เกือบได้ปิดซอยแถวบ้านจัดงานเลี้ยงฉลองเสียแล้ว ถ้าวันนั้นตะปูตอบรับว่า“จริงค่ะ เราคบกันเหอะ” แต่สิ่งที่ได้ยินชัดเจนคือ“ตะปูล้อเล่นนะคะ”ผมนี่แอบดีใจลึก ๆ เลยทีเดียวช่วงระหว่างรอคำตอบนึกว่าเธออาจเปลี่ยนใจยอมคบผมในฐานะแฟนเสียที ถึงกระนั้นก็ไม่เป็นไรถึงเธอจะยังไม่ใจอ่อนแต่ผมเชื่อมั่นว่าความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น สักวันความพยายามและสิ่งดีที่ตั้งใจทำคงไม่สูญเปล่าและอาจกลับมาตอบแทนในรูปของความสำเร็จความสมหวังก็ได้อย่างน้อยช่วงเวลาที่ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับตะปูช่างเป็นเวลาที่แสนมีคุณค่าและมีความสุขที่สุด
ความสัมพันธ์ของเราสองคนแนบแน่นมากขึ้น จนผมอดคิดไม่ได้ว่าตะปูคงชอบและรู้สึกดี ๆกับผมเช่นกันเพียงแต่เธอไม่กล้าแสดงความรู้สึกออกมาตรงๆ เท่านั้น แต่ห้วงลึกของความรู้สึกยับยั้งผมว่าอย่าเพิ่งดีใจไปบางทีผมอาจคิดผิดก็เป็นไปได้ เพราะความรู้สึกของคนบางครั้งมันก็ยุ่งยากซับซ้อนกว่าที่จะหยั่งรู้ได้ควรรอคำตอบจากเจ้าตัวจะดีกว่า ช่วงนี้นับเป็นช่วงเวลาที่ผมกับตะปูคุยกันตลอดตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน
“ถ้าเปรียบตะปูเป็นต้นไม้ พี่จะรดน้ำด้วยความรักทุกวันพรวนดินด้วยความเข้าใจ ใส่ปุ่ยด้วยความเอาใจใส่ เพื่อให้ต้นไม้ออกผลมาเป็นความรักของปู”ผมโทรคุยกับตะปูในช่วงเย็นวันหนึ่งขณะขับรถกลับบ้าน
“ขอบคุณนะคะ”ตะปูไม่แสดงความรู้สึกออกมาอีกตามเคย ฝนเมืองไทยเริ่มโหมกระหน่ำลงมาอย่างหนักจนผมต้องเปิดที่ปัดน้ำฝน เราคุยกันนานจนได้เวลานอนของเธอแล้ว จึงแสดงความห่วงใยกับเธอเหมือนทุกครั้ง
“จะนอนยังคะ”
“ยังค่ะ ยังไม่ง่วง”
“ถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ” ตะปูเปรยด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“มีอะไรหรือคะ” ผมชักใจคอไม่ดีกับน้ำเสียงที่ดูจริงจังนั้น
“พี่จำที่เคยบอกตะปูได้หรือเปล่าคะ”
“อืม...” ผมพยายามนึกว่าเคยบอกกับเธอในเรื่องอะไร แต่พยายามนึกเท่าไรก็นึกไม่ออก จะทำยังไงดีกลัวว่าตะปูจะคิดว่าผมไม่เคยให้ความสำคัญในสิ่งที่พูดออกไปเลย แต่ผมจำไม่ได้จริง ๆ ไม่ใช่ไม่ใส่ใจในคำพูดทุกคำที่พร่ำบอกเธอไป เพราะมันกลั่นออกมาจากความรู้สึกและความตั้งใจของผมทุกครั้ง
“เรื่องอะไรคะ พี่ไม่แน่ใจ” ผมเสียงอ่อย
“เรื่องที่พี่เคยขอตะปูไงค่ะ จำได้ไหม”
“ใช่ที่พี่ขอตะปูเป็นแฟนหรือเปล่า”
“ใช่ค่ะ พี่ยังยืนยันที่อยากจะเป็นแฟนกับตะปูอีกหรือเปล่าคะ”
“ทำไมหราคะ”
“พี่ตอบคำถามก่อน”
“พี่ชอบตะปูนะ พี่อยากเป็นแฟนกับเราน่ะ”
“ถ้าพี่ยังยืนยันว่ายังอยากเป็นแฟนกับตะปูอย่างที่พี่บอก งั้นเรามาเป็นแฟนกันไหมคะ”
สิ้นเสียงตะปูผมอึ้งไปชั่วขณะไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้จากปากของตะปู “พูดจริงหรือเปล่าคะ”
“จริงค่ะ ตะปูจะลองเปิดใจคบพี่ดูอีกสักครั้งหนึ่ง นี่ตะปูขอพี่เป็นแฟนเลยนะคะ”
ผมงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน นี่ผมฝันไปหรือเปล่า ตะปูมาขอผมเป็นแฟน และมันก็เกิดขึ้นแล้ว ผมรีบจอดรถเข้าข้างทางหยิกตัวเองเพื่อให้แน่ใจว่าผมไม่ได้ฝันไป
“เย้ๆๆ ...งั้นตกลงเราเป็นแฟนกันนะ” ผมตะโกนออกไปอย่างสุดเสียงรู้สึกว่าโลกนี้เป็นสีชมพูทันที
“เราเป็นแฟนกันแล้วนะค่ะ อย่าทำให้ตะปูเสียใจล่ะ”
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in