เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Girl x Friend (ss1-2) | hunhanhuan_97
-01-
  • เราเป็นเพื่อนกันมากี่ปีแล้วนะ?

    เท่าที่ผมจำได้ เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ป.สี่ ครูพูดแบบนั้นเสมอว่าเราทุกนในห้องเป็นเพื่อนกันทุกคน เรียกว่าคนที่รู้จักจะดีซะกว่านะสำหรับผม ผมเพิ่งย้ายมาเจอเขาครั้งแรกตอนปอสี่ เธอเป็นเด็กผู้หญิงผมเปียที่ขี้อาย ใส่แว่นตาหนาเตอะ มีเพื่อนซี้แค่สามคนนะเท่าที่ผมเห็น มีชายใจหญิงหนึ่งคน นอกนั้นเป็นผู้หญิง

    เธอคนนั้นน่ะชื่อลู่หาน วาดรูปค่อนข้างเก่งเลยทีเดียว ตัวหนังสือก็สวย ต่างจากผมราวฟ้ากับเหว เธอเรียนอยู่ในระดับกลางๆ และผมค่อนข้างจะดิ่งลงเหว ไม่ใช้ว่าเรียนไม่เข้าใจนะ คุณก็รู้นิว่าคะแนนเก็บมันเยอะกว่าคะแนนสอบ ผมเองก็ไม่ใช่คนขยันด้วยน่ะสิ

    ลู่หานชอบเรียกผมว่า'ลุง' ผมได้ยินมาบ่อยเลยนะ แต่ก็ไม่เคยถามว่าทำไมถึงเรียกผมแบบนั้น และจงอิน เพื่อนสนิทของผมก็ไปถามเจ้าตัวมาได้ความว่า

    'ก็นายนั่นตัวสูง เรียกลุงน่ะดีแล้ว'

    เป็นคำตอบที่ผมถึงบางอ้อในทันที ก็ในชั้นเรียนน่ะ ผมสูงที่สุดเลยล่ะในเพื่อนวัยเดียวกัน ตัวของเธอสูงแค่อกผมเอง 

    ผมและเธออยู่ห้องเดียวกันมาสี่ปี จนขึ้นมามอสอง ผมอยู่ห้องหนึ่ง ลู่หานอยู่ห้องสอง ทำให้ผมไม่ค่อยได้ข่าวเกี่ยวกับเธอสักเท่าไหร่แม้ห้องจะอยู่ข้างๆกันแค่นี้ก็ตาม แต่ที่รู้ๆเธอมีเพื่อนก๊งใหม่แต่ยังคงสนิทกับเพื่อนสาวประเภทสองอยู่ ส่วนผมก็เปลี่ยนเหมือนกัน เพราะคนเราต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลา

    .
    .
    .
    จนมาถึงตอนนี้

    "ได้อยู่ห้องเดียวกับลุงด้วย" รอยยิ้มเล็กๆปรากฏบนใบหน้าหวาน แว่นตาเปลี่ยนเป็นแบบใหม่ทำให้ดูแปลกตาไปเล็กน้อยสำหรับผม แต่รอยยิ้มและท่าทางยังคงเดิม จากเปียสองข้างกลายเป็นผมหางม้าเมื่อเข้าสู่มัธยมปลาย ดูแปลกตาไปจริงๆนั้นแหละ

    "ไงเพื่อน อยู่ห้องเดียวกันจนได้" จงอินเจ้าเก่าเดินมาร่วมด้วยหลังจากที่พวกลู่หานเดินไปแล้ว
    "กูไม่ร่วงไปห้องสองแน่นอนเว้ย ฮ่าฮ่าฮ่า" ผมหัวเราะ

    "โชคดีสัสๆเลยนะมึง"




    เปิดเทอมวันแรกในการใช้ชีวิตแบบเด็กมอปลายสายวิทย์ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ผมคิดว่างั้นนะ นอกจากการบ้านจะเยอะแล้ว ยังต้องเรียนแบบติดไฮสปีดอีกต่างหาก แถมเนื้อหาก็เยอะจนน่ากลัว วันแรกๆเอาผมมึนเลยทีเดียว


