เราบอกลาคุณน้าแอนน์สำหรับวันนี้ก่อนที่จะขับรถออกไปที่สวนสาธารณะในหมู่บ้าน ระยะทางจากบ้านของชางกยุนค่อนข้างไกลจากที่นี่ ทำให้เป็นที่ที่กีฮยอนเคยหนีมาอยู่ที่นี่ในครั้งแรกที่เขาทะเลาะกับชางกยุน
และเป็นที่ที่ชางกยุนจะต้องมาตามกีฮยอนกลับบ้านในทุกครั้งที่ความไม่เข้าใจเกิดขึ้น รวมถึงเป็นที่ที่พวกเขามักจะอยู่ด้วยกันในช่วงเวลาที่ดีที่สุด
เหมือนเป็นความสบายใจของพวกเขา เหมือนเป็นสิ่งที่เชื่อมความสัมพันธ์ของพวกเขาเอาไว้
ฮยองวอนขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนแล้วทิ้งให้สองพี่น้องอยู่ด้วยกันสองคน ชางกยุนเดินอยู่ข้างๆกีฮยอนโดยที่เว้นระยะห่างไว้เล็กน้อย โชคดีที่สถานที่แห่งนี้ไม่ได้เปลี่ยนไปอย่างที่คิด เขายังคงได้ยินเสียงหัวเราะและร้องไห้ของเขาอยู่ในทุกๆที่
สนามเด็กเล่นที่มีสไลด์เดอร์เก่าๆที่ชางกยุนชอบหลบไปแอบร้องไห้อยู่ในนั้น ชิงช้าสองสามอันที่พวกเขามักจะมานั่งเล่นคุยกันเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น กีฮยอนยิ้มให้กับภาพที่มีเขาและชางกยุนกำลังอยู่ในสถานที่แห่งนั้น รอยยิ้มไร้เดียงสาของเด็กสองคนทำให้กีฮยอนรับรู้ว่าในเวลานั้นพวกเขามีความสุขกันมากจริงๆ
“กีฮยอน” เช่นกันกับอีกคน “ไปเล่นชิงช้ากัน”
“อือ” กีฮยอนพยักหน้าให้กับคนที่จับมือเขาวิ่งไปยังชิงช้าโดยที่เขายังไม่ทันได้ตอบอะไรอีกคนด้วยซ้ำ
“อย่างน้อยที่นี่มันยังเหลืออยู่ ว่าไหม” ชางกยุนพูดขึ้น สายตามองตรงไปยังเครื่องเล่นที่มีท้องฟ้าเป็นพื้นหลัง และเด็กน้อยสองคนที่เป็นเหมือนพี่น้องกันกำลังเล่นซนอยู่ตรงเบื้องหน้าของเขา
“อือ ดีมากๆเลย” กีฮยอนตอบอย่างไม่ผ่านความคิด เขาไม่ระวังตัวเลยสักนิด ไม่ระวังว่าสิ่งที่กำลังก่อตัวในใจของเขาจะออกมาเป็นอย่างไรด้วยซ้ำ “ฉันยังเห็นเรานั่งยิ้มให้กันตรงนั้นอยู่เลย”
“เหมือนกัน” ชางกยุนตอบ พลางเลื่อนสายตาให้กับคนที่กำลังส่งยิ้มกว้างให้กับภาพในอดีตของพวกเขา ดวงตาเรียวเล็กหยีลงจนเห็นร่องลักยิ้มที่ใต้ตาทั้งสองข้าง นั่นมันทำให้ชางกยุนเองยิ้มออกมาอย่างง่ายดาย
“มันดีมากๆเลยล่ะ” กีฮยอนพูดขึ้นพลางหันหน้าไปมองอีกคน ที่กำลังมองเขาอยู่ และมันก็ทำให้กีฮยอนแทบจะหยุดหายใจ “หื้อ ฝนตก”
หยดน้ำเม็ดเล็กค่อยๆตกลงมาจากท้องฟ้ามากขึ้น ทั้งๆที่ท้องฟ้ายังเป็นสีฟ้าสดใสแบบนี้ แต่มันก็เป็นข้อดีที่กีฮยอนจะได้ไม่ต้องต่อสู้กับสายตาแบบนั้นของอิมชางกยุน เพราะเขาเองก็เดาไม่ออกหรอกว่าอีกคนกำลังคิดอะไรอยู่ และกำลังรู้สึกอะไร อีกอย่าง
เขาไม่กล้าสบตาอีกคนตรงๆแบบนี้ได้นานๆหรอก
