ในดินแดนของโคโคส-นูสิเฟอร่าแลนด์ เป็นดินแดนที่อยู่ห่างไกลจากทวีปยุโรปเป็นระยะทาง 100 ไมล์ เป็นหมู่เกาะเล็กๆ ที่อยู่บนมหาสมุทรแอตแลนติก ที่นั่นมีทั้งความเจริญและความเป็นอยู่ที่สมบูรณ์ มีกษัตริย์เป็นผู้ปกครองบ้านเมืองชื่อราชามอน และมีพระมเหสีชื่อโมโมม่อน มีบุตรโอรสเพียงพระองค์เดียว มีพระนามว่า "มินนิม่อน"
ครั้นต่อมา โอรสมินนิม่อนเข้าสู่วัยหนุ่ม วัยซุกซน เป็นเด็กแว้นซ์ขับรถซิ่งทั่วบ้านทั่วเมือง ราชาม่อนเห็นว่ามินนิม่อนทำหน้าที่ไม่สมบทบาท จึงจับมาขังไว้ในปราสาทและอบรมสั่งสอนเฆี่ยนตี จนมินนิม่อนกลับตัวกลัวใจ
ครั้นต่อมา โอรสมินนิม่อนมีพระชนมายุ 16 พรรษา โอรสมินนิม่อนมีผิวพรรณงดงาม เป็นที่ต้องตาต้องใจบรรดาสาวในพระราชวังเป็นอย่างมาก ทำให้ชายนายหนึ่งแอบอิจฉาริษยา วางแผนคิดการปลงพระชนม์ โดยออกอุบายชวนโอรสมินนิม่อนมาทอผ้าในวังหลังของตน ในขณะที่โอรสมินนิม่อนกำลังเย็บปักถักร้อยนั้น เขาถูกเข็มตำที่นิ้วมือ และโอรสมินนิม่อนสลบไปเป็นระยะเวลา 100 ปี
เอ๊ะ ไม่ใช่แล้ว รู้สึกว่าพล็อตเรื่องมันคล้ายๆ กับเจ้าชายนิทรายังไงชอบกลไม่รู้ งั้นขอเล่าย้อนกลับไปใหม่นะ
หลังจากที่โดนพระบิดาอบรมสั่งสอนแล้ว ต่อมาโอรสมินนิม่อนเจริญพระชนมายุได้ 20 พรรษา พระราชบิดาทรงกังวลพระหฤทัยเป็นอย่างยิ่งว่า ตั้งแต่มินนิม่อนประสูติมาไม่มีสาวๆ หมายปองเลย นับวันพระราชบิดาทรงแก่ตัวลงเรื่อยๆ และจะไม่มีใครดูแลมินนิม่อน ในวันข้างหน้าอาจจะไม่มีพระมเหสีเกิดขึ้น และคงไม่มีทายาทสืบสกุลม่อน สกุลม่อนจะหายสาบสูญไปจากหน้าบันทึกของประวัติศาสตร์
เมื่อทรงคิดได้ดังนั้น ราชาม่อนจึงจัดการป่าวประกาศร้องให้ดินแดนที่อยู่ภายใต้ปกครองทั้ง 12 เกาะส่งตัวหญิงสาวของแต่ละเมืองมาให้บุตรโอรสดูตัว เกาะละ 2 คน และจะต้องตบตีแย่งชิงมินนิม่อนจนเหลือผู้ชนะ 1 คน ซึ่งจะได้เจ้าชายและบัลลังก์ของพระมเหสีไปครอง
ปาราวดี เป็นนางคนหนึ่งที่อยู่ในเกาะที่ 12 ซึ่งเป็็นเกาะที่ไกลปืนเที่ยง แต่จำใจต้องเดินทางร่วมกับแม่หม้ายอีกคนเพื่อต่อสู้แย่งชิงมินนิม่อน หลังจากผ่านสนามรบมากมาย ปาราวดีก็เป็นผู้ชนะการประลองครั้งนี้ และได้รับตำแหน่งพระมเหสีคนถัดไป พระราชาม่อนมีความปลื้มปิติเป็นอย่างมาก จึงจัดพิธีอภิเสกสมรสทั้งสองโดยเร่งด่วน และมีนาฬิกาข้อมือสีทองกับเมืองที่อยู่ภายใต้การปกครองทั้ง 12 เกาะ เป็นสินสอดและของหมั้น หลังจากนั้นไม่นานราชาม่อนก็เสด็จสวรรคต และในปีต่อมา พระมเหสีก็เสด็จตามไปด้วย
แรกเริ่มเดิมที ทั้งสองหวานรื่นชื่นมื่นเป็นอย่างมาก แต่พอนานไปน้ำต้มผักที่ว่าหวานก็กลับกลายเป็นความขม มินนิม่อนเริ่มตีตัวออกห่างจากปาราวดี แอบคบกับนางสนมลับๆ ไว้อีกมากมาย แต่ด้วยฐานะที่มีตำแหน่งของกษัตริย์ค้ำคอ ทำให้ต้องแสดงบทบาทให้ราษฎรทั่วไปทราบว่ายังรักกันดี
ปาราวดีทนไม่ไหว บุกเข้าห้องพระบรรทมของมินนิม่อน และต่อว่ามินนิม่อนด้วยต่างๆ นาๆ จนมินนิม่อนทนไม่ไหว หยิบปืน M-16 ที่เก็บในไว้ตู้ลิ้นชัก ลั่นไกใส่ปาราวดี ปาราวดีนอนล้มตัวลงบนพื้นท่ามกลางกองเลือดยังคงไหลไม่หยุด