    "ย๊าห์ การบ้านเยอะเกินไปแล้ว!!!" จงแดบ่นขึ้นอย่างเหลืออดในตอนเลิกเรียน ผมเองก็อยากจะบ่นบ้างนะถ้าไม่ติดว่าครูกำลังเดินเข้ามาน่ะ ลู่หานหรือคนอื่นๆในห้องก็บ่นกันทั้งนั้นแหละแต่เบากว่าจงแดนิดนึง

    "การบ้านฉันเสร็จแล้วเว้ย!" จงอินร้องขึ้น

    "การบ้านก็ต้องทำที่บ้านดิ แต่ไหนๆมึงก็เสร็จแล้ว ส่งมาให้กูลอกด้วย" นั้นเป็นความคิดที่ดี จงอินอิดออดนิดหน่อยแต่ก็ยอมตกลงที่จะส่งการบ้านลงกลุ่มให้ เย็นนี้ได้เล่นเกมส์ยาวแล้วเว้ยยยย

    เลิกเรียน เวรทำความสะอาดของแต่ละวันก็เริ่มบ่นเมื่อต้องลงมือทำมัน ผมเองเป็นเวรวันนี้ ลู่หานเองไม่ใช่เวรวันนี้หรอก แต่มายืนรอแบคฮยอนที่เป็นเวรวันเดียวกับผม คนตัวเล็กยืนเกาะขอบประตูและตะโกนปาวๆเรียกเพื่อนที่พยายามจะทำให้ห้องสะอาดที่สุด ผิดกับคนอื่นที่เดินถือไม้กวาดเดินไปเดินมา

    "เร็วๆสิแบค เดี๋ยวก็ตกรถรอบแรกหรอก"

    "รู้แล้วหน่า ฉันก็รีบกวาดอยู่นี่ไง"

    "แค่นี้ห้องก็สะอาดจะตายอยู่แล้ว เร็วๆเลยนะ"

    แบคฮยอนรีบกวาดอย่างที่ตนพูด ลู่หานก็ยังคงเกาะประตูอยู่แบบนั้น ผมเห็นเธอเดินไปเดินมาอยู่สามสี่รอบตรงระเบียง แม้ว่าแดดจะส่องมาตรงนั้น ลู่หานก็ยังคงยืนสู้แดดอยู่แบบนั้น

    "เหม่ออยู่นั้นแหละ เอาขยะไปทิ้งเลยไป" เพื่อนผู้หยิงที่เป็นหัวหน้าเวรสั่งผม ผมคว้าเอาถังขยะลงไปทิ้งข้างล่างในขณะที่ลู่หานกำลังจะกลับ

    "กลับแล้วหรอลู่?"

    "อือ ไปละลุง" 

    จะกี่ปีกี่ปีก็เรียกเขาแบบนี้มาตลอด สักวันลู่หานคงลืมชื่อผมเป็นแน่

    ผมกลับขึ้นมาเอากระเป๋าก่อนจะรีบตรงไปที่รถประจำทางเที่ยวรองสุดท้าย มีคนที่ขึ้นรถสายเดียวกับผมก็คือจุนมยอน ที่พ่วงตำแหน่งหัวหน้าห้อง ผมขึ้นมันมาได้หลายปีแล้ว แต่ยังไงผมกับจุนมยอนก็ไม่ค่อยสนิทกันอยู่ดี




    บ้านของผมเปิดเป็นร้านขายดอกไม้ เพราะว่าแม่ของผมชอบมันมาก และผมก็ชินกับกลิ่นของดอกไม้ พ่อของผมเป็นทหารประจำอยู่ที่ชายแดน นานๆครั้งจะได้กลับมาที่บ้าน ผมลงจากรถเมื่อมาถึงหน้าบ้าน เหล่าป้าๆแถวบ้านชอบมายืนคุยอยู่ที่ร้านแม่ผม จนบางทีผมก็รำคาญ

    "เป็นไงบ้างลูก เปิดเรียนวันแรก"

    "การบ้านเพียบเลยแม่"

