เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
คิดเล่นเห็นต่างกูอันเฟรนด์Kyokung Worawut K
Work Bitch (วันนี้วันดี)


  • “วันนี้วันดี” ฉันพร่ำบอกตัวเองเพื่อให้ลุกขึ้นมาตอนเช้า อาบน้ำแต่งตัวไปสมัครงาน แม้ชุดจะยับไปนิด แต่ก็คงไม่เป็นไร เพราะวันนี้วันดี คงเป็นไปตามที่หมอดูชื่อดังทำนายทายทักไว้ให้คนราศีฉันแน่ แต่คิดๆ ไปใจมันก็แอบหวั่นอยู่เหมือนกันนะ ก็คนราศีเดียวกับฉันมันมีตั้งหลายคน ทุกคนจะมีโชคลาภชะตากรรมเหมือนกันไปหมดได้อย่างไร


    “วันนี้วันดี” ฉันพร่ำบอกตัวเองหลังจากไปถึงสำนักงานแล้วพนักงานทุกคนพักเที่ยงพอดี แปลกดี ทำไมไม่ผลัดกันไป พวกร้านอาหารมากมายเขายังทำแบบนั้นเลย ลองคิดดูถ้าหมอประจำห้องฉุกเฉินในโรงพยาบาลพักเที่ยงขึ้นมาพร้อมกันหมดล่ะ ใครจะคอยดูแลพ่อแม่คุณเมื่อพวกเขาไปรับการรักษาที่นั่น


    ปกติฉันไม่เชื่อเรื่องดวงเลยนะ แต่บางครั้งคนเรามันก็ต้องการที่พึ่งทางใจน่ะ ก็แหม ชีวิตช่วงนี้มันไม่ค่อยจะมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นเลยนี่นา สงสัยโดนสาปแช่งเพราะไปลบหลู่อะไรโดยไม่ตั้งใจรึเปล่า ต้องล้างบาป สะเดาะเคราะห์นะ หนทางข้างหน้าในชีวิตมันมืดมน ต้องดูดวงเพื่อให้รู้ว่าต้องก้าวไปทางไหนต่อ ถ้าเราเชื่อว่าการเคลื่อนที่ของกลุ่มดาวบนฟ้าสัมพันธ์และส่งผลต่อชีวิต การที่ดวงตกดวงซวยคงอยู่ที่สีเสื้อในแต่ละวัน ไม่ก็เท้าข้างที่ก้าวพ้นธรณีประตูก่อน เราก็ไม่จำเป็นต้องเชื่อเรื่องผลของการกระทำแต่ปางก่อนสิ


    กี่วันแล้วที่ฉันวิ่งรอกออกหางานจนเหนื่อยจนท้อ พอหางานได้กลับเครียดหนักกว่าเดิม เพราะฉันเคยผ่านมาหลายงานแล้ว มีทั้งประสบการณ์ที่ดีและไม่ดี อย่างงานล่าสุดที่ฉันทำ เป็นงานในห้องเงียบๆ ที่มีหัวหน้าจู้จี้คอยจ้องจับผิดอยู่ข้างหลังตลอด เล่นเอาฉันแทบตายเลย ไม่เอาแล้ว ไม่อยากเจออะไรแบบนั้นอีก ก็ใจมันเป็นนายกายมันเป็นบ่าวไง เวลาเราเครียดมากมันมีผลต่อร่างกายนะ บ้างก็กรดไหลย้อน บ้างก็ไมเกรน และอื่นๆ ซึ่งไม่มีที่ไหนหรอกที่จะให้เราเข้าไปลองทำเล่นๆก่อน ไม่ว่าที่ไหนก็อยากได้พนักงานที่จะอยู่ด้วยกันไปนานๆ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาสอนงานใหม่ และส่วนใหญ่ก็อยากได้คนที่เป็นงานอยู่แล้วด้วย จะได้ไม่ต้องเสียเวลาสอนระบบงานมาก ถึงได้ชอบกำหนดประสบการณ์ในคุณสมบัติผู้สมัครไง แต่ถ้าจะให้ใช้แนวคิดทฤษฎีที่ว่าทำงานไปวันสองวันแล้วพบว่ามันไม่ใช่ให้รีบถอย มันก็ต้องคิดทบทวนดีๆก่อน เพราะบางงานบางสังคมเราอาจจะแค่ต้องใช้เวลา วันสองวันมันตัดสินไม่ได้ ให้โอกาสตัวเองและสิ่งอื่นหน่อย