แต่ถึงอย่างนั้น
“ชางกยุนอา ฉั—“
‘ติ๊ง’
“ฉันว่าพี่ฮยองวอนคงจะเรียกเราแล้ว” ชางกยุนเปิดโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี พลางลุกขึ้นเดินนำกีฮยอนไปทีที่พอให้หลบฝนได้ “เดี๋ยวเป็นหวัดฉันไปดูแลนายไม่ได้นะ”
“อือ” กีฮยอนตอบคนที่กำลังยืนหันหลังเหมือนกำลังรอเขาอยู่
จากเม็ดฝนเม็ดเล็กๆที่ตกลงมาช้าๆ กลายเป็นฝนเม็ดใหญ่ที่ตกลงมาเพิ่มมากขึ้นจากในตอนแรก แผ่นหลังกว้างเปียกไปด้วยน้ำฝนอย่างเห็นได้ชัด แต่คนตรงหน้ากลับยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น กีฮยอนเดินเข้าไปใกล้ชางกยุนมากขึ้นก่อนที่ชางกยุนจะหลังหน้ามาหาเขา แล้วโอบคนตัวเล็กเข้ามาในอ้อมแขน
ท่ามกลางสายฝนที่กำลังตกลงมา กีฮยอนก็รับรู้ได้ว่านอกจากฝนที่ตกลงมา น้ำตาของเจ้าของอ้อมกอดก็หยดลงมาบนไหล่ของเขาเหมือนกัน เขาไม่รู้จะทำอะไรได้นอกจากตบหลังกว้างๆนั่นเบาๆ และชางกยุนก็ตอบแทนเขาด้วยอ้อมกอดที่แน่นขึ้น ไม่มีบทสนทนาต่อกัน แต่กีฮยอนก็พอจะรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับคนตรงหน้า
เขาแทบลืมไปด้วยซ้ำว่าพวกเขากำลังยืนกอดกันท่ามกลางสายฝนที่กำลังตกหนัก กีฮยอนรับรู้เพียงว่าอิมชางกยุนกำลังร้องไห้อยู่ นั่นทำให้อ้อมกอดที่ดูอบอุ่นไม่ได้เป็นอย่างที่คิด แม้ว่าอุณหภูมิของร่างกายจะสูงถึง 37.5 องศาเซลเซียสก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นกีฮยอนก็เอาแต่หลับตาแนบใบหน้าลงกับลาดไหล่กว้างเพื่อถ่ายทอดความอบอุ่นไปให้อีกคนรับรู้
ว่ากีฮยอนยังอยู่ข้างๆชางกยุนเสมอ
พวกเขาออกจากบรรยากาศสีหม่นในตอนที่ฮยองวอนวิ่งถือร่มมาหาพวกเขา กีฮยอนรับร่มคันที่ยังไม่ได้กางมาจากคนตัวสูงหลังจากที่ผละออกมาจากอ้อมกอดของชางกยุน ใช้ปลายนิ้วเกลี่ยหยดน้ำตาออกก่อนที่จะตบไหล่กว้างแผ่วเบา ประสานมือของตัวเองเข้ากับอีกคน แล้วกางร่มคันนั้นเดินไปที่จอดรถด้วยกัน
มือของพวกเขายังคงถูกจับอยู่อย่างนั้นถึงแม้ว่าจะอยู่ในรถเรียบร้อยแล้ว
กีฮยอนกับชางกยุนนั่งด้านหลังคนขับ และฮยองวอนก็ต้องรับหน้าที่เป็นคนขับรถในทันที เสียงเพลงในรถแผ่วเบาจนได้ยินเสียงสะอื้นของชางกยุนเป็นระยะ ส่วนกีฮยอนก็เอาแต่ลูบไหล่คนที่นอนพิงตัวเองตั้งแต่ออกมาจากสวนสาธารณะแล้ว จนกระทั่งลมหายใจของชางกยุนเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ทำให้กีฮยอนรู้ว่าคนข้างๆคงหลับไปแล้ว กีฮยอนยิ้มให้กับคนที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมแขนของเขา ก่อนที่จะลูบผมเจ้าหมาของเขาแผ่วเบา
นายคงจะรักเขามากเลยสินะชางกยุน
.