    "ตั้งใจเรียนเข้าล่ะ จะได้สอบติดหมออย่างที่ลูกอยากเรียน" แม่พูดไปจัดดอกไม้ไป ใช่แล้วล่ะ ผมอยากเป็นหมอมาตั้งแต่เด็กแล้ว พอมาเจอเคมีกับชีวะผมนี่แทบถอดใจ แต่ยังไงผมก็จะทำให้ดีที่สุดแล้วกัน

    "ครับ เตรียมมีลูกเป็นหมอได้เลย"

    "ปากดีนักนะ แม่จะคอยดู" แม่เดินมาหยิกที่แก้มผมก่อนจะผละตัวไปเตรียมมื้อเย็นสำหรับวันนี้ ระหว่างรอแม่ทำกับข้าว ผมหยิบการบ้านของวันนี้ออกมา มันเป็นวิชาภาษาอังกฤษกับคณิตศาสตร์ แน่นอนผมเลือกที่จะทำการบ้านที่ไม่ต้องใช้สมองให้มันมากนัก แค่มีดิกชั่นนารีก็พอ

    ผมใช้เวลากับบทความภาษาอังกฤษที่ยาวเกือบหน้ากระดาษเอสี่เป็นชั่วโมงในการแปลและเรียบเรียงให้ตัวเองเข้าใจ ชั่วโมงกว่าๆผมได้แค่ครึ่งหนึ่งของบทความ ให้ตายเถอะ เรื่องภาษาอย่ามาปรึกษาผมเลย
    กระแดะทำวิชาที่ไม่มีความสามารถพอ ผมก็เปลี่ยนใจเอาคณิตมาทำแทน ผมพอจะเข้าใจมันอยู่บ้างก็เลยทำเสร็จไปอย่างรวดเร็ว ส่วนอังกฤษน่ะ ผมค่อยไปขอลอกชาวบ้านเอาแล้วกัน

    หลังจากนั้นผมก็ไปกินข้าว ล้างจาน อาบน้ำ และเล่นเกมส์ ในขณะที่ผมเล่นเกมส์ ผมก็ออนเฟสไปด้วย แต่ไม่ค่อยได้ตอบแชทเท่าไหร่หรอก จิตใจจดจ่อกับเกมส์มากกว่า เสียงแชทดังรัวเมื่อมีประเด็นให้ซุบซิบชาวบ้านและจะเงียบเมื่อมีคนถามสิ่งที่มีสาระ ผมรู้นะพวกคุณก็เป็นเหมือนกันน่ะ

    "ไอ่เชี่ย" ผมสบถกับตัวเองเบาๆเมื่อเผลอกดโดนอะไรบางอย่างแล้วจอคอมก็ขึ้นตัวหนังสือสีแดงว่า game over ทั้งๆที่มันเป็นเลเวลล่าสุดที่ผมไต่เต้าให้ทันไอ่จงอินกับไอ่จงแด 

    ตอนนี้ผมหมดอารมณ์เล่นแล้วล่ะ ผมเข้าไปดูความคืบหน้าของฟีดข่าว ผมไล่ดูมันทั้งหมดและมันก็ไม่มีอะไรคืบหน้าอีกตามเคย ผมเลยไปดูที่แชทแทน ดึกดื่นป่านนี้ ลู่หานยังคงออนอยู่ ผมกดไปที่แชทของเธอ อยากคุยด้วยจัง ทักว่าไงดีล่ะ

    ทำไมยังไม่นอน ดูยุ่งย่ามเกินไป ไม่เอาดีกว่า

    นอนได้แล้ว อันนี้เหมือนบังคับเลยอ่ะ เปลี่ยนๆ

    ดึกแล้วนะ ยังไม่นอนอีกหรอ อันนี้น่าจะใช่ได้มั้ง

    ผมกดพิมพ์ไปตามที่คิด รู้สึกลังเลแปลกๆแฮะ ผมนั่งค้างอยู่หน้าคอมเกือบสิบนาทีและผมก็ยังไม่ได้กดส่ง ผมไม่กล้าส่งอ่ะ ทำไงดี แถมลู่หานก็ออฟไลน์ไปแล้วด้วย น่าเสียดาย ผมตัดสินใจปิดคอมแล้วนอน 

    พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียน!
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in