ซองจดหมายสีน้ำตาลหม่นเกือบยี่สิบฉบับกองอยู่บนโต๊ะทำงานสีขาวสะอาดตาของลู่หาน จดหมายทั้งหมดถูกส่งมาในแต่ละเดือนโดยบุคคลเดียวกัน หญิงสาวไม่เคยเปิดมันมาอ่านสักฉบับเพราะไม่มีเวลาและเรียนหนักพอสมควร เธอเลยเก็บสะสมมันเอาไว้และมาเปิดอ่านทีเดียวในวันหลังจบการศึกษา
ตอนนี้ลู่หานเรียนจบแล้วและกำลังจะกลับไปยังเชียงใหม่บ้านเกิด ของทุกอย่าถูกแพคใส่กล่องลังและบางส่วนจัดส่งไปก่อนแล้วโดยให้ควอนโบรัมเป็นคนไปรับมาไว้ที่บ้านของเจ้าตัว เมื่อลู่หานถึงเมืองไทยเมื่อไหร่จะแวะไปเอา
ก๊อกๆ
"พี่ลู่หานครับ ผมเข้าไปได้มั้ย?"
"เข้ามาสิ" สิ้นเสียงขานรับ ลูกชายคนเดียวของตระกูลอากิก็เปิดประตูเข้ามาและนั่งลงบนเสื่อญี่ปุ่นข้างๆเธอ เขาแอบชะโงกมองจดหมายที่วางเกลื่อนอย่างใคร่รู้
"นี่พี่สะสมไว้รึไง ผมนึกว่าพี่จะเปิดอ่านมันแล้วทุกฉบับซะอีก" เด็กหนุ่มกล่าว เขาเป็นคนเทียวไปรับไปส่งเจ้าจดหมายกองพะเนินนี้มาทุกๆสิ้นเดือนแต่พี่สาวคนนี้กชับไม่เคยเปิดอ่านสักฉบับเดียว แบบนี้มันใช้ได้ที่ไหนกัน
"ก็พี่ไม่ว่าง กลับบ้านมาก็นอนเลยไง ใครจะมีเวลาเปิดอ่าน"
"ไปดื่มกับเพื่อนก็บอกมาเถอะครับ ผมรู้หรอกหน่า" อาคิระพูดตามความจริง "พี่ดื่มไปมันก็ช่วยให้พี่ลืมเขาไม่ได้หรอกนะ เรียนจบแล้วก็กลับไปคุยกันดีๆไม่ดีกว่าหรอ ผมเป็นพี่คงอึดอัดตายเลย"
"พูดง่ายแต่ทำยากน่ะรู้มั้ย นายจะไปเข้าใจอะไร"
"เข้าใจสิ เข้าใจว่าลึกๆแล้วพี่ยังชอบเขาอยู่ ไม่งั้นพี่ก็คงไม่ดื่มจนคอแข็งได้ขนาดนี้หรอก"
"มันดูออกชัดขนาดนั้นเลยหรอ" ลู่หานถามขึ้น เด็กหนุ่มพยักหน้าให้เป็นคำตอบ สภาพของพี่สาวตอนมาใหม่ๆกับตอนนี้เหมือนคนละคนอย่างไรอย่างนั้น ในตอนนั้นเธอทั้งสุขภาพดีและไม่ป่วยบ่อย แต่ดูตอนนี้สิ ทั้งโทรมทั้งขี้โรคจนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน พี่ลู่หานของเขาเหมือนโดนปีศาจแห่งความเศร้าเข้าครอบงำ
"นี่ตั๋ว ผมไปจองไฟลท์เที่ยวสามโมงให้แล้วนะ คงจะถึงที่นู้นค่ำๆ"
"ขอบใจนะ เธอออกไปก่อนได้มั้ย พี่อยากอยู่คนเดียว"
"ได้สิครับ ถ้าพี่ต้องการแบบนั้น"
เซฮุนกำลังก้มๆเงยๆอยู่ที่หน้าเครื่องจักรกลขนาดใหญ่ เกิดปัญหานิดหน่อยกับเครื่องจักรตัวดังกล่าว วิศวกรหนุ่มใช้แขนเสื้อซับเหงื่อบนใบหน้าของตัวเอง ที่นี่ทั้งร้อนและอบอ้าวจนเขาลมจะใส่ เมื่อเจอปัญหาแล้วเขาก็มอบงานต่อให้กับช่างเทคนิกซ่อมแซมต่อไป มือหนาจับปกเสื้อกระพือเพื่อให้ลมธรรมชาติเข้ามาดับร้อนและลดเหงื่อตามตัว
