เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Some(thing) I lookWhItEfLoWeR ☮
[แปลเพลง] Cornelia Street By Taylor Swift ∞
  • สวัสดีค่ะผู้หลงเข้ามาอ่านทุกท่าน ! ช่วงนี้สบายดีกันหรือเปล่าคะ..
    เป็นประโยคทักทายอันแสนธรรมดา เมื่อเราอยากรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นอย่างไรบ้าง 
    แม้ประเทศจะแย่ขนาดไหน แต่ถ้าเราเชื่อมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรก็คงดีขึ้นมา  
    อย่าเพิกเฉยปัญหาทางการเมือง และใส่ใจสุขภาพกันด้วยนะคะ :)

    วันนี้แพรก็ได้กลับมาปัดฝุ่นเคาะสนิมสกิลการแปลเพลงฝากให้ได้ร้องตาม ซึมซับกันไปเพลินๆ
    เพลงนี้ถือว่าเป็นเพลงโปรดแพรเพลงหนึ่งจากอัลบั้ม Lover ของ Taylor Swift ราชินีคนสวยของใครหลายคน แรงบันดาลใจเพื่อนหญิง ที่เธอกลับมาแต่งเพลงแนวสดใสด้วยชีวิตรักที่ดีขึ้นของตัวเอง 
    เราจะเห็นการเติบโตผ่านเนื้อเพลงของเธออย่างเห็นได้ชัดเจน แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังมีเพลง
    ที่แฝงความหมายได้เจ็บปวดระทมไปพร้อมกัน (มีสุขและมีเศร้าเป็นธรรมดา ตึ่งโป๊ะ! LoL)
    โดยอัลบั้มนี้จะเน้นไปสถานที่ตามลอนดอนเป็นส่วนใหญ่ จังหวะดนตรีมีตั้งแต่จังหวะเร่งและช้า

    โดยเพลงที่แพรจะมานำเสนอในวันนี้ คือ เกิดขึ้นที่ถนนคอร์เนลเลีย 
    ว่าแล้วลองไปฟังดีกว่า เทย์เลอร์กับการเจอใครบางคนมันให้ความรู้สึกอย่างไร
    อาจจะไม่สดชื่นมาก แต่ละมุนขมและหวานจางๆก็เป็นได้ (:P)
    ปล. อยากนำเสนอเวอร์ชั่น Acoustic เพราะมันจะได้อารมณ์บีบหัวใจ กีต้าร์เทย์ก็เข้าได้ดีบนเวที



    We were in the backseat
    Drunk on something stronger than the drinks in the bar

    พวกเราอยู่ตรงเบาะท้ายของรถ
    เมากับเครื่องดื่มที่รุนแรงกว่าเครื่องดื่มใดก็ตามที่บาร์เหล้า


    "I rent a place on Cornelia Street"
     I say casually in the car

    "ฉันเช่าที่ที่หนึ่งบนถนนคอร์เนลเลีย"
      ฉันพูดออกมาอย่างบังเอิญในรถยนต์คันนั้น

    We were a fresh page on the desk
    Filling in the blanks as we go

    พวกเราเป็นเหมือนหน้ากระดาษสดใหม่บนโต๊ะ
    เพื่อเติมช่องว่างตามความคิดที่พาเราไป

    As if the street lights 
    pointed in an arrowhead Leading us home 

    พอกันกับที่ดวงไฟตรงถนนสว่างขึ้น
    ชี้ทางตามลูกศรเหนือหัว นำทางพวกเรากลับบ้าน

    And I hope I never lose you, hope it never ends
    I'd never walk Cornelia Street again

    แล้วตัวฉันที่ปรารถนาว่าจะไม่มีทางเสียเธอไป, หวังว่ามันจะไม่มีจุดจบ
    ฉันคงจะไม่กลับไปเดินบนถนนคอร์เนลเลียอีกครั้ง

    That's the kind of heartbreak time could never mend
    I'd never walk Cornelia Street again

    นั่นออกจะเป็นช่วงเวลาที่ใจสลายจนไม่สามารถประสานมันได้
    ฉันคงจะไม่กลับไปเดินบนถนนคอร์เนลเลียอีกแล้ว

    And baby, I get mystified by how this city screams your name
    And baby, I'm so terrified of if you ever walk away
    I'd never walk Cornelia Street again
    I'd never walk Cornelia Street again