    สิ่งที่ฉันเครียดก็เช่น เราจะเหมาะสมคู่ควรกับเราและเราจะเหมาะสมคู่ควรกับงานไหม จะเข้ากับเจ้านาย ลูกน้อง เพื่อนร่วมงานได้รึเปล่า กลัวจะทำไม่ได้ กลัวทำได้ไม่ดี กลัวไม่โดดเด่น กลัวไม่ได้รับการยอมรับ ถูกตำหนิ ถูกนินทา กลัวไปหมด โดยที่ฉันหารู้ไม่ว่า เราทุกคนสื่อสารกับโลกตลอดเวลา ถ้าเราคิดเราเชื่อว่าเราทำไม่ได้หรอก เราคงทำได้ไม่ดี เราเหมาะสมคู่ควรกับสิ่งเล็กๆ อยู่ไปวันๆ แบบนี้ ไม่เหมาะสมคู่ควรกับสิ่งดีๆ ขนาดนั้น โลกก็จะจัดสรรให้เราได้รับได้มีได้เป็นแต่ในสิ่งที่เราคิดเราเชื่อ


    บ่อยครั้งเราห้ามความกลัวในใจไม่ได้ หลายคนชอบคิดไปเองล่วงหน้า หนทางที่เหมือนจะแก้ง่ายแต่ทำยากก็คือ อย่าคิดแทนคนอื่น เลิกสนว่าใครจะมองเราอย่างไร และอย่าดูถูกตัวเอง เลิกคิดว่าตัวเองทำไม่ได้ ทำได้ไม่ดี ไม่เหมาะสมคู่ควรกับสิ่งดีๆที่จะเข้ามาในชีวิต ทั้งที่ไม่เคยได้ลอง หรือเคยแล้ว แต่ไม่ชอบ ครั้งต่อมาถึงได้ต่อต้านโดยอัตโนมัติตลอด ไม่แม้แต่จะให้โอกาสตัวเอง begin again ด้วยซ้ำ เราทำไม่ได้ ทำได้ไม่ดีในครั้งหนึ่งหรือหลายครั้ง ใช่ว่าจะทำไม่ได้ ทำได้ไม่ดีตลอดไปนี่ เพียงแต่ทุกอย่างมันต้องเริ่มจากภายใน จัดการกับอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดตัวเองให้ได้ก่อน ตรงนี้แหละที่ว่ายาก เพราะมันต้องรู้เท่าทันตัวเองให้ได้ก่อนว่าเราเป็นอย่างไร แล้วทำไมเราเป็นอย่างนั้น ต้องค้นหาตัวตนว่าชอบอะไร ถนัดอะไร ให้เวลาตัวเองบ้าง แบบที่ไม่ต้องดูหนังฟังเพลงหรือทำสมาธิอะไรเลยนะ แค่อยู่เฉยๆนี่แหละ เตือนตัวเองไม่ให้เข้าหาด้านมืด สะกดจิตตัวเองให้มองไปในทางบวก รับรู้ เข้าใจ ยอมรับ แล้วต้องแก้ไขปรับปรุงตัวเองด้วย ไม่ใช่เอาแต่หมกมุ่นครุ่นคิดว่าฉันมันแย่อย่างนั้นอย่างนี้ เมื่อไรก็ตามที่เราเอาแต่ selfie ว่าวันนี้ฉันสวยหล่อรึยัง หรือโพสสเตตัสดราม่าบ่อยๆ ชีวิตเราจะเคยชินและดึงดูดแต่เรื่องไม่ดีเหล่านั้นเข้ามา ไม่เชื่อลองดูสิ