หลังเรียนจบออกมา เซฮุนก็ถูกเรียกตัวให้มาทำงานที่บริษัทแห่งนี้ เขาใช้สิ่งที่เรียนมาและความสามารถที่มีสร้างรายได้ให้กับตัวเอง เงินเก็บที่มีเล็กน้อยในบัญชีเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดภายในสองปีนี้ เขาโอนไปให้แม่ส่วนหนึ่งและเก็บไว้ใช้ส่วนหนึ่งทุกครั้งที่เงินเดือนเข้า ชายหนุ่มเป็นที่รักในหมู่สาววัยใหญ่วัยเล็กโดยเฉพาะเยริ รุ่นน้องแผนกการตลาดที่คอยเที่ยวซื้อขนมมาให้กับเขา เซฮุนเคยปฏิเสธไปแล้วแต่เจ้าตัวก็ยังยืนยันว่าจะซื้อมาให้ทำให้เขาเลี่ยงไม่ได้ เขารู้ว่าเยริกำลังคิดอะไรแต่เขาเลือกที่จะทำเป็นไม่รู้ไปเสีย พูดถึงได้ไม่นานเยริก็เดินมาหาเขาพร้อมขนม
"พี่เซฮุนคะ เยริซื้อเค้กนมสดที่พี่ชอบมาด้วยนะ"
"ขอบใจนะเยริ วันหลังไม่ต้องซื้อมาฝากพี่หรอก"
"ก็เยริจะซื้ออ่ะ เห็นพี่เซฮุนกินก็มีความสุขแล้วค่ะ วันนี้ไป-"
'นายช่างโอ มีคนมาขอพบค่ะ'
เสียงประกาศจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ดังกลบประโยคของหญิงสาวไปจนหมด เซฮุนขอตัวและเดินไปยังฝ่ายประชาสัมพันธ์โดยมีรุ่นน้องสาวตัวเล็กเดินตามมาด้วย เขาไปติดต่อกับฝ่ายประชาสัมพันธ์ รุ่นพี่สาวผายมือไปทางผู้หญิงรูปร่างเล็กที่สวมเสื้อยืดโอเวอร์ไซส์สีครามกับกางเกงขาม้าสีขาว ผมเผ้ายุ่งไม่เป็นทรง ชายหนุ่มตัดสินใจเดินเข้าไปทักแม้จะไม่แน่ใจว่าเขารู้จักมาก่อนรึเปล่า
"คุณครับ" เขาสะกิดบ่าเล็กๆนั้น เจ้าของผมยุ่งๆหันกลับมา บนกรอบหน้ามีแว่นกันแดดอันใหญ่สวมไว้กินพื้นที่เกือบครึ่งหน้า มือเล็กลดแว่นลง
"ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ"
"ลู่หาน.." เขาเอ่ยออกมาเสียงแผ่ว ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายเต้นรัวด้วยควารู้สึกหลากหลาย ทั้งดีใจ ตกใจ และแปลกใจไปด้วยพร้อมๆกัน
เยริลอบมองปฏิกิริยาของรุ่นพี่หนุ่มที่เธอกำลังตามจีบ สายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความคิดถึงแผ่ออกมาจนเก็บไว้ไม่มิด รุ่นน้องตัวเล็กเสียใจที่ในใจของเขามีเจ้าของเสียแล้ว ใครคิดว่าเธอจะแย่งเขามาก็คิดใหม่ได้เลยนะ เธอรู้ตัวดีอยู่แล้ว ว่างทำไปเท่าไหร่ก็ไม่ใช่เธอ
"ขอคุยด้วยสักพักได้มั้ย"
