เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ROMANTIC MOVIEs REVIEWMoschan Nutthapat Suma
รีวิว : HOW TO BE SINGLE

  • Directed : Christian Ditter
     Writing Credits : Abby Kohn (screenplay), Marc Silverstein (screenplay), Dana Fox(screenplay), Abby Kohn (screen story), Marc Silverstein (screen story) and Liz Tuccillo(book) 
    คะแนนรวม = 7.25/10 

    =====================================================
    บท : 2/3
    เทคนิคการถ่ายทำ : 1.75/3
    การแสดง : 2/2
    เพลงประกอบ : 1.5/2 
    =====================================================

    ช่วงสุดสัปดาห์สำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเราเหมือนเพชรเม็ดงามในเดือนที่แสนโหดร้าย ไม่มีวันหยุดให้ชุ่มใจสักวัน!!

    เพราะฉะนั้น...Let's Partyyyy!!!

    แต่ก่อนจะไปปาร์ตี้สุดเหวี่ยงกับเพื่อนสาวหรือหนุ่มๆ สุดเซ็กซี่ เราขอแนะนำให้อุ่นเครื่องด้วยหนังรักโรแมนติก คอมมาดี้ อารมณ์ปาร์ตี้เกิร์ล เก๋ๆ เรื่องนี้เลย How to be single ผลงานการกำกับของคริสเตียน ดิตเตอร์ ที่ฝากงานตรึงใจไว้เมื่อปี 2014 กับ Love Rosie ขอบอกเลยว่าสำหรับคนที่มีเจ้าของควงไปปาร์ตี้คืนนี้แล้ว หลังจากดูเรื่องนี้จบ แวบหนึ่งคุณต้องรู้สึกอยากจะลองโสดดูอีกสักครั้ง! ให้ตายเถอะ!

    #PLOT

    เรื่องราวการค้นหาความหมายของชีวิตถูกถ่ายทอดผ่าน 'อลิซ' (ดาโกต้า จอห์นสัน - นางเอกในดวงใจ) หญิงสาววัยยี่สิบปลายๆ ที่เพิ่งตัดสินใจแยกกันอยู่กับ 'โจนส์' (นิโคลลัส บรัน - สูงยาว หล่อใส น่ารักเฟ่อร์) แฟนหนุ่มซึ่งคบหากันมาตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย เธอเบื่อความจำเจของชีวิตที่ต้องติดแง็กอยู่กับคนรอบข้างมานานแสนนาน ตั้งแต่มัธยมปลายที่ต้องอาศัยอยู่กับครอบครัว ร่วมห้องกับรูมเมทในมหาวิทยาลัย และอยู่กับโจนส์หลังจากจบการศึกษา เธอรู้สึกสูญเสียและต้องการตามหาบางสิ่งบางอย่างที่จะทำให้เธอกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง โจนส์ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของอลิซ เพราะนี่ไม่ใช่การเลิกราความสัมพันธ์ แต่เป็นเพียงการแยกกันชั่วคราวเพื่อค้นหาอะไรบางอย่างที่เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร สำหรับเขานี่มันงี่เง้าสิ้นดี แต่ถึงอย่างไรโจนส์ก็ไม่สามารถหยุดความตั้งใจของอลิซได้

    อลิซย้ายเข้ามาอยู่อพาต์เม้นต์กับพี่สาว 'แม็ก' (เลสลี่ แมนน์) สูตินารีแพทย์หญิงในนิวยอร์กซิตี้ มหานครแห่งมนต์เสน่ห์ที่ไม่เคยหลับใหล ที่ที่ทุกหัวใจโหยหาส่วนเติมเต็ม เธอได้พบกับ 'โรบิน' (เรเบล วิลสัน) สาวนิวยอร์กร่างอวบที่สนุกสุดเหวี่ยงกับชีวิตโสดแต่ไม่ซิง โรบินพยายามชักจูงให้อลิซ์ ซ่าส์ ก๋า กั่น ไปกับเธอ ด้วยการเรียนรู้ที่จะโสดและสุดไปกับมัน