    และที่รัก, ฉันถูกความลึกลับของเมืองนี้ที่กรีดร้องชื่อเธอออกมา
    และที่รัก, ฉันก็รู้สึกหวาดกลัวการมีอยู่ของมัน เมื่อเธอเดินจากไป
    ฉันไม่มีทางที่จะกลับไปเดินบนถนนคอร์เนลเลียอีกครั้ง
    ฉันจะไม่มีทางกลับไปเดินบนถนนคอร์เนลเลียอีกแล้ว

    Windows swung right open, autumn air
    Jacket 'round my shoulders is yours

    บานหน้าต่างถูกผลักออก, สายลมแห่งฤดูใบไม้ร่วง
    เสื้อหนังแจ็คเก็ตที่อยู่รอบไหล่ของฉันคือของของเธอ

    We bless the rains on Cornelia Street
    Memorize the creaks in the floor

    พวกเราสรรเสริญเหล่าเม็ดฝนที่ตกลงมาถนนคอร์เนลเลีย
    จดจำทุกเสียงเอี๊ยดอ๊าดที่อยู่บนพื้น

    Back when we were card sharks, playing games
    I thought you were leading me on

    ย้อนกลับเมืื่อเราได้การ์ดฉลาม, เล่นเกมกัน
    ฉันคิดว่าเธอนั้นคะแนนนำแซงหน้าไปแล้ว

    I packed my bags, left Cornelia Street
    Before you even knew I was gone

    ฉันเก็บข้าวของลงกระเป๋า, เดินทางออกจากถนนคอร์เนลเลีย
    ก่อนที่เธอจะรู้ด้วยซ้ำว่าฉันได้หายไปแล้ว

    But then you called, showed your hand
    I turned around before I hit the tunnel
    Sat on the roof, you and I

    แต่เธอก็ยังโทรมา, ผายฝ่ามือคู่นั้นของเธอ
    ฉันหมุนตัวกลับไป ก่อนที่จะถึงอุโมงค์ด้วยซ้ำ
    นั่งอยู่บนหลังคา, เธอกับฉันเท่านั้น

    I hope I never lose you, hope it never ends
    I'd never walk Cornelia Street again
    That's the kind of heartbreak time could never mend
    I'd never walk Cornelia Street again

    แล้วตัวฉันที่ปรารถนาว่าจะไม่มีทางเสียเธอไป, หวังว่ามันจะไม่มีจุดจบ
    ฉันคงจะไม่กลับไปเดินบนถนนคอร์เนลเลียอีกครั้ง
    นั้นออกจะเป็นช่วงเวลาที่ใจสลายจนไม่สามารถประสานมันได้
    ฉันคงจะไม่กลับไปเดินบนถนนคอร์เนลเลียอีกแล้ว


    And baby, I get mystified by how this city screams your name (city screams your name)
    And baby, I'm so terrified of if you ever walk away
    I'd never walk Cornelia Street again
    I'd never walk Cornelia Street again

    และที่รัก, ฉันถูกความลึกลับของเมืองนี้ที่กรีดร้องชื่อเธอออกมา (เมืองนั้นได้ตะโกนชื่อเธอ)
    และที่รัก, ฉันก็รู้สึกหวาดกลัวการมีอยู่ของมัน เมื่อเธอเดินจากไป
    ฉันไม่มีทางที่จะกลับไปเดินบนถนนคอร์เนลเลียอีกครั้ง
    ฉันจะไม่มีทางกลับไปเดินบนถนนคอร์เนลเลียอีกแล้ว


    You hold my hand on the street
    Walk me back to that apartment
    Years ago, we were just inside

    เธอกุมมือของฉันไว้บนถนน
    เดินพาฉันกลับไปที่อพาร์ทเม้นต์นั้น
    หลายปีที่แล้ว, พวกเรายังอยู่ข้างในตึกกันอยู่เลย

    Barefoot in the kitchen
    Sacred new beginnings
    That became my religion, listen

    เท้าเปลือยเปล่าในห้องครัว
    จุดเริ่มต้นใหม่ทั้งหลายที่ศักดิ์สิทธิ์
    มันได้กลายเป็นเหมือนศาสนาของฉันแล้ว, ฟังดูสิ

    I hope I never lose you
    I'd never walk Cornelia Street again
    Oh, never again..