"ได้สิ เยริ ฝากลางานให้พี่ครึ่งวันด้วยนะ" เขาหันไปสั่งรุ่นน้องสาวก่อนจะเดินออกไปกับลู่หาน
ร้านกาแฟใต้สำนักงานถูกใช้เป็นสถานที่พูดคุย ทั้งคู่สั่งกาแฟก่อนจะมานั่งรอเครื่องดื่มที่โต๊ะ มือบางหยิบบางอย่างออกจากกระเป๋า ซองจดหมายสีคุ้นตาทำให้เซฮุนแปลกใจนิดหน่อย มันถูกเปิดอ่านไปแล้วบางส่วนแต่ก็ไม่ใช่ทุกซอง
"กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่"
"เมื่อวานน่ะ"
"อ๋อ" ชายหนุ่มพยักหน้าเข้าใจแต่ไม่รู้จะพูดอะไรดีกับบรรยากาศแบบนี้ เขาจึงเลือกที่จะเงียบ
"ขอบใจที่ส่งมานะ แต่ฉันไม่มีเวลาเปิดอ่านจริงๆ"
"เราเข้าใจ เรียนหนักมากเลยสินะถึงได้ซูบลงขนาดนี้"
"อือ ประมาณนั้น" ลู่หานพยักหน้า "แล้วนายหล่ะ เป็นไงบ้าง"
"ก็ทำงานนั่นแหละ ไม่ได้พักเท่าไหร่ เหนื่อยมากแต่ก็สนุกดี" รอยยิ้มของเซฮุนทำให้เธอยิ้มตามได้ไม่ยากนัก เครื่องดื่มถูกนำมาเสิร์ฟในเวลาต่อ ความเงียบเข้าปกคลุมทั้งคู่อีกครั้ง นายช่างหนุ่มนั่งอยู่เฉยๆมองอีกฝ่ายที่กำลังเปิดอ่านจดหมายที่เขาเป็นคนส่งมันไป
"ฉันมาคิดๆดูแล้วนะ ความจริงเราสองคนเป็นแค่เพื่อนกัน เราไม่จำเป็นต้องมีเรื่องแคลงใจกันเลยด้วยซ้ำ เรื่องที่ฉันเคยบอกไปก็ลืมๆมันซะ เรากลับมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเถอะ ฉันไม่อยากให้นายหายไปและหายไปจากนาย" ลู่หานพูดขึ้น ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยน้ำตา หญิงสาวคิดดีแล้วที่จะยุติความสัมพันธ์บ้าๆทั้งหมดแล้วกลับมาเป็นแค่เพื่อนกันอย่างเดิม ถึงแม้ว่าจะฝืนใจไปหน่อยแต่ก็ดีแล้ว ดีกว่าที่เธอจะไม่ได้เจอเขา...
"เราคิดว่าเราคงกลับไปจุดนั้นไม่ได้แล้ว ให้กลับไปเป็นเพื่อนกับลู่ เราทำไม่ได้จริงๆ"
"ทำไม.."
"เราชอบลู่ไปแล้ว เราชอบลู่มากจริงๆ"
"!!!"
"ขอโทษนะที่ไม่เคยบอกไป เรากลัวว่าลู่จะไม่ได้คิดแบบที่เราคิด เรากลัวจะไม่ได้คุย ไม่ได้เล่นกับลู่เหมือนอย่างเคย เราขอโทษนะ"
"เซ.."
"ขอโทษด้วยนะที่ทำให้ลู่ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเรา เราขอโทษ" มือหนาเอื้อมเช็ดน้ำตาให้กับหญิงสาว คนตัวเล็กยิ้มออกมาพร้อมทั้งน้ำตา ลู่หานคือคนที่เข้มแข็งมากในสายตาของเขา ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม ลู่หานจะยิ้มให้กับทุกสิ่ง ยิ้มที่จริงใจของเธอทำให้เขาหลงรัก
"เรายอมกลับไปเป็นเพื่อนกับลู่ก็ได้นะ"
"..?!"
