ผมไม่ใช่คนโง่
ที่จะไปนั่งข้างๆและร้องเพลงให้คุณ
เพลงเกี่ยวกับดวงดาว
แต่เมื่อคืน ผมจ้องมองเข้าไป
ในความมืดบนท้องฟ้าที่กำลังเปลี่ยนสี
แล้วพวกมันก็ลับหายไป
ผมหวังว่าจะอยู่ใกล้ ๆ
วันที่เราเข้าใจในความจริง
ลักษณะของจิตใจ
เป็นเพื่อนสนิทกับเวลาจริง
อยู่ตรงกลางผมยืนอยู่หลายแห่งที่ยืน
เพียงเพื่อจะกลับบ้านอีกครั้ง
เดินผ่านถนนเหล่านี้ผมรู้ดี
แต่ความคิดของผมหลงทางไป
เพราะเพียงทิศทางที่เบียง
หรือบางคนที่เบียงเบียน
จากเส้นทางที่เคยคุ้นเคย
กลับเปลียนทางและผมจึงเดินไปไม่ถึงจุดหมาย
ผมสงสัยในแสงนี้
ล้อมรอบด้วยจิตวิญญาณของผมด้วยความจริง
และเสนอราคาดินของผมยังคงอยู่
นุ่มนวลเหมือนจริง
ผมหลงเข้าไปในแสง
แสงสีแดงที่แดงเหมือนริมฝีปากหรือเลือด
และตกอยู่ในจิตแสงเหล่านั้น
จากแสงสีขาวของผมดวงเดียว
ที่ขาวเหมือนก้อนเมฆ
จนบางที
ผมหลงกับแสงสีแดงมากไป
ตกลงในแสง
ตกลงไปในหลุม
และโดนถมด้วยดิน
และเศษหินทรายเหล่านั้น
มันถับถมผม
ก้อนเมฆสีขาวของผมกลับดูดและซับแสงแดงแลพวกหิน ทรายเข้าไป
ทำให้ผม
โดนมองว่า
ผมกลายเป็นแสงสีเทาดำไปแล้ว
ที่เต็มไปด้วยสีแดง
และเศษที่หินที่อยู่ในตัวผม
แต่ถ้าหากว่า
ผมลองถอยตั้งแต่ครั้งนั้น
ผมคงไม่ต้องมาเจอสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้
ผมเลิกที่จะไม่ถอย และเดินต่อ
อะไรมันคงดีกว่าเยอะ
ที่มันไม่เหมือนตอนนี้
แต่ผมก็คิดว่า
ถ้าผมอยากเห็นสายรุ้ง ผมต้องรอให้ฝนมันตกก่อน; )
ผมคงคิดใหม่ได้ว่า
ผมไม่ควรไปอินกับแสงอะไรพวกนี้มากๆ
เพราะสุดท้าย
มันก็อยู่กับผมได้ไม่นานหรอก : )
''ถ้าไม่มีความรักก็ไม่ต้องเจ็บปวด แต่หัวใจก็ไม่เคยสดใสเลยสักวันเดียวเหมือนกัน”
เหมือนผมวิ่ง
ในสนาม
ที่ไม่มีเส้นชัย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in