมฝูงแม่มดที่มาประชุมกันที่จะสาปเด็กให้เป็นหนู เมื่อแม่มดเจอหลานชายเข้า แม่มดตัดสินใจสาปหลานชายให้เป็นหนู และหลานชายได้ไปเจอหนูที่ชื่อบรูโน่ ที่ถูกสาปก่อนหน้านี้แล้ว

“เป็นเพราะเหตุประมาทนี้

ทำให้เด็กดีกลายเป็นหนู

และเด็กทั้งสองได้รู้

ถึงแผนการหนูเเม่มดเอย”

     หลานชายกับบรูโน่ที่กลายเป็นหนู เดินทางไปหายายของหลานชาย และหลานชายเล่าให้ยายฟัง ยายจึงตัดสินใจวางแผนพาบรูโน่ไปหาพ่อแม่ของบรูโน่ ซึ่งครั้งแรกพ่อแม่ของบรูโน่ไม่เชื่อ แต่ตอนหลังพ่อแม่บรูโน่ก็เชื่อ และเศร้าแทบขาดใจที่ลูกกลายเป็นแบบนี้ไป

“เมื่อลูกกลายเป็นหนู

พ่อแม่รู้แทบขาดใจ

พยายามช่วยลูกไว้

เพื่อให้ลูกกลายเป็นคน”

     หลานชายกับยายจึงวางแผนกันทั้งคู่ว่า จะต้องรีบจัดการให้แผนการของเจ้าแม่มดไม่สำเร็จ แต่จะทำยังไงนั้น ทั้งหลานชายและยายก็ได้วางแผนเซอร์ไพรส์เจ้าราชินีแม่มดพร้อมฝูงแม่มดทั้งหลายแล้ว 

“คุณยายร่วมวางแผนนี้

แผนการนี่อันสดศรี

ทำให้แม่มดทั้งหลายที่

กลายดีได้กลับเป็นร้าย”

     หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือเด็กที่อ่านไป แล้วก็กลัวไปด้วยนะ เราจำได้ว่า ตอนอ่านเด็กๆนี่กลัวมากว่า หนูทั้งหลายคือคนหรือเปล่าเนี่ย เมื่อพอโตขึ้นมาถึงค่อยคิดได้ว่า หนังสือเล่มนี้แค่แต่งขึ้นเอง และเราขำตัวเองตอนเด็กที่กลัวหนูแทบตายว่าจะเป็นเด็กๆ และหนังสือเล่มนี้ยังสอนให้เราเห็นถึงความกล้าหาญในการที่จะทำอะไรสักอย่างหนึ่งให้สำเร็จ

“อย่าคิดว่าจะเราจะทำไม่ได้ หากเรายังไม่ลงมือทำ”

     เราเคยคิดว่า เล่มนี้ไม่ค่อยเหมาะกับหนังสือเด็กเท่าไหร่ แต่เหมาะกับหนังสือผู้ใหญ่มากกว่า เพราะอย่างที่บอก คือ เด็กๆหลายคนดู ค่อนข้างกลัวเหมือนกัน ดังนั้น วันนี้ เราขอจบรีวิวหนังสือเล่มนี้เพียงเท่านี้ค่ะ

LOOK A BREATHE