คำตอบคือ ถูกทุกข้อค่ะ 

 แต่สำหรับวันนี้ เราขอหยิบยกเรื่อง การซื้อชุดโลลิต้าจากร้านแบรนด์ญี่ปุ่นมาเล่าสู่กันฟัง เพราะบางที แค่มีตังก็ซื้อไม่ได้ (แต่ถ้ามีให้มากกว่านี้อาจจะซื้อได้)

 แบรนด์ใหญ่น้อยในญี่ปุ่นมักจะออกชุดเป็นคอเลคชั่น ผลิตมาจำนวนหนึ่ง ขายแค่หนึ่งซีซั่น หมดแล้วก็หมดเลย ถ้าไม่หมดก็โดนโล๊ะไปเป็นของSales  

 แน่นอนว่าชุดที่ฮอตฮิตมากๆอาจจะมีล็อตผลิตเพิ่ม ซึ่งก็เปิดให้สั่งจองได้จำกัด หรืออาจจะมีการรีรีลีสใหม่ แต่มันก็ไม่เสมอไป

 นั่นแปลว่า ถ้าเราซื้อชุดที่หมายปองไว้ไม่ทัน เราอาจจะไม่มีโอกาสได้ใส่มันไปตลอดชีวิต......

 การเดินดุ่มๆเข้าไปซื้อชุดที่แขวนในร้าน แน่นอนว่าทำได้ งาย และสะดวก แต่ชุดในร้านนั้น แง่หนึ่งคือ มันเป็นชุดที่เหลือจากการ"จอง" 

 แบรนด์ส่วนใหญ่เปิดให้"จอง"ชุดได้ก่อนที่ชุดจะวางขาย ทั้งทางอินเตอร์เนท และที่หน้าร้าน เราขอแนะนำว่า ถ้ามีชุดที่คิดว่าต้องได้ต้องโดน ควรจองก่อนดีที่สุด เพราะบางคอลเลคชั่นบางสีขายหมดตั้งแต่ตอนเปิดจองด้วยซ้ำ แต่ความพีคคือ บางทีตอนเปิดจอง ของตัวอย่างยังไม่เสร็จดี มีแค่ภาพเสก็ตของชุดให้เราได้ดูประกอบการตัดสินใจ หรืออาจจะมีชุดตัวอย่างจริง แต่ชุดที่วางขายจริงการปรับแบบ ไม่เหมือนตัวอย่าง100%ก็ได้ และจองแล้วห้ามcancel

 และยิ่งถ้าคอลเลคชั่นนั้น(มีแวว)สวยมากๆ นั้นแปลว่า ไม่ใช่อยากจะจองก็จองได้นะคะ อาจจะมีการจับฉลาก หรือเงินไขอย่างอื่นเพิ่มเติม

 เราขอยกตัวอย่างแบรนด์ Baby,the Stars Shine Bright ที่เราไปจอง ไปนกมาบ่อยๆนะคะ

 ส่วนมาก ในวันแรกที่เปิดจอง จะจองได้แค่หน้าร้าน และจำกัดจำนวนชิ้นมนการจองด้วย เราสามารถไปรับบัตรคิวจิงชุดได้ตั้งแต่ร้านเปิดวันนั้น แล้วไปรวมตัวกันตามเวลาเปิดจองที่ร้านอีกที เพื่อ"จับฉลาก"suffleจัดลำดับคิวที่จะได้จอง นั่นแปลว่า ไปเอาคิวคนแรก อาจจะได้จองเป็นคนสุดท้ายก็ได้ ..... แต่ละร้านจะมีSlotว่าแต่ละแบบแต่ละสีรับจองได้กี่ชุด ถ้าSlotเต็ม ก่อนถึงคิวเรา ก็นกนะจ๊ะ จิ๊บๆ

 และถ้าชุดที่ฮิตมากๆ มักจะมีล็อตผลิตเพิ่ม ซึ่งได้ของที่หลัง เวลาจองคนที่นกจากรอบแรกจะได้สิทธิ์ก่อน แล้วถึงเป็นคิวคนที่อยากจองเพิ่ม หากมีคนต้องการจองมากกว่าจำนวนผลิด ก็จับฉลากเอาค่ะ

 มีตังอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีดวงด้วย

 แต่สำหรับแบรนด์ที่(ตามปกติ)ไม่เปิดให้จองอย่างAngelic Prettyนั้น มันค่อนข้างจะสงครามเลยค่ะ 