    แล้ว Lesson no.1 ก็เริ่มขึ้นที่บาร์เล็กๆ แห่งหนึ่งในเย็นวันแรกของการทำงาน อลิซได้พบกับบาร์เทนเดอร์หนุ่มพราวเสน่ห์นักเชือดสวาทตัวยง 'ทอม' (แอนเดอร์ โฮม - เซ็กซี่สุดดด เสียงสูง*) ด้วยการชักจูงจากหนูโรบิน หลังจากจูบแรกของการทดลองโสด...อีกวันอลิซก็ตื่นเช้ามาบนเตียงของทอมและพบว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายที่ผู้หญิงดีๆ จะฝากชีวิตเอาไว้ได้ เธอตัดสินใจหยุดแผนการจำลองโสดในครั้งนี้เพื่อจะกลับไปใช้ชีวิตคู่กับโจนส์เหมือนเดิม แต่ข่าวร้ายก็คือ ความคิดที่จะแยกกันอยู่ชั่วคราวของอลิซทำให้โจนส์ได้พบกับสาวคนใหม่เสียแล้ว แล้วก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ใช่แค่เล่นๆ กับเธอคนนั้น หลังจากนี้อลิซต้องรับผิดชอบผลของการกระทำและต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์มากมายที่จะทำให้เธอเติบโตและเรียนรู้ความหมายของชีวิตโสดในมหานครที่อบอวลไปด้วยความเหงาแห่งนี้ 

    #REVIEW 

    -ชีวิตต้องลองเสี่ยงทำอะไรใหม่ๆ ดูบ้าง-

    อลิซมีชีวิตที่แสนเรียบง่ายมาโดยตลอด พอจบมอปลายเธอก็เข้าเรียนมหาวิทยาลัย มีแฟนหนุ่มดีๆ สักคน เรียนจบแล้วก็หางานทำ เหมือนทุกอย่างจะดูลงตัวไปหมด แต่ความเรียบง่ายนี้กลับทำให้เธอขาดแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต จนทำให้ต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงชีวิตเพื่อค้นหาตัวเอง ด้วยการทดลองใช้ชีวิตแบบสาวโสดในมหานครที่กว้างใหญ่ และแม้ว่าการตัดสินใจในครั้งนี้จะทำให้ต้องเธอต้องเผชิญกับเรื่องราวไม่คาดฝัน และต้องเสียใจกับความรักครั้งแล้วครั้งเล่า แต่สุดท้าย สิ่งเหล่านั้นก็ทำให้เธอลุกขึ้นมาทำตามความฝันของตัวเองได้สำเร็จนั่นคือ การออกเดินทางเพื่อตัวตนของเธอ

    -ความซื่อสัตย์เป็นกฏหลักของความรัก-
    อลิซเองเป็นฝ่ายเลือกที่จะแยกทางกับโจนส์ แม้จะเป็นเพียงชั่วคราวก็ตาม แต่ค่ำคืนนั้นเธอกลับหลงเสน่ห์คาสโนว่าอย่างทอมจนห้ามใจตัวเองไว้ไม่ได้ และไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่ตื่นเช้ามาทอมกลับเปิดเผยเรื่องราวของเขาทั้งหมด ว่าเขาเป็นหนุ่มนักเชือดที่ไม่หวังจะผูกมัดกับผู้หญิงหน้าไหนทั้งนั้น ทั้งตู้เย็นที่ไม่มีวัตถุดับเพียงพอที่จะให้สาวๆ ตื่นเช้าขึ้นมาเสิร์ฟอาหารดีๆ เพื่อสานสัมพันธ์ หรือตู้เสบียงที่ไม่มีแม้แต่แก้วจะรินน้ำ ไม่เว้นแม้แต่ก๊อกน้ำ ที่ไม่มีน้ำให้ไหลเลยสักหยด เรียกว่า ไล่กันทุกทางโดยไม่ต้องปริปากพูดอะไรเลย อลิซรู้สึกสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้นและต้องการแก้ปัญหาด้วยการกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมกับโจนส์ แต่ก็ดันเกิดเรื่องขึ้น โจนส์มีคนใหม่ซะแล้ว แถมเขายังจริงใจกับผู้หญิงคนนั้นอีกด้วย นี่แหละคือ ผลของการนอกใจ ไม่ว่าคุณจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม หากคุณกล้าที่จะไม่ซื่อสัตย์ต่อคนรักของคุณ ก็จงระวังและยอมรับกับผลที่ตามมาให้ได้ 

