นันท์ลงโทษท่าทางอวดดีนั้นด้วยการกระแทกตัวเข้ามาในคราวเดียวจนเจ็บจุกไปหมด น้ำตาที่เคยฝืนเอาไว้หยดลงอย่างอ่อนแอ เขาจึงหลับตาแน่นเพื่อตัดภาพทุกอย่างทิ้งไป ปล่อยร่างกายให้ตอบรับจังหวะสอดใส่ที่เอาแต่ใจที่สุดเท่าที่เคยได้รับ
“ช้า...ฮึก หน่อย” เสียงครวญครางผะแผ่วฟังดูไร้ความหมาย และนันท์ก็ยืนยันสิ่งที่เขารู้สึกด้วยการเพิกเฉยต่อขอร้องนั่น โหมร่างกายใส่เขาราวกับจะตอกย้ำความสัมพันธ์ที่ถูกทำลายลง
“ยกสะโพกขึ้น” มือหนาลงแรงบีบบังคับจนเขาต้องเชื่อฟังคำสั่ง รวบรวมเรี่ยวแรงยกตัวขึ้นให้อีกฝ่ายขยับร่างกายได้ถนัดถนี่
เจอร์หอบหายใจและปาดป่ายทั่วพนักโซฟาอย่างต้องการที่พึ่ง นันท์มองภาพตรงหน้าด้วยสายตาเรียบนิ่ง ยังเคลื่อนเอวรุนแรงเพื่อกล่าวโทษและระบายความกรุ่นโกรธที่เกิดขึ้น ระหว่างทุกการกระทำกรามคมก็ถูกขบจนเป็นสันนูนด้วยความรู้สึกขัดแย้งภายใน
ปฏิเสธไม่ได้ว่าร่างกายกำลังรู้สึกดี
“ไปที่เตียงนะ” เขาเกือบจะใจอ่อนให้เสียงร้องขาดห้วงของคนใต้ร่าง ใบหน้าเหยเกบอกความอึดอัดกับพื้นที่คับแคบที่มีได้เป็นอย่างดี
“กูไม่อยากให้ห้องเลอะ”
แต่ความทรมานของเจอร์คือสิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่เหรอ?
นันท์พยายามบอกกับตัวเองว่าพอใจแค่ไหนตอนเห็นแววตาตัดพ้อของอีกคน บอกว่ามันถูกอย่างไรกับการลดค่าความสัมพันธ์ลงให้เหลอเท่านี้
“อือ ฮ่ะ...อ๊ะ!” เจอร์รีบหลับตาลงก่อนจะแสดงสิ่งที่ไม่ควรออกไปมากกว่านี้ อารมณ์แผดเผาในอกเริ่มกลายเป็นสีดำทะมึนครอบคลุมไปยังความคิด ริมฝีปากเห่อช้ำคลี่ยิ้มปลอบใจที่กำลังร่ำไห้ นัยน์ตาคู่สวยลืมขึ้นอีกครั้งเพื่อรับรู้ภาพตรงหน้า
ภาพใบหน้าเรียบนิ่งทว่าแดงก่ำอย่างพ่ายแพ้ต่อธรรมชาติของร่างกายของคนบนร่าง
เขาสวนสะโพกกลับเมื่อเริ่มจับจังหวะได้ ยกมือขึ้นโอบรอบคอที่ตอนนี้มีเม็ดเหงื่อผุดพราย สบตาและนึกสะใจกับหัวคิ้วที่ขมวดมุ่นของอีกคน
อยากจะประชดประชัน อยากจะบอกว่าคำกล่าวหานั่น...นันท์เองก็ทำมันไม่ต่าง
“อึก!” นันท์กัดฟันกรอดเมื่อเขาตอบรับการสอดใส่อย่างแรงจนเชื่อมกันลึกกว่าทุกครา รู้สึกได้ว่าตัวเองตอดรัดแน่นถี่เพราะความเสียวซ่านที่แล่นไปทั่วทั้งร่าง เข้าใจถึงกฎข้อที่สามของนักวิทยาศาสตร์บางคนที่เคยเรียนมาไม่รู้กี่ครั้ง
For every action, there is an equal and opposite reaction.
