เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ฉัน ความคิด และตัวหนังสือลลลลน
เป็นตัวของตัวเอง
  • ทุกๆคนต่างแนะนำว่าให้ลองไปทำอะไรตามใจอยากดู บางครั้งเราอาจจะรู้สึกดีกว่าตอนที่มีแฟนก็ได้
                    หลังจากเลิกกัน ฉันก็ได้ทำอะไรหลายๆอย่างที่ไม่เคยลองทำเช่น ดื่มเบียร์ เมื่อก่อนฉันมักจะเล่นมุขตลกขำขันอยู่เสมอว่าอยากดื่มเบียร์ ไม่ก็อยากเมาให้หัวราน้ำไปเลย แต่ฉันก็ไม่เคยทำมันจริงๆหรอกนะ(ฮา)

                    พอเลิกกันจริงๆฉันกลับกลายเป็นมนุษย์ที่ตกหลุมรักในรสสุราไปเสียอย่างงั้น ฉันดื่มทุกครั้งที่มีโอกาส ทั้งดื่มกับมิตรสหายและดื่มคนเดียว กระนั้นฉันก็ดื่มแต่พอดีไม่ได้ดื่มจนสติเลือนรางหรือดื่มจนอาเจียนซึ่งมันอาจเป็นเพราะตัวฉันไม่ชอบคนที่เมามายจนไม่ได้สติแล้วต้องเป็นภาระให้คนอื่น

                    ภายนอกของฉันในตอนนี้อาจดูเป็นหญิงสาวเจ้าสำราญผู้หลงใหลไปกับเสียงหัวเราะและรสชาติขมปร่าของเบียร์ ทว่าลึกๆในใจฉันนั้นก็มีคำถามหนึ่งที่วนเวียนไปมาเฉกเช่นสายลมหนาวที่เหมือนจะไม่มีอยู่จริงแต่ก็พัดผ่านมาให้ความหวังเราเล่นๆอยู่ร่ำไป

    "นี่ฉันกำลังเป็นตัวของตัวเองอยู่หรือเปล่านะ?"
    "แล้วตอนนี้เขาเป็นตัวของตัวเองอยู่ไหม?"

                    น่าขันที่ตอนนี้เขาอาจจะไม่ได้มีฉันอยู่ให้เสี้ยวของห้วงความคิดเขาด้วยซ้ำ(คาดเดา) แต่ตัวฉันเองก็ยังคงปล่อยใจให้ลอยไปเยี่ยมเยียนเขาอยู่บ่อยๆ  แต่คำถามที่ว่า"เขาเป็นตัวของตัวเองไหม"มันคงเกิดขึ้นเพราะฉันไม่อยากให้เขารู้สึกไม่สบายใจล่ะมั้ง ถ้าหากตอนนี้เขากำลังไม่เป็นตัวของตัวเองอยู่ หากจะให้พูดง่ายๆก็คือ ฉันคิดว่าการไม่เป็นตัวของตัวเองมันเป็นเรื่องที่น่าอึดอัด และฉันก็ไม่อยากให้เขาต้องเป็นแบบนั้น (เข้าใจง่ายขึ้นไหมนะ ฮา)
     