    -สันโดษแต่พองาม อย่าเดี่ยวดายอย่างเหี่ยวแห้ง-
    สำหรับบางคนที่ใช้ชีวิตลำพังด้วยลำแข้งของตัวเองมาโดยตลอด อาจมีความคิดที่ว่าโลกทั้งใบอยู่ในกุมมือ ทุกอย่างคุณสามารถควบคุมให้อยู่หมัด แต่เชื่อเถอะ ไม่ว่าคุณจะแข็งแกร่งมาจากไหนก็ตาม เสี้ยวนาทีหนึ่ง ความอ่อนไหวอาจทำให้คุณต้องทรุดลงกับพื้นเหม่อมองไปรอบบ้านที่ว่างเปล่าแล้วร้องไห้เสียใจที่บ้านมันใหญ่เกินไปสำหรับคนตัวคนเดียว แม็กเป็นตัวแทนของสาวเก่งผู้มุ่งมั่น บ้างาน และรักครอบครัว เธอเชื่อมาตลอดว่าเธอสามารถจัดการทุกอย่างและอยู่เพียงลำพังได้ แม้กระทั่งการมีลูก เธอตัดสินใจตามหาอสุจิจากชายสมบูรณ์แบบที่ไร้ข้อผูกมัด เพื่อที่เธอจะได้มีงานที่รักและลูกที่ดี จนกระทั่งเธอได้พบกับเคน แม้วัยจะเป็นอุปสรรคลูกใหญ่ที่ทั้งคู่ต้องก้าวผ่าน แต่สุดท้ายเคนก็พิสูจน์ให้แม็กเห็นแล้วว่า ถึงคุณจะเป็นผู้หญิงเกร่งแค่ไหน สุดท้ายเราต่างก็ต้องการใครสักคนที่พร้อมจะร่วมแชร์ทั้งทุกข์และสุข

    -คนที่ตามหาอาจไม่ใช่ คนที่ใช่อาจไม่ต้องตามหา-
    ลูซี่ นักเขียนสาวผู้อ่อนไหวในเรื่องความรัก เธอคอยมองหาคนที่ใช่มาโดยตลอดผ่านโลกออนไลน์ด้วยทฤษฏีถั่วของเธอ ลูซี่เชื่อว่าการหาคู่ทางอินเตอร์เน็ตนั้นเป็นการคัดเลือกเฉพาะหัวกะทิเน้นๆ ที่ตรงสเป๊กเธอ เราสามารถเลือกได้ว่าเราอยากจะคุยหรือสานต่อความสัมพันธ์กับใคร เธอมักจะมาทำการเสาะหาชายหนุ่มในฝันด้วยแล็ปท๊อปหนึ่งตัวในบาร์ของทอม บาร์เทนเนอร์หนุ่มคาสโนว่า แต่จนแล้วจนรอดแต่ละคนที่เธอพบนั้นกลับไม่ได้เป็นอย่างในโปรไฟล์สวยหรูที่พวกเขาเขียนสาธยายเอาไว้ กระทั่ง ลูซี่ได้พบกับเจอร์ราร์ดขณะที่เธอกำลังคลุมคลั่งจากการถูกพิษรักโลกออนไลน์ทำร้ายในงานเล่านิทานเปิดตัวหนังสือเด็กของเธอ เธอทำให้เด็กๆ ฝันสลายกับตอนจบของนิทานที่ไม่แฮปปี้แอนด์ดิ่ง ก่อนที่เธอจะกลายเป็นปีศาจป้าผู้กระหายความรักเจอร์ราร์ดก็เข้ามาช่วยเธอไว้ได้ทันท่วงที เป็นการพบเจอคนที่ใช่นอกโชเซียลมีเดียแล้วยิงยาวไปจนแต่งงานกันเลยทีเดียว

