ความรัก เริ่มต้นประหนึ่งในดวงจิต มิอาจคิด มิอาจลืมเลือน เหมือนในความฝัน
โรแมนติก คอมมาดี้ ไร้สาระ ณ ช่วงเวลา ที่อากาศนั้นร้อนอบอ้าว
อันมาพร้อมกับ *เพลงรักสดใส ที่ลอยฟรุ้ง ต้อนรับบรรยากาศ ที่เป็นอยู่ ชวนให้ใจสบาย ผ่อนคลาย กับเครื่องดื่มเย็นๆ รสชาติดี ณ ร้านกาแฟ แห่งหนึ่ง
*เพลงรักสดใส ที่ว่านั้น คือเพลงนี้ เพลงที่มีซาวด์ดนตรี กลิ่นอาย Soul จากเกาะอังกฤษ ผลงานเพลงของ Joss Stone - Tell Me What We're Gonna Do Now
ความไร้สาระไปวันๆนิ มันไม่เข้าใครออกใครจริงๆเลยนะ บ่นพรึมพรำกับตนเองมาเรื่อย... ตลอด... จนกระทั่งเรียนจบปริญญาตรี ด้านภาษาอังกฤษ ที่ใช้ภาษาได้ในระดับปานกลาง เกรียนๆ ร่ำเรียนเพื่อผ่านเกณฑ์ แต่มีความสนใจในด้านศิลปะ ซึ่งมาจากการเสพย์ภาพงานศิลปะในโลกออนไลน์ แล้วนำมาสร้าง Inspired Ideas มโนๆ ไม่เครียด ให้กับชีวิตความเป็นอยู่ ทุกๆวัน กระทั่ง การเสพย์ เพลง แนวดนตรี ที่เธอพอใจ อยากจะฟังมัน หรือกระทั่งการแต่งบทกวีได้อีกด้วย สั้นๆ มั่วๆ แล้วโพสต์ลงในเฟสบุ๊ก ที่ออกแนวไม่ค่อยแคร์ประชาชีใดๆ ว่าจะอ่านไม่อ่าน อีกทั้ง เธอก็ยังแสดงการกระทำ ออกมาในด้านความรัก ความสันติ ☮ เพราะคิดว่าโลกมนุษย์ ควรได้รับการขัดเกลา ด้วยความดี ความรัก อย่างยิ่ง มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เข้าใจชีวิต เสมือนมีกลิ่นอาย ความเป็น ฮิปปี้ ผสมผสาน กับอินดี้ ที่ดู บ้าๆ บอๆ เล็กน้อย ในบางครั้ง แถมยัง มีความเป็นโลกส่วนตัวสูงอีกด้วย มีความอ่อนโยน และอ่อนไหวเล็กน้อย เฮ้ย... ตกลงฉันเป็นอะไรกันแน่นิ เป็นความหลากหลาย ทางชีวภาพ หรอ? จีบได้นะ ทำอาหารเป็น อร่อยนะ อร่อยแค่... 50% เอง ที่เหลือ แบ่งปัน ให้สุนัขที่บ้านรับประทาน ฮา… นี้แหละตัวของฉันเอง สวยด้วยนะจ่ะ จะบอกให้
ความรัก เริ่มต้นประหนึ่งในดวงจิต มิอาจคิด มิอาจลืมเลือน เหมือนในความฝัน
เพราะเรื่องราวหลักๆ ของฉัน มันโรแมนติก คอมมาดี้นิ จะไม่ให้พูดเรื่องหลักของฉันได้ยังไง อิๆ ฉันขอสารภาพเลยนะ ว่าความรักในชีวิตฉัน มีเข้ามาให้หัวใจได้อ่อนไหว แค่สองครั้งเอง หรือครั้งเดียวนะนับรวมกะล่าสุดก็ได้ ครั้งแรกกะหนุ่มนักร้อง (ชื่อเก่ง) ของโรงเรียน เด็กสายวิทย์ ห้อง 6/5 มันเป็นอะไรที่อบอุ่นโรแมนติกมากๆ ซื้อขนมให้เรากินทุกวัน ไปรับไปส่งเราทุกวันเช้า-เย็นเชือกรองเท้าพละเราหลุด เขาก็ผูกให้เรา น่ารักไหมล่ะ สำหรับความรักครั้งนั้น วัยแรกเริ่ม วัยรุ่น เวิ่นเว่อ วัยค้นหาตัวเอง น่ารัก ปัปปี้เลิฟ เวลาผ่านไปได้สักใหญ่ๆ แต่แล้วทุกอย่างที่วาดหวังไว้ มันก็เป็นเพียงแค่ความฝันสลาย เพราะว่าเขาคนนั้น ไปเจอคนที่ดีกว่าเรา ห่างจากเราหลายเลเวลมากๆ จนกระทั่งเรา... จึงตัดสินใจ เงียบ... ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วหัวใจของเขาก็เคลื่อนไหว เลือนลางจากเราไปโดยปริยาย ซึ่งเราเอง...ก็เหมือนกัน เขาจึงรีบยกให้เธอคนใหม่ ขึ้นเป็นที่ 1 ในใจเลย เฮ้ย! ทำไงได้… เดินหน้า และใช้ชีวิตต่อไป และต่อมา ความรักครั้งที่สอง นับรวมดี ไม่รวมดีนะ ก็มาบรรจบที่หนุ่มคนใหม่ เด็กคณะเศรษฐศาสตร์ สายหล่อ สายทุ่มแท โคตรเอาใจใส่ (ชื่อวิน) สมัยตอนเรียนมหาวิทยาลัย เราเจอกันในงานกิจกรรมกีฬาเฟรชชี่ คบไปคบมา นานไป เวลาพักใหญ่ แต่ก็นานอยู่นะ ฮีก็เผยความชอบเล่นซ่อนแอบ ซ่อนไปซ่อนมา จับได้ ฉันเลยเตะก้นเธอซะเลย แต่มาเลิกกันจริงๆ เราตัดสินใจ กับบอกเลิกก่อนด้วยแหละ ใจจริง อยากจบ แต่ไม่ยอมเจ็บน่ะ อีกทั้งก่อนเลิกกัน ฮีซื้อของขวัญวันเกิด ให้เราเป็นตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ๆ ที่ดูซ้ำซาก ยังไงไม่รู้ คือมาตะโกนบอกรักเรา ดังๆ ให้กึกก้อง ดั่ง การขับร้องโอเปร่า ณ กลางตึกคณะมนุษยฯ ที่เราเรียน เราจะดีใจมากกว่านี้อีกนะ เพราะมันทำด้วยใจไง จากใจเลย และดูเหมือนว่าก่อนหน้านั้น ฮีก็ได้ให้แบบที่เราได้ เป็นของขวัญวันเกิด กับผู้หญิงอีกคนนึง เหมือนกัน นี้ยังไม่นับหลายๆเคสที่จับได้นะ แต่มันหลายครั้งล่ะ พอกัน จบกัน พอเสียที นี้...เห็นชั้นเป็นของก็อปปี้รึยังไง ทำเหมือนกระดาษ ก็อปปี้โรเนียว 2 แผ่นบาทไปได้ ที่ฮีทำนิ มันไม่ต่างอะไร กับที่คนส่วนมาก นิยมทำกัน ในช่วงเทศกาลวันแห่งความเลิฟ ซึ่งเป็นวันที่สาวๆ หนุ่มๆทุกคนหมายปอง การเซอร์ไพรส์ สิ่งของ เพียงเพราะวัตถุที่แสดงถึงความรักเยอะๆ แค่วันๆนึงเอง หึๆ... เป็นไง ความรักของชั้น อบอุ่น โรแมนติก คอมมาดี้ไหมล่ะ ฮ่าๆ
ตัดภาพ มาที่ฉัน ซึ่งตอนนี้ กำลังทำงานเป็นรองผู้จัดการ อยู่ที่ ร้านกาแฟ ที่มีร้านหนังสือ เหมือนร้านหนังสือชื่อดังที่เน้นแต่ผลงานเขียนวรรณกรรมของไทย และวรรณกรรมแปล ควบคู่ พร้อมบริการกับเครื่องดื่มร้อนๆ เย็นๆ หรือจะปั่นจนเป็นเกล็ดน้ำแข็งมันเป็นช่วงที่อากาศกำลังร้อนได้ที่ เหมือนกาแฟคาปูชิโน่ ผสมนม รสหวานปนขมอยู่ในคัฟเล็กๆ กลิ่นไอจากทะเล ทำให้รู้สึกถึงฤดูช่างแสนยาวไกลไกลเกินจนลืมไปแล้วว่า เด่วฤดูฝนก็มาอีกแล้ว
Hello! It's me.
11 | July | 2016
12:30 น.