                   ฉันไม่รู้หรอก ว่าการเป็นตัวเองมันคืออะไร ตอนนี้ฉันก็แค่ทำในสิ่งที่อยากทำ ฉันออกกำลังกาย ดื่มสุรา อ่านหนังสือ ก็นึกแปลกใอยู่เหมือนกันที่เพิ่งจะมารู้ตัวว่าฉันเป็นคนชอบอ่านหนังสือมากกว่าดูหนัง(มีช่วงหนึ่งที่ฉันคิดว่าตัวเองเป็นคนรักในการดูหนังมาก แต่นั่นอาจเป็นเพราะแฟนเก่าของฉันชอบ ฉันจึงไปดูเป็นเพื่อนเขาบ่อย)
                    ซึ่งมันก็มีิสิ่งที่ฉันอยากทำแต่ทำไม่ได้ และนั่นก็คือการทักไปบอกเล่าอย่างมีความสุขว่าวันนี้ฉันได้ทำอะไรมาบ้าง แน่นอนว่าทำไม่ได้เพราะคิดว่าการที่จู่ๆจะทักไปบอกเล่าเรื่องราวต่างๆให้กับคนที่ไม่ได้อยากรู้สารทุกข์สุกดิบของเราช่างเป็นเรื่องน่าอาย รู้สึกเหมือนกำลังโดนบอกว่า'ใครอยากรู้กัน'ยังไงก็ไม่รู้
  •                 น่าเศร้าที่เมื่อก่อนเขาเป็นคนที่รับฟังเรื่องต่างๆของฉันอย่างสนอกสนใจไปเสียทุกเรื่อง แต่ในตอนนี้ฉันกับรู้สึกกังวลที่จะคุยกับเขาในบางครั้งเพราะกลัวว่าจะทำเขาอึดอัดใจ หรือกลัวว่าเขาจะเกลียดฉัน เหมือนเรากลายเป็นคนที่ไม่รู้จักกันไปเสียอย่างงั้น คงเป็นเรื่องน่ายินดีไม่ใช่น้อย หากเราสามารถกลับไปคุยกันอย่างสบายใจได้เหมือนเมื่อก่อน เพราะฉันถวิลช่วงเวลานั้นเหลือเกิน

                    ฉันกับเขาไม่ได้จบกันแย่ เราได้คุยปรับความเข้าใจกันเล็กน้อย เราคุยกันว่าจะคบหากันเป็นเพื่อนไปก่อน แต่กระนั้น การกระทำต่างๆมันดูห่างเหินเสียจนทำให้คิดว่าเพื่อนกันเขาทำกันแบบนี้หรือเปล่านะ? ไม่รู้ว่าเขากับฉันปฏิบัติต่อเพื่อนไม่เหมือนกันรึเปล่า แต่ในบางคราเขาก็ดูเย็นชาเสียเหลือเกิน (ก็แค่บางครั้งน่ะนะ)
                    เขาบอกว่าหลังจากแสดงละครเสร็จ เขาจะกลับไปทบทวนเรื่องของเราอีกที ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องรู้สึกอย่างไร ไม่กล้าคิดเข้าข้างตัวเองแม้แต่วินาทีเดียวว่าเขาจะกลับมา เพราะฉันกลัวว่าจะต้องเจ็บปวดเหลือเกินหากคิดให้ความหวังตัวเอง

                    กลับมาถึงเรื่องของการเป็นตัวของตัวเอง บางครั้งที่ฉันนั่งคิดว่าตัวฉันเป็นแบบไหนกันนะ? ก็มักจะได้คำตอบจากตัวเองในแง่ลบเสมอ อาจเป็นเพราะฉันไม่ชอบตัวเองล่ะมั้ง? ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจริงๆแล้วฉันเป็นคนแบบไหน ส่วนใหญ่เพื่อนก็บอกว่าฉันเป็นคนดีมาก คอยรับฟังปัญหาต่างๆของพวกเขา ซึ่งฉันเองก็คิดว่ามันไม่จริง ฉันไม่ใช่คนดีอะไรหรอก ฉันทำเพราะว่าฉันอยากจะเป็นคนที่ถูกคนอื่นพึ่งพา อยากมีประโยชน์ อยากเป็นที่พึ่งของใครซักคนเพราะงั้นฉันไม่ใช่คนดีหรอก ฉันทำเพราะแค่อยากเป็นที่รักของคนอื่น

                    รู้สึกน่าอายเหมือนกันที่มีชีวิตอยู่มาตั้งขนาดนี้แล้วก็ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าตัวฉันเป็นคนแบบไหน หากเป็นไปได้ก็อยากจะใช้เวลาอีก4เดือนที่ต้องรอเขาตามหาตัวเองให้พบ ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าแท้จริงแล้วฉันเป็นคนแบบไหน

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in