    -บอกความรู้สึกที่แท้จริงของคุณออกไป ก่อนที่จะสายเกินแอ้ม-
    ใครจะไปรู้ว่าสุดท้ายคลาสโนว่าหนุ่มนักเชือดอย่างทอมจะตกหลุมรักลูซี่นักเขียนช่างฝันฝีปากกล้าได้ทั้งๆ ที่เขายังไม่ได้แอ้มเธอเลย อย่าว่าแต่ทอมเลย ขนาดเราก็ยังรู้สึกชอบคาเเร็คเตอร์ของลูซี่ เธอมีบางอย่างที่ต่างไปจากผู้หญิงคนอื่นๆ เธอฉลาด เก่ง มีไหวพริบ และอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน แต่สิ่งสำคัญคือ เธอมีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้เลือก ไม่ใช่ผู้ถูกเลือกเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ทอมเคยเจอ ซึ่งต่างก็วิงวอนอ้อนร้องให้เขาเลือกเธอเหล่านั้น ทอมเลยตกหลุมรักลูซี่เข้าอย่างไม่รู้ตัว และคงเป็นติดเพราะนิสัยรักสนุกแต่ไม่ผูกพันมานาน เลยทำให้พอจะลงหลักปักใจกับใครขึ้นมาจริงๆ สักคน กลายเป็นเรื่องยากสำหรับเขา และกว่าจะรวบรวมความกล้าได้ก็สายไปเสียแล้ว กินแห้วเลยสุดหล่อ

    -อดีตมีไว้ให้เรียนรู้ ไม่ใช่ตัวกำหนดอนาคตของคุณ-
    ความเหน็บหนาวของคืนวันคริสมาสอีฟพาให้อลิซและเดวิด นักธุรกิจพ่อหม้ายหนุ่มใหญ่ได้มาพบกัน เขาทั้งดูดี ฉลาด และดูเป็นที่พึ่งได้สำหรับผู้หญิงตัวคนเดียวที่กำลังอยู่ในช่วงสับสนของชีวิต ทุกอย่างกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี อลิซก็ดูเข้ากับลูกสาวสุดที่รักของเดวิดได้ แต่แล้วเหตุมันเกิดจาก Can't take my eyes off you เดวิดหัวเสียอย่างมากเมื่อได้ยินอลิซฮัมเพลงนี้ ภาพในอดีตผุดขึ้นมาทำให้นึกถึงวันคืนเก่าๆ คนเก่าๆ คนข้างหน้าเลยไม่มีความหมายพอที่จะเดินเข้าไปในใจเขาได้ ความสัมพันธ์ที่เหมือนกำลังจะไปด้วยดีระหว่างอลิซและเดวิดเลยต้องจบลง เพียงเพราะว่า เดวิดไม่สามารถรับใครคนใหม่เข้ามาแทนที่แม่ของโฟบี้ได้