แชฮยองวอนหยุดรถในตอนที่พวกเขาถึงที่หมาย ก่อนที่จะบิดขี้เกียจตัวเองพลางมองไปที่เบาะด้านหลัง ภาพที่เขาเห็นทำให้อดไม่ได้ที่จะแค่นหัวเราะออกมาเบาๆ คนปากแข็งกำลังนอนพิงไหล่เด็กผู้ชายที่เจ้าตัวเคยบอกว่าจะตัดใจตั้งแต่รู้เรื่องว่าชางกยุนเจอคนที่เหมาะสมกับตัวเองแล้ว ก่อนที่เขาจะเลื่อนสายตาลงไปเห็นมือของสองคนนั้นที่ผสานกันอยู่ ยิ่งทำให้ฮยองวอนอยากจะดีดหน้าผากสองคนตรงหน้าขึ้นมาเสียตรงนี้ เขาชักจะเบื่อหน่ายความสัมพันธ์ของสองคนนี้ขึ้นมาอีกครั้ง
เพื่อนเขาทำแบบนี้กันซะที่ไหนล่ะ
“กีฮยอน” ฮยองเรียกพลางใช้ปลายนิ้วเรียวสะกิดที่ปลายแขนของเจ้าของชื่อ
“หื้อ” กีฮยอนตอบทันทีที่รู้สึกตัว “อะไรถึงแล้วหรอ” ก่อนที่จะถามคนด้านหน้าอย่างงัวเงีย
“ครับ ถึงแล้วครับคุณกีฮยอน ฝากปลุกน้องชายของผมด้วยนะครับ” แชฮยองตอบอีกคนแบบที่เขาชอบทำ แม้ว่าจะในสถานการณ์แบบนี้ เขาก็คิดว่ามันอาจจะทำให้เพื่อนของเขารู้สึกดีขึ้น
“อืม ฝากนายไปส่งชางกยุนที” กีฮยอนพูดขึ้นก่อนที่จะค่อยๆปล่อยมือออกจาคนด้านข้าง และนั่นก็ทำให้ชางกยุนค่อยๆตื่นขึ้นมา
“ขอนอนด้วยอีกคืนได้ไหม กีฮยอน” ไม่ทันที่ฮยองวอนตอบตกลง ชางกยุนก็แทรกขึ้นมาทันทีเหมือนรู้ว่าก่อนหน้านี้กำลังเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา
“อือ ก็ได้” กีฮยอนตอบแผ่วเบาก่อนที่จะพูดกับคนขับรถอย่างเต็มเสียง “ไว้เจอกันใหม่นะ ขอบคุณสำหรับวันนี้”
“ขอให้นายโชคดีนะ ยูกีฮยอน” ฮยองวอนตอบก่อนที่จะพูดสิ่งที่ทำให้เขาเองเผลอหัวเราะออกมาเบาๆ
“ฝากเอารถไปคืนด้วยนะพี่ ขอโทษสำหรับวันนี้แล้วก็ขอบคุณที่มาเจอกันอีก” ชางกยุนพูดขึ้น
“นายได้เจอฉันอีกเรื่อยๆแน่ อิมชางกยุน”
.