"Girlfriend น่ะ ตกลงมั้ย?"
"อือ"
บ้านอิฐทรงประหลาดตั้งอยู่ในกลางสวนดอกดาวกระจาย มีแผ่นหินบางๆวางเป็นทางเดิน และลาดยางมะตอยจากถนนสายหลักเข้าสู่โรงจอดรถ ทิวทัศน์หลังบ้านหลังนี้เป็นภูเขาที่อยู่สูงและไกลสุดสายตา เสียงร้องไห้ของเด็กเล็กดังขึ้นกลางบน ลู่หานละมือจากหม้อต้มแกงมาสนใจลูกๆตัวน้อยของเธอ แทฮันกลิ้งไปร้องไปอยู่บนเสื่อทาเคมิที่ทางบ้านอากิส่งมาให้ และลูกสาวคนโตที่ยืนมองอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก
"ฮือ ก็เค้าจะเล่นกันดั้มกับหมีอ้วนอ่ะ! พี่ฮุนจีขี้งก! ฮืออ"
"ก็พี่เล่นอยู่ ตัวมาแย่งพี่หมีของพี่ไปนะ"
"ทะเลาะอะไรกันเด็กๆ แทฮันร้องไห้ทำไมครับ" ลู่หานเอ่ยถาม มือบางเช็ดหยดน้ำตาเม็ดโตบนใบหน้าของลูกชายด้วยความเอ็นดู
"พี่ฮุนจีไม่ให้แทฮันเล่นหมีอ้วนครับม๊า"
"แทฮันแย่งพี่หมีหนูค่ะม๊า แทฮันไม่ขอหนูก่อนหนิ" ฮุนจีเริ่มใบหน้าง้ำงอ คุณแม่คนสวยจึงต้องพาทั้งคู่มานั่งปรับความเข้าใจกันยกใหญ่จนในที่สุดสองพี่น้องก็ดีกัน ลู่หานเลยปล่อยให้ลูกเล่นกันต่อ ส่วนตัวเองกลับมาที่หน้าเตาและปิดแก๊สก่อนจะยกหม้อมาวางที่รองหม้อแทน
วันนี้เซฮุนลงไปเชียงใหม่ตั้งแต่เช้าเนื่องจากเขาตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโทและเธอเองก็เห็นด้วย ส่วนตัวของลู่หานเองก็เป็นฟรีแลนซ์คอยรับงานถ่ายภาพบ้าง รับวาดรูปบ้าง หรือไม่ก็ไปที่ร้านขายดอกไม้ของแม่สามีเพื่อช่วยงานท่าน แม้ว่างานจะไม่มากแต่เงินก็ไม่เคยขาดมือเธอเลยสักครั้ง ซึ่งนั้นถือเป็นเรื่องดี
เสียงรถประจำทางที่ลู่หานคุ้นหูจอดลงที่หน้าบ้าน ร่างบางรวบผมตัวเองลวกๆก่อนจะออกไปรอรับสามีที่เหนื่อยจากการเรียน ดูเหมือนว่าวันนี้เขาไม่ได้มาคนเดียว มีเพื่อนอีกสามสี่คนที่มากับเขาด้วย
"ลู่หาน ฉันคิดถึงแกมากเลยนะรู้มั้ย" เสียงแหลมๆดังขึ้น เป็นแบคฮยอนและรุ่นพี่ชานยอลที่มาเยี่ยมหาพร้อมกับหมอจงอินและคยองซู สองสาววิ่งถลาเข้ามากอดเพื่อนร่วมสถาบันด้วยความคิดถึง แม้จะคอยติดต่อกันทางโซเชียลก็ไม่หน้ำใจเท่ามาเจอกันตัวเป็นๆ
"คิดถึงสาวศิลปกรรมมากนะรู้มั้ย ไอ่ฮุนโม้ให้ฟังอย่างนั้นอย่างนี้จนฉันอยากจะมาเจอเธอเลยนะ" คยองซูว่าพลางยิ้ม
