ตอนแรกเราคิดว่า จะโพสประโยคสั้นๆนี้ลงในทวิตเตอร์ของตัวเอง เล่าคร่าวๆไม่ให้เกินตัวอักษรที่กำหนด
และความคิดที่อยากจะเขียนเล่าลงที่นี่ เกิดขึ้นระหว่าง ขับมอเตอร์ไซค์กลับหอ.....................
..........ฉันเขาสู่วัยทำงาน ในวัย 23 หลังจากเรียนจบ ในสถานการร์โควิด รอบแรก งานแรกที่ทำได้เงินดี แต่แลกมาด้วยสุขภาพร่างกายตัวเอง ทำงานและหยุดไม่เป็นเวลา แต่ก็ทำให้ได้รับประสบการณืที่เข้มข้นมาก 1ปี
..........งานที่ 2 เงินน้อยมากๆ แต่ได้วันหยุดและเวลาพักผ่อนคืนมาเหมือนคนปกติ เป็นประสบการณ์ที่ไม่ดีเท่าไหร่ ถึงแม้จะมีเวลาพักผ่อน แต่ก็ทำลายสุขภาพจิตไปมาก 1 ปี
...........งานที่ 3 เป็นงานที่ฉันพยายามที่สุดเพื่อที่จะได้ทำงานนนี้ ด้วยความสามารถของตัวเองอย่างแท้จริง ค่อนข้างเป็นความภาคภูมิใจ รายได้อยู่ตรงกลางระหว่างงานแรก และงานที่ 2 ฉันเข้ามาทำงานตรงนี้ได้ 11 เดือนแล้ว เดือนหน้า จะครบ 1ปี ที่ฉันทำงานอยู่ที่นี่ และ จะอายุ 27 ปี แบบเต็มตัว
ฉันก็ไม่ต่างกับมนุษย์เงินเดือนทั่วไป ตื่นเช้า ออกไปทำงาน เลิกงาน หาอะไรลงท้อง ตามเวลา มธุระก็ไปจัดการ ฝึกทักษะใส่ตัวเองไปตามวัน บริหารเงินเดือนและชีวิตไปพร้อมๆกัน ฉันคิดว่า ฉันก็กำลังใช้ชีวิตอยู่ในทุกๆวัน นี่แหละ
จนมาวันนี้ ฉันเลิกงาน เดินออกจากแลป เดินไปสแกนหน้า เพื่อ ในระบบลงเวลา จะได้ไม่มีปัญหา และก็เพื่อตัวเอง เหมือนคนอื่นๆ
นึกได้ว่าน้ำยาล้างจานหมดแล้ว หลังจากใช้มา ตั้งแต่เดือน ก.ย 65 ใช่แล้วฉันไม่ค่อยล้างจาน ไม่ใช่เพราะฉันสกปรกหรอกนะ
ฉันไม่ค่อยทำอาหาร หรือใช่เครื่องครัวมากนัก อาจจะเป็นเพราะความขี้เกียจที่จะล้างจานบ่อยๆ
ฉันจึงซื้อแต่ของกินที่สามารถทานได้ในภาชนะที่บรรจุ
ก็คืออาหารกล่องที่มาพร้อมกับช้อนซ่อมใช้แล้วทิ้งนี่แหละ จริงๆแค่อยากใช้คำที่มันดูซับซ้อนให้ดูสวยๆเฉยๆ 555+
เย็นนี้ฉันตั้งใจจะไดเอท เลยซื้อแค่ผลไม้ 1กล่อง และเดินเข้าร้านขายของ ที่มีทุกอย่าง ที่ไม่ได้ 20 บาททุกอย่าง เข้าไปหยิบน้ำยาล้างจานแบบเติม ราคา 20บาท ที่สีดูอยากลองใช้ดูบ้าง และไปจ่ายตังค์ที่เคาท์เตอร์ ตอนที่เดินออกมานอกร้าน ฉันก็ตระหนักได้ว่า
นี่ฉันกำลังใช้ชีวิตอยู่นี่หน่า ฉันกลับไปฉันต้องนำมันไปเติมเข้ากับขวดเปล่าๆ ระหว่างที่ภายนอกฉันเดินไปเรื่อยๆ แต่ในหัวกลับรู้สึกว่า.........
การซื้อของแค่ 1 อย่าง มันทำให้รู้สึกว่า ที่ผ่านมาฉันไม่ได้ใช้ชีวิตกับตัวเองจริงๆเลย ที่ผ่านมาเหมือนฉันทำทุกอย่าง เพราะคิดว่า คือหน้าที่และสิ่งที่ต้องทำตามวัยก็เท่านั้น ยิ่งนานไปก็เหมือนเราหลงลืมจิตใจ ความรู้สึกของเราจริงๆ
เหมือนเป็นหุ่นยนต์ที่ทำตามชุดคำสั่งทุกๆวัน จ-ศ ตื่น 7.00 ต้องไปสแกนหน้าเข้างานไม่เกิน 8.30 ตอนเย็นเลิกงานก็ต้องหาข้าวกิน ตกดึกก็ต้องนอนเพื่อต้องตื่นไปทำงานอีก
วันไหนเครียดก็ต้องหาอะไรดูให้ตัวเองจิตใจอารมดี
ซ้ำๆ...........................จนความรู้สึกในการใช้ชีวิตมันจางลงไป
แต่การซื้อของจำเป็นต้องใช้เพียง 1 อย่างกลับทำให้ ความรู้สึกในการใช้ชีวิตกลับมาอีกครั้ง
เหมือนกับว่าที่ผ่านมาเราทำอะไรหลายๆอย่าง จนกลบ บดบัง ความรู้สึกเรียลๆมันไป ความรู้สึกที่ว่านั่น รวมๆกัน มันก็คือ
"สติ"
นั่นเองแหละนะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in