    #COMMENT

    เราขอชูป้ายไฟให้กับเรื่องนี้พร้อมดันเอาไว้ในอ้อมอกอ้อมใจเลยแล้วกัน พล็อตเรื่องที่ดูซิมเบิลแต่เข้าถึงได้ คือ ทุกเรื่องมันเกิดขึ้นได้จริงในสังคม ในมหานครเมืองหลวงที่มีประชากรแออัดเป็นสิบๆ ล้านคน น่าแปลกที่หลายต่อหลายคนกลับต่อเผชิญกับความเหงา โดดเดี่ยว และสับสน บางครั้งเรายินดีกับมัน บางครั้งเราปฏิเสธมัน อลิซเป็นตัวแทนของคนที่ใช้ชีวิตผูกติดกับคนอื่นมาตลอด กระทั่งวันหนึ่งเธอลุกขึ้นมาขอลิ้มลองรสชาติความเป็นหญิงเกร่งเพียงลำพัง สุดท้ายกลับกลายเป็นว่าการตัดสินใจของเธอทำให้เธอต้องเกร่งขึ้นจริงๆ เพราะแฟนดันมาบอกเลิกเสียดื้อๆ ฉากที่เราชอบมากๆ คือตอนที่โจนส์กลับมาหาอลิซที่อพาร์เมนต์ของเธอเพื่อจะเอาของๆ เธอมาคืน สถานะของทั้งคู่คือเลิกกันแล้ว แต่ก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน โจนส์ก็ยังคงแสดงความเป็นห่วงที่ติดเป็นนิสัยต่ออลิซ จนอลิซอดนึกถึงวันคืนเก่าๆ ไม่ได้ เธอร้องไห้แล้วโอบกอดโจนส์จากด้านหลัง พร้อมกับพูดเชิงน้อยใจว่า ผู้หญิงคนใหม่ของเธอช่างโชคดีจริงๆ ฉากนี้น้ำตาแอบซึมเลย มันเป็นความรู้สึกของคนที่รักกันจริงๆ เมื่อต้องเลิกราก็ยังคงมีความรู้สึกดีๆ ให้กัน ถึงแม้จะเจ็บปวดอยู่บ้าง แต่หากอีกฝ่ายมีความสุขเราก็ควรยินดีกับเขา 

    เรารักอลิซ 

    เพราะสุดท้ายแล้วอลิซกำลังบอกเราว่า ไม่ว่าจะโสดหรือมีใครสักคนอยู่ข้างๆ คุณควรจะยินดีและมีความสุขกับชีวิต สถานะใดๆ ล้วนแล้วแต่เป็นช่วงเวลาหนึ่งของเส้นทางชีวิตคุณ ถ้ามัวแต่จมอยู่กับความเศร้าและเฝ้ารอให้ใครสักคนมาช่วงทำให้โลกใบนี้มันสดใสเหมือนเดิม ใครจะไปรู้ว่า คุณอาจจะต้องรอไปจนแก่ตายกันไปข้างหนึ่งก็ได้ นี่คือ โลกของคุณ โลกที่คุณสามารถสนุกไปกับมันถึงจะโสดและซิง หรือโสดแต่ซิงก็ตาม ไม่ 'Dicksand' นะจ้ะหนู

    ส่งท้ายด้วยรูปสุดหล่อทั้ง 2 ของเรื่อง แอนเดอร์ โฮม นิโคลลัส บรัน และนางเอกสุดน่ารัก โดโกต้า จอห์นสัน
    ดี๊ด้า ดีใจ พี่หาเปิร์มได้แล้ว
    ถึงเมื่อคืนจะหนักไปหน่อยแต่เช้านี้ต้องสวย ต้องเริ่ด
    เจ้...เห็นมะ ผู้คนนั้นเหล่เจ้อยู่อะ 9 นาฬิกาค่ะเจ้
    ผมแวะเอาของมาคืนให้ ห้องคุณน่ารักดีนะ (อยู่นานๆ สิคะ อลิซและเราคิด)
    เดี๋ยวนะ นี่ฉันดื่มไปกี่ขวดแล้วเนี่ย...ต้องจัดแล้ว!!
    อย่ามาถือขวดเบียร์แล้วหรี่ตาแบบนี้นะ!! แล้วเอาขวดเบียร์ตีหัวแล้วลากเข้าถ้ำซะเลย!
    ฉันชอบกินแพนเค้กคุณก็รู้ ส่วนผมชอบกิน... คุณก็รู้?
    Finally I find my way

    Thanks all photos : IMDB
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
qderen (@ploynno)
เขียนดีมากเลย <3 เพิ่งดูจบค่ะ พออ่านอันนี้แล้วจับประเด็นในหัวได้เยอะขึ้น คนเขียนเขียนได้ครบมากๆ (Y)