สาวใช้คนหนึ่งได้ยินเสียงปืน และเปิดประตูห้องพระบรรทม เห็นภาพเหตุการณ์สยดสยองที่เกิดขึ้น และจะพยายามส่งเสียงกรี๊ด แต่โอรสมินนิม่อนเล็งปืนที่หน้าของสาวใช้ สาวใช้คนนั้นเอามือปิดปาก โอรสมินนิม่อนเอานิ้วชี้ป้องปาก และพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า
"จัดการเก็บศพด้วยนะ อย่าให้ใครรู้เรื่องนี้ ไม่งั้นข้าจะกุดหัวเจ้า"
"เพคะ" สาวใช้คนนั้นพยักหน้าตอบด้วยความกลัว
หลังจากนั้นไม่นาน บรรดาสื่อทั้งหลายในพระราชวัง รายงานข่าวการตายของพระมเหสีปาราวดีเป็นข่าวการลาออกจากฐานันดรศักดิ์ และก็ไม่มีใครสงสัยเลยว่าพระมเหสีปาราวดีหายไปไหน
เวลาผ่านไป โอรสมินนิม่อนเริ่มรู้ตัวเองว่าสิ่งที่กระทำต่อปาราวดีมันเป็็นความผิด และมันยากเกินแก้ไข เวลาที่เขาเห็นนาฬิกาข้อมือสีทอง ทำให้คิดถึงปาราวดีมากยิ่งขึ้น เขาพูดกับในใจตัวเองบ่อยครั้ง ว่าอยากให้ปาราวดีกลับมา กลับมากอดเขาให้นานๆ จนกระทั่งเขาทนไม่ได้ เขาตัดสินใจไปหานักเวทย์เพื่อทำการชุบชีวิตปาราวดี
"เจ้าก็็รู้ใช่ไหม ว่าการชุบชีวิตคนตายให้มีชีวิตคืนกลับมาอีกครั้ง มันเป็นเวทย์มนตร์ที่ต้องห้ามในหมู่นักเวทย์" นักเวทย์ผู้หญิงผมสั้นสีทอง ถือคทากล่าวขึ้น
"ข้ารู้ แต่ข้าก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้ แต่เอ๊ะ...เจ้าก็เคยทำให้คนอื่นนี่นา เจ้าทำให้ข้าหน่อยนะ ขอร้องล่ะ"
"อืม...ก็ได้ แต่เจ้าต้องสัญญาก่อนว่า ไม่ว่าผลลัพธ์จะเกิดขึ้นอย่างไรก็ตาม เจ้าต้องรับผลลัพธ์นั้นไปตลอดชีิวิต"
"ข้าสัญญา"
"เอาล่ะ...เวทย์ในการชุบชีวิตคนนั้น จะต้องใช้สิ่งของ และจะต้องเป็นสิ่งของที่ผู้ตายและกับผู้ที่มีชีวิตที่มีความผูกพันกันเป็นอย่างมาก สิ่งของสิ่งนี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้วิญญาณระลึกและดึงตัววิญญาณให้กลับมาคืนเป็นกายหยาบที่อยู่ตรงหน้าได้"
"ข้ามีของชิ้นนั้นแล้ว" มินนิม่อนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง และหยิบกล่องสีแดงออกมา แสดงให้นักเวทย์ดู มินนิม่อนเปิดกล่องออกมาเป็นนาฬิกาข้อมือสีทอง เขาหยิบและส่งมันให้กับนักเวทย์ "นาฬิกาเรือนนี้เป็นสินสอดของสองเรา ดังนั้นข้ามั่นใจว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ข้ากับปาราวดีผูกพันกันมาก"
"ดี..รอสักครู่นะ"
นักเวทย์รับนาฬิกาของมือสีทองจากมินนิม่อน และนำไปวางไว้บนพานบนโต๊ะ มีเทียนขนาดใหญ่จำนวน 4-5 แท่งวางรอบๆ และนอกจากนั้นแล้วบนโต๊ะมีรูปปาราวดีด้วย
"เอาล่ะ...ข้าจะร่ายเวทย์ละนะ โปรดอยู่ในความสงบ"
"...."
"โอมมะลึกกึ๋ย นะโม นะโม ปัดโธ่ววว..........ฮีโร่ เนเว่อร์ ดายยยยยยยย"
หลังจากนักเวทย์ร่ายมนต์จบ แสงสีทองเปล่งแสงออกมาจากคทาของนักเวทย์ และนาฬิกาสีทองเรือนนั้นเปล่งแสงและยังเปล่งความอบอุ่นจนมินนิม่อนสัมผัสและรับรู้ได้ว่า ปาราวดีกลับมาแล้ว
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in