ยิ่งลงมือทำร้ายกันมากเท่าไหร่ แรงกระทบที่ถูกส่งกลับมาหาก็มีค่าเท่านั้น
มันคงจะดีกว่านี้ถ้าเขาคิดอย่างที่ปากพูด คงไม่ต้องรู้สึกเจ็บปวดมากมายอย่างที่เป็นอยู่ถ้าเขาไม่ได้รักนันท์เลยสักนิดเดียว
“ลึก...ลึกไป”
แต่ความเป็นจริงมันตอกย้ำว่าเขาคงทำได้แค่หวังให้ความหนักอึ้งทั้งหมดมลายหายไป
“ซี้ด...”
เพราะในตอนนี้เขารัก
“อ้าขาออก อ่า ...กว้างๆ”
รักมากจนอยากให้นันท์ใจร้ายใส่กันเยอะๆเผื่อว่าจะตัดใจง่ายขึ้นบ้าง
“ฮ่ะ แฮ่ก ไม่ไหว”
“ฮึ่ม!”
“เร็วกว่านี้ อ๊ะ!”
อย่าได้ใจดีอย่างที่ผ่านมาอีก
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นพื้นที่นั่งเล่น ความเฉอะแฉะและอุณหภูมิร่างกายที่พุ่งขึ้นสูงกระชากสติของพวกเขาทั้งคู่ให้ฉีกขาด เหลือเพียงความต้องการตามสัญชาตญาณดิบที่ไขว่คว้าหากันและกันอย่างตะกละ ไล่จับความรู้สึกดีที่แทรกในทุกอณูของร่างกาย
นันท์กดจูบลงบนริมฝีปากเห่อช้ำ กวาดต้อนและครางออกมาอย่างพอใจที่อีกฝ่ายตอบโต้ ความหวานที่เคยชิมแปรเป็นรสชาติเร่าร้อน ดึงดูดให้เสพมันซ้ำๆจนของเหลวหนืดใสไหลลจากมุมปาก เขาลากลิ้นเลียอย่างไม่ต้องการสูญเสียสักหยด เงยหน้าเผลอไผลเมื่อเจอร์แสดงว่าอยากซุกไซร้ซอกคอของเขาบ้าง
ปลายจมูกโด่งเฉียดผิวระอุเมื่อปากฉ่ำดูดเม้มด้วยแรงที่เดาได้ว่าคงเกิดรอยช้ำไปอีกหลายวัน ความปวดหนึบบนต้นคอกระตุ้นให้เขาแทรกตัวถี่รัว เสียงครางต่ำดังก้องจนแยกไม่ออกว่าเสียงไหนเป็นของใคร
“...เจอร์” เพียงคำสั้นๆก็ทำให้คนฟังร่างกายกระตุกเกร็ง ปลดปล่อยน้ำคาวจนเปื้อนเศษเสื้อขาดวิ่นบนลำตัว เชิ้ตสีชมพูจางเปียกแนบไปกับหน้าท้องแบนราบ นันท์ลากปลายนิ้วกับความเลอะเทอะอย่างเผลอไผล ก่อนจะกดแทรกลงไปในโพรงปากอุ่น มองคนรู้งานที่ลากเลียเอาใจจนสะอาดไปหมด
ความคับแน่นที่โอบรัดทำให้ใช้เวลาอีกไม่นานนันท์ก็กัดฟันแน่นพร้อมกับแตะถึงจุดสูงสุดของความรู้สึก พวกเขาหอบหายใจ กวาดอากาศเข้าปอดระหว่างมองหน้ากันด้วยสายตาว่างเปล่า
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in