ชางกยุนยังคงนั่งนิ่งอยู่บนโซฟาสีเทาหน้าทีวีตั้งแต่ที่พวกเขามาถึงที่นี่ กีฮยอนทิ้งผ้าเช็ดตัวผืนเล็กๆพร้อมกับโกโก้ร้อนแก้วหนึ่งไว้บนโต๊ะ ก่อนที่จะขอตัวไปอาบน้ำก่อน เขาไม่อยากเค้นอะไรจากอีกคนมากนัก ถึงแม้จะรู้ว่าสาเหตุที่ชางกยุนเป็นแบบนี้คืออะไร แต่เขาก็ไม่รู้อยู่ดีว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้น เขาไม่อยากให้ชางกยุนเจ็บมากกว่านี้ และเขาเองก็ไม่อยากรู้สึกเจ็บไปมากกว่านี้
หลังจากที่กีฮยอนเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วชางกยุนก็ยังคงอยู่ที่เดิม แม้กระทั่งผ้าขนหนูและโกโก้ที่เคยร้อนก็ยังอยู่ในระดับเดียวกับที่กีฮยอนเอามาให้อีกคน เขาตัดสินใจเข้าไปนั่งข้างๆอีกคนโดยไม่พูดอะไร ก่อนที่จะได้กลิ่นไม่คุ้นเคยจากอีกคน
“นายสูบบุหรี่” กีฮยอนพูดขึ้น เว้นจังหวะให้ตัวเองหายใจครู่หนึ่งก่อนที่จะถามอีกคนต่อ “ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“อืม สักพักช่วงเข้ามหาลัย” ชางกยุนตอบพลางเม้มริมฝีปากของตัวเอง “ขอโทษ”
“ตอนนั้นเครียดมากเลยหรอ ถึงได้สูบ” กีฮยอนไม่เข้าใจอีกคน เขาไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้ชางกยุนต้องพึ่งพาสิ่งที่ทำลายสุขภาพของตัวเองแบบนี้ “ถึงอย่างนั้นก็น่าจะบอกกันก่อนนะ” และเขาก็เสียใจไม่น้อยเลยที่สิ่งที่ชางกยุนเลือกไม่ใช่เขา
“อืม ก็เรื่องเดิมๆ อีกอย่างฉันไม่อยากให้นายเป็นห่วง” ชางกยุนตอบ นั่นทำให้กีฮยอนพยักหน้าพลางสะกดน้ำตาตัวเองไม่ให้ไหลออกมาต่อหน้าอีกคน
“อย่างน้อยก็ห่วงตัวเองบ้างเถอะ รู้ว่ามันไม่ดีแต่นายก็ทำ ครั้งนี้ก็ด้วยใช่ไหม” กีฮยอนหมดความอดทนก่อนที่จะใช้อารมณ์พูดกับอีกคน
“ครับ วอนฮีเขาขอให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม” เขาตอบพลางเงยหน้าขึ้นเพื่อไม่ให้นำ้ตาหยดลงพื้น “ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ทำเหมือนกับจะไล่กันมาตลอด”
“ชางกยุน” กีฮยอนเรียกชื่ออีกคนที่จู่ๆก็พลุบหน้าลงที่ไหล่ของเขา
“ฉันไม่เข้าใจเลย ในตอนนั้น ทุกครั้งที่วอนฮีทำเหมือนจะไล่กัน เป็นฉันที่เช้าไปกอดเธอเอาไว้ทุกครั้ง จนครั้งสุดท้ายที่เธอบอกฉันตรงๆ มันก็เป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันตัดสินใจว่าจะเลิกโกหกตัวเองอีก แต่มาตอนนี้เหมือนวอนฮีกำลังล้อเล่นกับความรู้สึกของฉันเลย ทำไมเธอคนนั้นถึงใจร้ายกันจังนะ กีฮยอน”
