เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บ่นเรื่อยเปื่อยJan A E-nee Kitsada
ส้มหล่น
  • เกือบได้ปิดซอยแถวบ้านจัดงานเลี้ยงฉลองเสียแล้ว ถ้าวันนั้นตะปูตอบรับว่า“จริงค่ะ เราคบกันเหอะ” แต่สิ่งที่ได้ยินชัดเจนคือ“ตะปูล้อเล่นนะคะ”ผมนี่แอบดีใจลึก ๆ เลยทีเดียวช่วงระหว่างรอคำตอบนึกว่าเธออาจเปลี่ยนใจยอมคบผมในฐานะแฟนเสียที ถึงกระนั้นก็ไม่เป็นไรถึงเธอจะยังไม่ใจอ่อนแต่ผมเชื่อมั่นว่าความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น สักวันความพยายามและสิ่งดีที่ตั้งใจทำคงไม่สูญเปล่าและอาจกลับมาตอบแทนในรูปของความสำเร็จความสมหวังก็ได้อย่างน้อยช่วงเวลาที่ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับตะปูช่างเป็นเวลาที่แสนมีคุณค่าและมีความสุขที่สุด

    ความสัมพันธ์ของเราสองคนแนบแน่นมากขึ้น จนผมอดคิดไม่ได้ว่าตะปูคงชอบและรู้สึกดี ๆกับผมเช่นกันเพียงแต่เธอไม่กล้าแสดงความรู้สึกออกมาตรงๆ เท่านั้น แต่ห้วงลึกของความรู้สึกยับยั้งผมว่าอย่าเพิ่งดีใจไปบางทีผมอาจคิดผิดก็เป็นไปได้ เพราะความรู้สึกของคนบางครั้งมันก็ยุ่งยากซับซ้อนกว่าที่จะหยั่งรู้ได้ควรรอคำตอบจากเจ้าตัวจะดีกว่า ช่วงนี้นับเป็นช่วงเวลาที่ผมกับตะปูคุยกันตลอดตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน

    “ถ้าเปรียบตะปูเป็นต้นไม้ พี่จะรดน้ำด้วยความรักทุกวันพรวนดินด้วยความเข้าใจ ใส่ปุ่ยด้วยความเอาใจใส่ เพื่อให้ต้นไม้ออกผลมาเป็นความรักของปู”ผมโทรคุยกับตะปูในช่วงเย็นวันหนึ่งขณะขับรถกลับบ้าน 

    “ขอบคุณนะคะ”ตะปูไม่แสดงความรู้สึกออกมาอีกตามเคย ฝนเมืองไทยเริ่มโหมกระหน่ำลงมาอย่างหนักจนผมต้องเปิดที่ปัดน้ำฝน เราคุยกันนานจนได้เวลานอนของเธอแล้ว จึงแสดงความห่วงใยกับเธอเหมือนทุกครั้ง

    “จะนอนยังคะ”

    “ยังค่ะ ยังไม่ง่วง”

    “ถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ” ตะปูเปรยด้วยน้ำเสียงจริงจัง

    “มีอะไรหรือคะ” ผมชักใจคอไม่ดีกับน้ำเสียงที่ดูจริงจังนั้น

    “พี่จำที่เคยบอกตะปูได้หรือเปล่าคะ”

    “อืม...” ผมพยายามนึกว่าเคยบอกกับเธอในเรื่องอะไร แต่พยายามนึกเท่าไรก็นึกไม่ออก จะทำยังไงดีกลัวว่าตะปูจะคิดว่าผมไม่เคยให้ความสำคัญในสิ่งที่พูดออกไปเลย แต่ผมจำไม่ได้จริง ๆ ไม่ใช่ไม่ใส่ใจในคำพูดทุกคำที่พร่ำบอกเธอไป เพราะมันกลั่นออกมาจากความรู้สึกและความตั้งใจของผมทุกครั้ง

    “เรื่องอะไรคะ พี่ไม่แน่ใจ” ผมเสียงอ่อย

    “เรื่องที่พี่เคยขอตะปูไงค่ะ จำได้ไหม”

    “ใช่ที่พี่ขอตะปูเป็นแฟนหรือเปล่า”

    “ใช่ค่ะ พี่ยังยืนยันที่อยากจะเป็นแฟนกับตะปูอีกหรือเปล่าคะ”

    “ทำไมหราคะ”

    “พี่ตอบคำถามก่อน”

    “พี่ชอบตะปูนะ พี่อยากเป็นแฟนกับเราน่ะ”

    “ถ้าพี่ยังยืนยันว่ายังอยากเป็นแฟนกับตะปูอย่างที่พี่บอก งั้นเรามาเป็นแฟนกันไหมคะ”

    สิ้นเสียงตะปูผมอึ้งไปชั่วขณะไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้จากปากของตะปู “พูดจริงหรือเปล่าคะ”

    “จริงค่ะ ตะปูจะลองเปิดใจคบพี่ดูอีกสักครั้งหนึ่ง  นี่ตะปูขอพี่เป็นแฟนเลยนะคะ”

     ผมงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน นี่ผมฝันไปหรือเปล่า ตะปูมาขอผมเป็นแฟน และมันก็เกิดขึ้นแล้ว ผมรีบจอดรถเข้าข้างทางหยิกตัวเองเพื่อให้แน่ใจว่าผมไม่ได้ฝันไป

    “เย้ๆๆ ...งั้นตกลงเราเป็นแฟนกันนะ” ผมตะโกนออกไปอย่างสุดเสียงรู้สึกว่าโลกนี้เป็นสีชมพูทันที

    “เราเป็นแฟนกันแล้วนะค่ะ อย่าทำให้ตะปูเสียใจล่ะ”  

     

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in