    แล้วตัวฉันที่ปรารถนาว่าจะไม่มีทางเสียเธอไป
    ฉันคงจะไม่กลับไปเดินบนถนนคอร์เนลเลียอีกครั้ง
    ไม่มีทางอีกแล้ว. .

    And baby, I get mystified by how this city screams your name
    And baby, I'm so terrified of if you ever walk away
    I'd never walk Cornelia Street again
    I'd never walk Cornelia Street again

    และที่รัก, ฉันถูกความลึกลับของเมืองนี้ที่กรีดร้องชื่อเธอออกมา
    และที่รัก, ฉันก็รู้สึกหวาดกลัวการมีอยู่ของมัน เมื่อเธอเดินจากไป
    ฉันไม่มีทางที่จะกลับไปเดินบนถนนคอร์เนลเลียอีกครั้ง
    ฉันจะไม่มีทางกลับไปเดินบนถนนคอร์เนลเลียอีกแล้ว


    I don't wanna lose you, hope it never ends
    I'd never walk Cornelia Street again
    I don't wanna lose you, yeah
    "I rent a place on Cornelia Street"
    I say casually in the car

    แล้วตัวฉันที่ไม่ต้องการจะเสียเธอไป, หวังว่ามันจะไม่มีตอนจบ
    ฉันคงจะไม่กลับไปเดินบนถนนคอร์เนลเลียอีกครั้ง
    ฉันไม่ได้อยากเสียเธอไปเลย
    " ฉันเช่าที่ที่หนึ่งบนถนนคอร์เนลเลียแหละ "
    ฉันกล่าวออกมาอย่างบังเอิญในรถยนต์คันนั้น

    Thanks for Youtube and Taylor Swift :D
    Translated : Pearry Myself ;3

    . .และแล้วปอลอลิงก่อนจาก. .แพรอยากฝากเกร็ดความรู้ดีดีให้ครับ :D

    #  an arrowhead (N.)

    >> เป็นธนูหัวหอกแหลม แต่ในที่นี่เราสามารถหมายถึงสัญลักษณ์ลูกศรที่เป็นป้ายชี้ทางบนถนนได้
    #  mystified by (V.)
    >> ถูกให้หลงกับความลึกลับโดย + Subject ที่กระทำใส่ (เมื่อลงท้ายด้วย -ed จะหมายถึงความรู้สึก)

    #  leading me on (V.)

    >> เป็นกริยาวลี หมายถึง ตัวฉันถูกนำโด่งหรือถูกนำหน้า 
    เพิ่มเติมเฟื่องเรื่องเนื้อเพลง :  สถานที่จริงอย่าง ' ถนนคอร์เนลเลีย ' เป็นถนนที่ไม่ได้มีอยู่แค่ในเมืองลอนดอน ในที่นี่ยังอยู่ในมหานครอย่างกรุงนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย โดยที่นี่มีแหล่งข่าวทำการสอบถามเกี่ยวกับว่าเทย์เลอร์แต่งเพลงนี้หมายถึงถนนสายไหนกันแน่ ซึ่งคำตอบในที่นี้อาจหมายถึงที่เมืองนิวยอร์ค เพราะตามเนื้อเพลงเทย์เช่าบ้านอยู่เลย ซึ่งมีอพาร์ตเม้นต์อยู่ที่อเมริกาจริงๆ ลอนดอนจึงเป็นแค่สถานที่เจอกับ โจ เอลวินที่คบกันจนปัจจุบันครั้งแรก (แปลจากแหล่งข่าว Metro.co.UK)

    • ไม่ว่ายังไงก็ลาไปก่อนกับการแปลเพลงมั่วๆเพ้อๆของแพร  หวังว่าขณะฟังเพลงนี้                และอ่านคำแปลไปจะทำให้ทุกคนหายเหนื่อย แล้วมีความทรงจำที่เคยทำกับใครสักคนที่เรารักมากอยู่ในใจนะคะ ใครสักคนที่คุณจากมาแล้ว และพบกันใหม่กับเพลงหน้า 
    • ถ้าใครสนใจก็สามารถคอมเม้นต์ขอเพลงที่จะให้แปลได้นะคะ                                            ลาก่อนค่ะ Sayonara Arigatou! - Pear
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in