ผู้หญิงคนนึง กำลังเดินมาพร้อมกับการคุยธุระ ผสมกับการใส่อารมณ์นิดหน่อย
Me : รับเครื่องดื่มอะไรดีคะ คุณลูกค้า
She : เอิ่ม…เป็นช็อกโกแล็ตปั่น แก้วนึงนะคะ หวานน้อยนะคะ
อ่า…ขอเป็น...เน้นนมข้นหน่อยนะคะ
Me : ได้คะ คุณลูกค้า ออร์เดอร์ทั้งหมด 55 บาท คะ
Me : ยิ้ม… หึๆ ในใจ นี้นะเจ้ ที่บอกว่าไม่กินหวาน นึกในใจ หัวเราะเบาๆ ฮ่าๆ :D
จะว่าไป ชีวิตเนอะ เราไม่อาจล่วงรู้ได้เลยว่า การมาแต่ล่ะครั้ง ของคุณลูกค้า จะมาแบบไหน แนวไหนบ้าง
และแล้ว เจ้เปิ้ล ก็เดินเข้ามาในร้าน เฮ้ย…วันนี้สายว่ะขอโทษที เบื่อจริงๆเลย กับผัวเฮงซวยนิ ให้ไปส่งลูก ก็ไม่ไปส่ง พี่คนเดียวอีกละ
Me : ใจเย็นๆเจ้... กินข้าวมารึยังเจ้ กินข้าวก่อนๆนะ
เจ้เปิ้ล ผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่า เป็นแม่ของต้นกล้า ต้นกล้า เด็กชาย ป.3 ที่เหมือนเด็กอัจริยะ ภาควิชาคณิตศาสตร์ เด็กอัจฉริยะ ที่ผู้จาช้าๆ เหมือนคนโต ระดับรุ่นเดียวกัน วันๆหมกตัวอยู่กับเกมส์ จากเครื่องโทรศัพท์ จะบอกว่าเป็นไอนสไตล์ เวอร์ชั่นเด็ก ก็คงจะไม่ใช่
พี่เปิ้ล นางเป็นเจ้าของร้านกาแฟ ด้วยความยินดี 1และร้านหนังสือด้วยความยินดี 2 ที่ฉันได้กึ่งไว้ต้นๆ นางได้งบมาทำร้านกาแฟ ร้านหนังสือริมทะเล เพราะเมื่อ 5 ปีก่อน นางถูกล็อตตารี่รางวัลที่ 1 นางเลยซื้อที่ตรงริมทะเล เมื่อก่อนนั้น ทำเลตรงนี้ยังไม่บูม
พอมาปัจจุบันความฮิปสเตอร์ ผู้แสวงหาความสงบ นั้นได้เกิดขึ้น เป็นดอกเห็ด บ้างก็มีตัวจริงบ้างก็มีเป็นตามกระแส เหมือนสายน้ำ ที่ทวนไปทวนมา แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ก็ยังคงครอบคลุมไปถึง วัยทำงาน จนถึงวัยรุ่น
ความรัก เริ่มต้นประหนึ่งในดวงจิต มิอาจคิด มิอาจลืมเลือน เหมือนในความฝัน
ว่าแล้วคิดบทกวีได้ขนาดนี้ก็นำไปโพสต์ในเฟสบุ๊กดีกว่า กดโพสต์ปุป มาแล้วสามไลค์ กดไลค์ 2 ครั้งและกดหัวใจ 1 ครั้ง
การกดไลค์ ในแต่ล่ะครั้ง ฉันมั่นใจได้เลยว่า สองคนแรกกดไลค์เพื่อเพียงผ่าน เพียงเพราะเขาต้องการให้เราไปกดไลค์เขาคืน อย่างที่บอกสองคนแรกเป็น น้องนิด เด็กสาวข้างบ้าน เรียนที่โรงเรียนพาณิชยาการ แถวบ้านชั้น ที่ชอบเต้นเพลงตึงๆโป๊ะ มีกลิ่นอายที่เป็นซาวด์เพลง จากรถบั๊มในงานวัด หรือแบบรถทัวส์ทัศนศึกษาของนักเรียนมัธยมปลาย น้องนิด ผู้ซึ่งชอบเต้นและอัดคลิป แล้วโพสต์บนในเฟสบุ๊ก เพื่อให้บรรดาเพื่อนๆของเธอ หรือบรรดาหนุ่มๆ รุ่นราวคราวเดียวกับเธอ ที่เธอนั้นหมายปอง ต่างพากันมาถล่มยอดไลค์ และชั้นก็อดขำไม่ได้ เมื่อการกระทำของนางนั้น