"แต่งงานได้สี่ปีแล้วหุ่นยังดีไม่เปลี่ยนเลยนะ ดูฉันสิ น้ำหนักขึ้นเป็นกิโลๆ" แบคฮยอนพูดขึ้นบ้าง
"กำลังจะมีน้องก็กินเข้าไปเยอะๆเถอะ"
"รู้ได้ไงยะ"
"เซฮุนเล่าให้ฟังไง รีบเข้าบ้านเถอะ ตอนหัวค่ำยุงชุม" ลู่หานดุนหลังสองสาวให้เดินเข้าบ้านไปก่อนเพื่อรอต้อนรับแขกที่เหลือ
"สวัสดีค่ะพี่ชานยอล หวัดดีหมอ"
"หู้ย ขนาดลูกสองยังสวยไม่เปลี่ยนเลยนะ" จงอินแซว
"บ้า! รีบเข้าบ้านเถอะค่ะ เด็กๆรอทานข้าวอยู่" ลู่หานช่วยถือถุงที่เซฮุนมอบหิ้วกลับมา มือบางวางของลงบนโต๊ะกาแฟก่อนจะกลับไปในครัว หญิงสาวต้องลงมือทำกับข้าวเพิ่มเพราะแค่แกงหม้อเดียวไม่สามารถเลี้ยงแขกที่มาเยือนได้พอ เซฮุนเข้ามาช่วยในครัวอีกแรงโดยให้เด็กๆนั่งเล่นกับน้าๆอาๆไปก่อน
"ขอโทษที่ไม่ได้โทรบอกนะ เราเพิ่งจะรู้ตอนกำลังขึ้นรถเนี่ยแหละ"
"ไม่เป็นไรหรอก นานๆจะมีเพื่อนมาเยี่ยม เดี๋ยวนายเอาไข่ไปทอดนะ ฉันจะทำผัดผักเพิ่ม"
"ได้สิ" ทั้งสองแบ่งหน้าที่กันทำอย่างแข็งขัน อาหารทั้งหมดถูกจัดขึ้นโต๊ะในไม่กี่นาทีต่อมา อาหารทั้งหมดถูกจัดขึ้นโต๊ะในไม่กี่นาทีต่อมา
"น่ากินอ่ะลู่ แกไปฝึกปรือฝีมือมาจากใคร" แบคฮยอนถามคุณแม่ลูกสองด้วยความแปลกใจ ลู่หานอุ้มลูกชายขึ้นนั่งบนเก้าอี้สำหรับเด็กก่อนจะตอบ
"ไปอยู่ที่ญี่ปุ่นมาฉันก็ต้องหาทำกินเองบ้าง จะรอแต่โฮสต์ที่นั่นทำให้กินก็เกรงใจเขาตายเลย"
"อิจฉาเมียฉันก็บอกเถอะ" เซฮุนเอ่ยขึ้นขณะที่ยกจานผลไม้ออกมา เพื่อนตัวเล็กได้แต่ส่งสายตาอำมหิตให้ จะด่าก็ไม่ได้หลานนั่งอยู่
"ทานข้าวกันเถอะค่ะ เดินทางมาเหนื่อยๆจะได้รีบพักผ่อน" ลู่หานว่าก่อนจะนั่งลงระหว่างลูกทั้งสองส่วนเซฮุนจะนั่งข้างฮุนจีเพราะแทฮันจะติดลู่หานมากกว่า บรรยากาศบนโต๊ะอาหารในค่ำคืนนี้ครื้นเครงเป็นพิเศษ เสียงหัวเราะเฮฮาของเหล่าเพื่อนทำให้พลังงานชีวิตของลู่หานกลับมา เพราะการอยู่กับลูกมากเกินไปก็อาจทำให้เธอเครียดขึ้นมาได้ หลังจัดการทุกอย่างเรียบร้อย คุณแม่ตัวเล็กก็พาลูกๆไปอาบน้ำแปรงฟันก่อนเข้านอน กว่าจะกล่อมให้แทฮันกับฮุนจีนอนได้ก็ปาไปหนึ่งชั่วโมงเต็ม เมื่อลูกทั้งสองหลับไปแล้ว มือบางจึงปิดไฟและเดินออกมา