 เวลาAngelic Pretty ออกคอลเลคชั่นใหม่ ของจะเข้าร้านและเริ่มวางขายในเช้าวันเสาร์ ทั้งในเว็บช็อป และหน้าร้าน แน่นอนว่าสต๊อกแยกกัน ฉะนั้นใครใคร่กด กด ใครใคร่ต่อคิว ต่อ ต่อไปกดไปก็ได้5555 

 สำหรับการซื้อออนไลน์ เราต้องต่อสู้กับสาวโลลิต้าจากทุกมุมโลก หากคอลเลคชั่นใหนฮิตมากๆ ถึงขั้นเว็บล่ม หมดใน5นาทีกันเลย

 ส่วนหน้าร้าน ก็ใช้ระบบจับฉลากคิวเหมือนกันค่ะ แต่ของพริตตี้จะมีกฏว่า

 ต้องมารอก่อนร้านเปิด20นาที(ห้ามมาก่อน มาสายก็อด) 

 ต้องใส่ชุดชิ้นหลักของAngelic Prettyที่เคยมีวางขายในร้าน (พวกที่ขายที่ดิสนีย์ไรงี้ไม่นับ พวกที่เป็นคัทผ้ายืดก็ไม่นับ) 

 เสื้อเบลาส์ และอินเนอร์ก็ต้องเป็นของAngelic Pretty 

 "ต้อง"ติดเครื่องประดับผม(ไม่ต้องคอลเลคชั่นเดียวกันก็ได้ แต่ต้องเข้าชุดกัน และเป็นของAngelic Pretty)

 กระเป๋า หรือรองเท้า อย่างใดอย่างหนึ่งต้องเป็นของAngelic Pretty และชิ้นที่ไม่ใช่ก็ต้องเข้าชุดกัน

 หากมีเสื้อคลุม หรือเสื้อนอก ก็ต้องเข้าชึดกับชิ้นที่เหลือ 

 และสุดท้ายคือ ต้องตรงตามฤดูการ ไม่ใช่แขนสั้นบางๆมากลางหิมะไรงี้

 ถ้าเคลียร์ข้อกำหนดนี้ได้ ถึงจะมีสิทธ์จับคิวค่ะ ทั้งหมดนี่ก็เพื่อป้องกันคนนำไปขายต่อโก่งราคา พิสูจว่าคนซื้อคือคนใส่จริงๆนั่นเอง

 แค่ถ้าใส่Angelic Prettyหัวจรดเท้าไม่ได้ ไม่ได้แปลว่าห้ามซื้อนะคะ แต่คิวจะถูกจัดให้ไปอยู่หลังกลุ่มแรกนั่นเอง ลำดับการซื้อคือ สาวAngelicPretty->สาวโลลิต้าแบรนด์อื่น->คนที่ไม่ได้ใส่ชุดโลลิต้ามา ตามนี้ค่ะ

 และแน่นอน ว่าได้คิว ไม่ได้แปลว่าได้ของ.....

 นอกจากนี้ ยังมีความยากลำบากอื่นๆในการจะซื้อชุดสักชุดอีก เช่น "จำกัดเฉพาะผู้เข้าร่วมTea Party" "วางขายแค่สาขาxxx"เป็นต้น

 แน่นอนว่าหากพลาดจากขั้นตอนเหล่านี้ และของหมดไปแล้ว ก็คือต้องหา"ซื้อต่อ"เท่านั้น ซึ่งถ้าคอลเลคชั่นดังๆนี่ราคาก็อาจจะ ++ก็ได้ มีตังอย่างเดียวไม่พอจริงๆ ต้องมีมากๆด้วย

 อีกอย่างที่อยากแนะนำคือ ให้สนิทกับพนักงาน ซื้อของจนมี"ทันโต"หรือคนที่จะคอยดูแลเราเวลาไปร้านให้ได้ เค้าจะคอยบอกข่าวสารต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการเสียตังของเรามากๆค่ะ

 ใครอยากซื้อชุดแบรนด์ญี่ปุ่น แต่ไม่รู้จะทำยังไง ถามได้นะคะ5555

 ปิดท้ายด้วยความขี่เห่อ ชุดที่จองล่าสุดไป แล้วไปรับมาแล้ว

 อีกอย่างที่อยากฝากไว้คือ ชุดพวกนี้ราคาค่อนข้างสูง ซื้อทั้งที ควรซื้อชุดที่อยากใส่จริงๆ  ไม่ใช้ซื้อเพราะมันฮิต มันถูก มันลดราคาเป็นเหตุผลหลัก (แต่เป็นเหตุผลสนับสนุน5555)