เหมือนนายไง ทำไมถึงใจร้ายกันจังนะ
“อืม นั่นสินะ ทำนายร้องไห้อีกแล้ว” กีฮยอนโอบกอดอีกคนก่อนที่จะดันไหล่กว้างของอีกคนออกมา เพื่อให้เห็นใบหน้าของอีกคนชัดขึ้น
“นายก็ด้วย อย่างร้องไห้สิ นายก็รู้ว่านายไม่เหมาะกับน้ำตาเลยสักนิด”
“นายก็เหมือนกัน” กีฮยอนยิ้มทั้งน้ำตา ก่อนที่จะดึงอีกคนเข้ามาในอ้อมกอดอีกครั้ง “เห็นนายร้องไห้ทีไร ก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ทุกทีเลย คราวหลังอย่าร้องไห้ให้ฉันเห็นอีกล่ะ”
“หึ กีฮยอน เพราะงี้ไงฉันเลยอยากให้นายอยู่ข้างๆแบบนี้”
“อืม ไม่ว่านายจะตัดสินใจแบบไหน ฉันก็จะอยู่ข้างๆนายแบบนี้แหละ”
ขอแค่ให้นายมีความสุขก็พอ
.
คืนที่ยากลำบากสำหรับชางกยุนค่อยๆผ่านพ้นไป โดยที่มีมือนุ่มคอยปัดป้องฝันร้ายของร่างโปร่งที่นอนอยู่ในผ้าห่มผืนหนาของเจ้าของบ้านอีกที กีฮยอนมองใบหน้าที่กำลังอยู่ในห้วงนิทราชองชางกยุน พลางใช้มือลูบผมอีกคนอย่างแผ่วเบา หวังให้สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่ฝันร้ายเหมือนกับตอนเด็กๆ ที่เขาต้องมานั่งกล่อมอีกคนให้หลับหลังจากที่ชางกยุนสะดุ้งตื่นจากฝันร้ายในคืนนั้น และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของการที่พวกเขาต้องนอนกอดกันแทบทุกคืน แต่สำหรับคืนนี้ มันคงเป็นแบบนั้นไม่ได้อีกแล้ว บางทีฝันร้ายของชางกยุนในครั้งนี้อาจจะเป็นเรื่องที่ดีก็ได้
กีฮยอนวางมือไว้ที่หน้าผากอีกคนเพื่อวัดไข้ ก่อนที่จะคลายยิ้มออกมาเมื่อรู้ว่าชางกยุนยังปกติดี ดวงตาคมที่มักฉายแววขี้เล่นหลับสนิทเหมือนกับเจ้าเด็กตัวน้อยๆทำให้กีฮยอนไม่อยากนอนหลับเมื่อรู้ว่าหากเขาหลับตาก็คงยากที่จะได้เห็นอีกคนในรูปแบบนี้ จมูกโด่งเป้นสันรับกับใบหน้าที่โตเป็นผู้ใหญ่ของชางกยุน หากมองใกล้ๆแล้วก็ไม่ยากที่จะทำให้หัวใจสั่นไหวขึ้นมากอีกครั้งหนึ่ง ไม่รู้ว่าเสียงฝนตกด้านนอกจะทำให้ให้สติของกีฮยอนล่องลอยไปไกลจนเผลอกดริมฝีปากลงบนหลังมือที่วางอยู่บนหน้าผากของชางกยุน สัมผัสอบอุ่นที่บริเวณนั้นทำให้หัวใจเต้นรัว ก่อนที่จะดึงสติกีฮยอนให้กลับมาเกือบทั้งหมด อุณหภูมิร่างกายของเขาพุ่งสูงจนแก้มขึ้นสี พร้อมๆกับลมหายใจที่เว้นจังหวะไว้ครู่หนึ่ง นั่นทำให้กีฮยอนเลือกที่จะเดินออกจากห้องนอนของตัวเองไปที่ห้องนั่งเล่นเพื่อให้จิตใจของเขาสงบลง