โอเซฮุนยังคงนั่งดูทีวีอยู่ ในขณะที่แขกทั้งสี่เข้านอนเรียบร้อยแล้ว เขามารอลู่หานเพื่อที่จะเข้านอนพร้อมกัน ลู่หานเคยบอกว่าไม่เป็นไรแต่เขาก็เต็มใจที่จะรอ
"นึกว่าเข้านอนแล้วซะอีก เรียนกลับมาเหนื่อยๆ" มือบางกุมใบหน้าของผู้เป็นสามีและจูบลงบนหน้าผากกว้างอย่างแผ่วเบา ชายหนุ่มจึงรวบเอวบางของภรรยาตัวเล็กมากอดด้วยความรักและซบหน้าลงบนไหล่เล็กราวกับที่พักพิงในยามเหนื่อยล้า
"ก็บอกแล้วไงว่าจะรอนอนพร้อมกันอ่ะ"
"งั้นก็ปล่อยได้แล้ว ฉันจะได้ไปอาบน้ำ จะได้นอนไง"
"โธ่ นี่เพิ่งได้กอดเอง สักพักก่อนค่อยไปอาบก็ได้"
"น่าตีจริงๆเลยนะนายเนี่ย" ลู่หานยิ้ม "ความจริงนายลงไปเช่าหอแถวมหา'ลัยอยู่ก็ได้นะ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยนั่งรถไปมาๆตั้งหลายชั่วโมง"
"ไม่เอาหรอก เราไม่อยากทิ้งลู่กับลูกไว้แล้วตัวเองไปใช้ชีวิตสบายๆในเมือง เรารู้ดีว่าความรู้สึกของคนเป็นแม่มันเป็นยังไง"
"แต่นายจะเหนื่อย"
"แค่นี้เอง ไม่เป็นไรหรอก เพื่อลู่กับลูกเราทนได้"
"นายกำลังทำให้ใจฉันเต้นแรงอีกแล้วนะตาบ้า" มือบางตีเบาๆลงบนแผ่นหลังกว้าง เซฮุนหัวเราะและกดจูบลงบนริมฝีปากนุ่ม ไม่มีการลุกล้ำใดๆ มีเพียงความรู้สึกรักที่ส่งต่อถึงกัน
"เราจะเป็นสามีและพ่อที่ดี เราสัญญา"
"ฉันเองก็จะเป็นภรรยาและแม่ที่ดี ฉันสัญญา"
"ยัยฮุนจีขี้เซา! พี่ฮันยอลมารอที่หน้าแล้วนะ" คนเป็นน้องตะโกนแหกปากลั่นบ้านในเช้าวันเสาร์ ลู่หานชินไปเสียแล้วที่ลูกชายคนเล็กอายุสิบสองตะโกนแบบนี้ทุกๆวันเสาร์เพื่อปลุกพี่สาวที่เอาแต่นอนอย่างโอฮุนจีหรือลูกสาวคนโตวัยสิบห้า
คุณแม่คนสวยเชิญเดินหนุ่มวันเดียวกับลูกสาวเข้ามารอในบ้าน แทฮันวิ่งตึงตังลงมาหาพี่ชายข้างบ้านที่ตนเองสนิทด้วยความกระตือรือร้น ไม่กี่นาทีต่อมาฮุนจีก็ลงมาในชุดลำลองออกแนวเด็กผู้ชายหน่อยๆ มีผลมาจากน้องชายและเพื่อนเล่นข้างบ้าน ผิดกับลู่หานที่พยายามเลือกเสื้อผ้าผู้หญิงๆให้ใส่แต่ก็ได้แต่กองอยู่ในตู้เท่านั้น
"แม่คะ หนูไปตัดผมสั้นได้มั้ย ผมสั้นแบบน้องอ่ะ" ฮุนจีเข้ามากอดเธอพลางออดอ้อนขอในสิ่งที่อยากจะทำ มือบางลูบหัวลูกสาวด้วยความเอ็นดู เธอจะไม่ห้ามถ้าลูกอยากจะทำอะไร แต่คนเป็นพ่อนี่สิ
"แม่ว่าเราไปถามป่ะป๊าดีมั้ย หื้ม?"