ทำให้ชั้นถึงถึง ตอนสมัยที่ต้องถ่ายทำมิวสิควิดีโอเพลงสากล ทำเป็นมินิโปรเจ็ค ส่งให้กับอาจารย์ที่สอนคอมพิวเตอร์ สมัยนั้นยังเป็นโทรศัพท์ แบรนด์ N... อยู่เลย ไฟล์ภาพที่ถ่ายมานั้น ไม่ค่อยชัดเลย แต่ก็ภูมิใจดีนะ ยิ้มแบบเมื่อนักรบมีชัย เพราะผลงานนี้ มันเสมือนเป็นประหนึ่ง ในผลงานมาสเตอร์พีช ที่หาดูได้ยาก จนกระทั่งวันนึงเพื่อนในกลุ่มสมัยเรียนได้ไปเจอไฟล์วิดีโอนี้ จากเครื่องคอม สภาพเป็นคอมพิวเตอร์ รุ่นเก่าตั้งโต๊ะไว้อยู่ที่บ้าน ฝุ่นเกาะ พร้อมที่จะส่งตรง ไปยังร้านขายของเก่ามือสองได้เลย ตอนที่เพื่อนนำวิดีโอมาสเตอร์พีชนี้มาลง เพื่อนบอกว่าเหมือนมีอะไรมาดลจิตดลใจ ให้ลง เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้เพื่อนเหมือนจะโละของในบ้านทิ้ง จึงนึกยังไงไม่รู้ ว่าอืม…ไม่ได้เปิดนานแล้วนะคอมตัวนี้ เลยได้ความทรงจำเก่าๆมาเพียบเลย อาธิเช่น รูปหลุด ตอนเพื่อนเผลอมันไม่ใช่พึ่งมีหรอก กระแสแอบถ่ายรูปเพื่อนตอนเผลอ มันมีมานานแล้ว
ว่าแล้ว…วันนี้ฉันไม่ได้ขำเลย ฉันได้แต่ยิ้มกับเรื่องราว เจ้คนนั้น ที่สั่งช็อกโกแลตปั่นหวานน้อยแต่ขอเน้นนมข้น ชั้น… หัวเราเบาๆในลำคอ ไหนๆก็ไหนๆล่ะ ขอขำหนักๆอีกสักครั้ง จะเป็นไรไปทันใดนั้น นิ้วมือ เริ่มเลื่อนหน้าจอโทรศัพท์ แล้วไปที่คลังภาพไฟล์วิดีโอเสียงในโทรศัพท์ ก็ได้เปิดดูวิดีโอนั้นขึ้นมาอีกครั้ง ดูไปเรื่อยๆ พึ่งสักเกตุเห็นว่านาที ที่ 2.34 เป็นต้นไป เห็นเพื่อนชายคนนึง ที่เรียนอยู่สายวิทย์ ชื่อแม็กเดินแล่นผ่านไปๆมาๆ แล้วหันมายิ้มให้ ซึ่งในขณะ ที่ชั้นกำลังทำท่าร้องเพลงลิปซิงอยู่ สารภาพเลยว่าตั้งแต่ถ่ายทำกันเสร็จดูผ่านๆไปแค่ครั้งสองครั้งเอง ไม่ได้สังเกตอะไรมากมายนี้ผ่าน 7-8 ปี แล้วนะ พึ่งสังเกตเห็นได้ ถึงพลังแห่งความอบอุ่นรักโรแมนส์ ในวัย 17-18 มันเป็นแบบนี้นี่เอง ว่าแล้วทำไม เวลา เดินสวนกัน ทำไม ฮีถึงยิ้มให้เราบ่อยๆ เฮ้อ…ได้ข่าวว่าตอนนี้ แม็กอ่ะ ฮีทำงานเป็นวิศวะ ไฟฟ้า อยู่ที่บริษัทแห่งนึง อ้าว.. เอาแล้วไงคนที่มากดรูปหัวใจในสเตตัสสุดมโนของเรา ในบกวีสั้นๆแต่ได้ใจความ ว่า…
ความรัก เริ่มต้นประหนึ่งในดวงจิต มิอาจคิด มิอาจลืมเลือน เหมือนในความฝัน
นั้นคือ แม็ก... นั่นเอง
หนุ่มหล่อขึ้น (เด่วนี้)
ซึ่งต่างจากเมื่อก่อนมาก
อูย... น่าสนๆ
บางทีความเพ้อฝัน เพ้อเจ้อ อาจจะทำให้เรามีความสุขในใจได้เล็กๆน้อย เสมือนการมโนตัวเองอยู่ในหนังเกาหลี หรือซีรีสย์เกาหลี
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in