    ทางออกของปัญหาดังกล่าวใช่ว่าจะใช้ได้กับทุกคน ต้องประยุกต์ใช้ ดูสถานการณ์แวดล้อมด้วย บางทีงานมันแย่แต่เราไม่มีจะกิน อันนี้ก็ต้องทนบ้าง ไม่ใช่ไม่ไหวก็เหวี่ยงวีนวุ่นวายตลอด เราทุกคนต่างก็มีหลุมหลบภัยให้ระบายความเครียด (ขนาดแม่ของเนเน่จังในการ์ตูนเรื่องชินจังจอมแก่นยังต้องแอบไปต่อยตุ๊กตาเลย) ในทางกลับกันก็ต้องมองโลกตามความเป็นจริง อยู่กับปัจจุบัน ไม่ใช่มองโลกในแง่ร้ายหรือเพ้อฝันจนเกินไป อยู่ในจินตนาการว่าฉันเก่งฉันดูดี คาดหวังว่าตัวเองต้องทำได้หมด ต้องได้ดีเหมือนใครๆ หรือดียิ่งกว่า จนกลายเป็นภาระให้ตัวเองต้องพยายามจนเหนื่อยจนท้อไปตลอด แล้วสุดท้ายก็ต้องเครียดเมื่อพบว่าไม่มีมนุษย์คนไหนจะสมหวังไปได้ทุกเรื่อง ยิ่งหวังสูงตกลงมายิ่งเจ็บหนักรักษานานนะ


    ส่วนที่ว่า กลัวไม่โดดเด่น กลัวไม่ได้รับการยอมรับ ต้องบอกเลยว่าคนที่สมบูรณ์แบบนั้นไม่มี การเป็นคนดีไม่ได้แปลว่าต้องยอมคนไปเรื่อยๆ พยายามทำให้ทุกคนพอใจตลอด แต่การเป็นคนดีแปลว่าคุณทำเต็มที่ในหน้าที่แล้ว ชัดเจนในสิ่งที่ต้องการและแสดงมันออกมาให้โลกรู้ ได้ไม่ได้ก็วางใจลงตรงนั้น เพราะคนเราเท่ากัน แต่ไม่เหมือนกัน เราไม่จำเป็นต้องเก่งต้องดีอย่างใครๆ เลิกเปรียบเทียบตัวเอง ไม่ว่าจะกับสิ่งที่สูงกว่าหรือต่ำกว่าก็ตาม เราเป็นคนไม่เอาไหนในทุกเรื่องก็ได้ ถ้ามันจะทำให้เราสบายใจ ไม่ต้องเหนื่อยกับการดิ้นรน กดดัน ถึงไม่มีชื่อเสียงเงินทองมากมาย แต่มีรอยยิ้มที่จริงใจบนใบหน้า รอยยิ้มมันกินไม่ได้หรอก แต่มันมีผลต่อสุขภาพจิตตัวเอง ซึ่งจะลามไปถึงสุขภาพกายด้วย เพื่อนฝูงไม่มากก็ได้แต่ไว้วางใจได้และจริงใจ บ้านหลังไม่ใหญ่ ไม่มีรถ แต่ก็ไม่มีหนี้ อย่าคิดว่าเป็นการอยู่ไปวันๆ แล้วอ้างว่ามันคือความพอเพียงเลย ให้เรียกว่าพักบ้างอะไรบ้างดีกว่า


    เราไม่จำเป็นต้องเป็นคนเด่นคนดังก็มีคนที่รักเราในแบบที่เป็นเราอยู่ดี ขึ้นอยู่ที่ว่าคุณรักตัวเองแค่ไหน พอใจกับสิ่งที่ได้ ที่มี ที่เป็นในทุกวันของชีวิตรึเปล่า ไม่ต้องเป็นวันขึ้นปีใหม่ก็สามารถเปลี่ยนตัวเองได้ แล้วสักวันเราจะพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า “วันนี้วันดี” โดยไม่ต้องพึ่งดวง


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in