"ไปถามป่ะป๊า ป่ะป๊าไม่ยอมหรอกค่ะ หนูลองถามมาแล้ว" ใบหน้าสวยได้แม่มาง้ำงอ "แม่ต้องไปคุยกับป่ะป๊าให้หนูนะ"
"งั้นลองบอกเหตุผลที่เราอยากจะตัดผมให้แม่ฟังหน่อย แม่ว่าผมยาวก็น่ารักดีออก"
"หนูอยากเหมือนกับฮันยอล อยากเหมือนน้อง เวลาไปไหนเราจะได้เหมือนกันค่ะ"
"อยากเหมือนแค่ฮันยอลรึเปล่าคะ ร้อยวันพันปีหนูไม่เคยอยากจะตัดผมเลยนะฮุนจี" ลู่หานเอ่ยแซว เด็กสาวใบหน้าขึ้นสีและพยายามก้มหน้าหลบสายตาของเธออย่างเขินอาย ความรู้สึกที่ชอบใครบางคนครั้งแรกกลับมาอีกครั้งพร้อมอดีตที่อยู่ในความทรงจำ
"เอางี้มั้ย ถ้าหนูไม่ตัดผม แม่จะเล่าเรื่องตอนแม่สมัยอายุเท่าหนูให้ฟังดีมั้ยคะ"
"จริงหรอคะ? คุณแม่พูดแล้วนะ"
"ค่ะ แต่ตอนนี้ต้องมาทานข้าวเช้าก่อนนะ ชวนฮันยอลมาทานด้วยสิ"
"ค่ะ" ฮุนจียิ้มแก้มปริก่อนจะไปเรียกน้องและเพื่อนข้างบ้านมาทานอาหารร่วมกัน ลู่หานปล่อยให้เด็กๆทานข้าวกันไป เธอเดินขึ้นมายังชั้นสอง เซฮุนยังคงนั่งเคลียร์งานอยู่ เขายังคงดูดีเหมือนเดิมแม้จะอายุมากขึ้นแล้วก็ตาม ชายหนุ่มเห็นภรรยามาแอบมองก็ละงานในมือมาเท้าคางมองคนที่กำลังแอบมอง
ร่างบางจึงเดินเข้ามาแลุนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม พอเห็นเด็กๆก็พาลในนึกถึงตอนที่พวกเขาอายุเท่านั้น ความรักครั้งแรก การแอบมองคนที่ชอบครั้งแรก เรื่องวุ่นๆในครั้งนั้นลู่หานยังจำได้ไม่เคยลืม เธอเองก็ไม่เคยนึกเคยฝันว่าจะมีวันนี้ได้ เคยคิดแค่ว่าจะได้เป็นแค่แฟนแล้วก็เลิกกันในสักวันเท่านั้น
"นายรู้มั้ย ฮุนจีกำลังจะมีความรักแล้วนะ"
"รู้ได้ไงแม่คนเก่ง"
"เซนส์ขอฉันมันบอก ลูกได้เชื้อฉันไปเต็มๆเลยหล่ะ วันนี้ยังมาอ้อนขอตัดผมด้วยนะ แต่ฉันรู้ว่านายไม่ยอมก็เลยยื่นข้อเสนอไป"
"หื้ม? ข้อเสนออะไร"
"ความลับย่ะ" ลู่หานย่นจมูกก่อนจะยิ้มออกมา เซฮุนอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปบีบจมูกๆเล็กๆด้วยความหมั่นเขี้ยว เวลาที่ผ่านไปไม่สามารถทำลายรอยยิ้มที่สดใสของภรรยาของเขาได้เลย
"ว่าแต่คนที่ลูกเราชอบนี่ใครกัน"
"จะเป็นใครไปได้หล่ะ ก็ตาฮันยอลไง ลูกชายของพี่สาวข้างบ้านเรา"
"เหมือนเราสองคนเลยเนอะ"
"อื้ม รักนายมากนะ"
"รักลู่มากกว่าอีก"
จุ๊บ
The end
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in