กีฮยอนหย่อนตัวลงบนโซฟาหน้าโทรทัศน์ก่อนที่จะลอบมองแจ้งเตือนบนโทรศัพท์ของชางกยุน นั่นทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้คุยอะไรกับแฟนเก่าหลังจากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น กีฮยอนปล่อยให้ข้อความแจ้งเตือนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยที่สายตาของตัวเองยังคงมองไปทีโทรศัพท์เครื่องหรูเครื่องนั้นอยู่ และเป็นครั้งแรกที่กีฮยอนรู้สึกกลัวสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้
เพราะเขาเองก็เริ่มกลัวที่จะเสียอีกคนไปเหมือนกัน
ครืด ครืด
เสียงระบบสั่นของโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น ก่อนที่จะเผยหน้าจอว่าเป็นเพื่อนของเขาเอง กีฮยอนรับสายนั่นก่อนที่จะเผลอตกใจกับเสียงตัดพ้อของเพื่อนนายแบบของตนเองที่เขาไม่ยอมเล่าเรื่องของน้องชายคนสนิทคนนี้ให้เขาฟัง
'เลิกแล้วก็มาขอคืนดีเนี่ยนะ มันควรเป็นนายมากกว่า โอเคไหมกีฮยอน' ปลายสายส่งเสียงไม่พอใจมาให้เขา ฮยองวอนรู้เรื่องชางกยุนดีเพราะกีฮยอนเองก็มักจะมาเล่าเรื่องอีกคนให้ฟังบ่อยๆ สาเหตุที่เป็นแชฮยองวอน ก็คงไม่พ้นว่าอีกคนค่อนข้างสนิทกับชางกยุนพอตัว ส่วนอีกเรื่องก็คือกีฮยอนไม่สามารถเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนสนิทอย่างมินฮยอกฟังได้หรอก
"ไม่เป็นไรหรอก ครั้งที่สามแล้ว แต่เป็นครั้งแรกหลังจากที่เขาเลิกก่อน เจ็บว่าก่อนหน้านี้อีก" กีฮยอนพูด "ฉันก็เผื่อใจไว้แล้วว่าสุดท้าย ชางกยุนก็ต้องกลับไปอยู่ดี"
'เฮ้อ ฉันเหนื่อยกับนายที่สุดในโลกเลยรู้ไหม ก็บอกแล้วว่าให้ตัดใจ นายก็ไม่ทำ'
"ก็ทำไปแล้วไง ตัดใจได้ไปพักนึง ก่อนที่ชางกยุนจะเข้ามาฝึกงานที่บริษัท"
'พระเจ้า ชางกยุนมาฝึกงานที่ทำงานนายเลยหรอ นายมันช่างน่าสงสาร'
"แล้วที่แย่กว่านั้นคือ ชางกยุนคนนี้ฉันน่ะแพ้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเลยล่ะ" กีฮยอนพูดตามจริง เขายอมรับแล้วว่าที่ผ่านมาเป็นเขาเองที่เผลอให้กับชางกยุนมาโดยตลอด
'อืม ดูก็รู้ ว่านายรักชางกยุนคนนี้มากกว่าชางกยุนเมื่อสิบปีที่แล้วซะอีก กีฮยอน'
TBC.
see you next rain.
#สวัสดีคุรสายฝน
ฝากคอมเมนต์ติดแท็กด้วยน้า ;-;
และเราอาจจะมาเร็วกว่านี้ เมื่อมีแรงมากพอ
ถึงมันอาจจะไม่ดีมาก แต่ก็ขอบคุณที่เข้ามากดอ่านนะคะ(:
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in