เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First StoryI devil
หนีตามความสุข p.4
  • หลังจากถึงขอนแก่น ฉันนั่งพักได้ไม่นาน ก็ต้องเดินทางต่อ ไปที่จังหวัดเลย หลังจากนั่งรถตู้ที่มีคน 10 กว่า ที่ดูเหมือนต่างคนต่างนั่ง ครั้งนี้เรานั่งเป็นรถทัวร์ที่ฉันเองก็งงว่ารถทัวร์หรือรถเมย์กันแน่ เพราะมีทั้งคนที่นั่งเบาะ และคนที่ยืน คนที่นั่งต่างก็เป็นคนที่ไปยังปลายทางจังหวัดเลย ส่วนคนที่ยืนคือคนที่ลงช่วงต้นๆทาง พอนั่งลงที่เบาะฉันได้ถามกับคุณน้าที่นั่งข้างฉันว่าจากขอนแก่นไปถึงเมืองเลยใช้เวลาเดินทางกี่ชั่วโมง คำตอบที่ได้จากคุณน้าคือ ประมาณ 5-6 ชั่วโมง ฉัน?ยิ้มรับแล้วบอกว่า ไกลเหมือนกันนะคะ คุณน้าก็ได้ถามกลับมาว่าจะไปไหน ฉันบอกว่า หนูตั้งใจจะไปเชียงคานค่ะ คุณน้าบอกว่าถ้าลงจากคันนี้ที่สถานีก็เดินไปขึ้นรถสองแถวได้เลย นั่งไปจนสุดสายก็ถึงเชียงคานพอดี แล้วคุณน้าก็ถามต่อไปอีกว่าหนูมาจากจังหวัดไหนทำไมมาคนเดียว ฉันตอบกลับไปว่า มาจากอุบลฯค่ะ หนูตั้งใจจะมากับเพื่อนค่ะ แต่พอถึงวันจะมาเพื่อนไม่มากับหนู หนูก็เลยมาคนเดียวค่ะ ฉันก็เลยถามคุณน้าว่าคุณน้าจะไปลงที่ไหน คุณน้าบอกว่าลงเมืองเลยเหมือนกัน น้ามาขอนแก่นเพราะพาแม่น้ามาหาหมอ ฉันก็ถามต่อไปอีกว่าคุณยายเป็นอะไรหรอค่ะ คุณน้าบอกว่ายายเป็นมะเร็ง ฉันอึ่งไปพักหนึ่ง แล้วมองไปที่คุณยาย (คิดในใจว่าขนาดคุณยายแกป่วยเป็นโรคร้ายขนาดนี้ แกยังยิ้มยังหัวเราะได้ ทำไมคุณยายแข็งแกร่งขนาดนี้ ต่างกับฉันที่อ่อนแอจังเลย เฮ้อ) ฉันมองกลับไปที่คุณน้าแล้วพูดว่า ไม่เป็นไรนะคะหมอทุกวันนี้เขาเก่ง ยังไงก็สู้ๆนะคะ คุณน้ายิ้มแล้วบอกว่า ขอบใจนะลูก
    ฉันยิ้มรับ แล้วก็หยุดการสนทนาแล้วมองออกทางหน้าต่าง มันช่างเป็นบรรยากาศที่ชวนหลงไหลจริงๆ สองข้างทางที่เต็มไปด้วยทุ่งนาและภูเขา บวกกับเสียงคนบนรถที่คุยกันตอบรับไปมาเป็นภาษาถิ่น ซึ่งฉันเองก็หลงรักในสำเนียงและการพูดจาของคนที่นี้มาก มันฟังดูเป็นเอกลักณ์ของเมืองเลยอีกหนึ่งอย่างเลยก็ว่าได้ ฉันนั่งอยู่บนรถคันนี้ตั้งแต่ยังเห็นแสงพระอาทิตย์จนแสงใกล้หมดไป คนบนรถก็เช่นกัน เริ่มเหลือน้อยลงๆ จนในที่สุดฉันก็เดินทางถึงจุดหมายที่สองของฉันนั้นคือเมืองเลย ↖(^ω^)↗
    สวัสดีเมืองเลย? ถึงสักที
    .
    การเดินทางของฉันยังไม่จบ
    รออ่านบทความต่อไปนะคะ(:
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in