(คิดดูสิ ขนาดเพิ่งไปมาได้อาทิตย์เดียว ก็ไปตบตีกับเพื่อนมาว่าสรุปวันไหนเราไปไหนมาบ้าง ไม่มีใครจำถูก อาศัยดูวันที่ในรูปที่ถ่ายมาเอา)

เราเริ่มวันที่สองด้วยการไปไหว้พระที่วัดหลงซาน อยู่ที่ MRT Longshan temple ทางออกที่ 1หรือ 3 ก็ได้

วันนี้ฟ้าใส ถ่ายรูปสวย ไหว้พระ ขอพร เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต 

หลังจากนั้น เดินเลยวัดไปอีกนิดหน่อยจะเจอ bopiliao old street จะเป็นโซนตึกเก่าๆ คือเค้ามีการรักษาอะไรพวกนี้ได้ดี ทำให้มันน่าดูน่าเดิน 

ทีเด็ดที่เราค้นพบคือ ตอนเดินจากวัดหลงซานไป bopiliao เราเจอร้านมารูโกะ เป็นร้านชาไข่มุกแล้วมีแสตนดี้มารูโกะตั้ง ขณะที่ยืนจดๆจ้องๆร้านอยู่ ก็มีคนพื้นที่ ที่น่าจะกำลังจะไปทำงาน แวะซื้อละยืนคุยกับเรา บอกว่าร้านนี้อร่อย(หน้าม้าป่าววะ) แล้วแนะนำเมนูยอดนิยม นั้นคือ brown sugar bubble with milk จ้า มุกยังไม่สุก เลยสั่งเป็นชาผลไม้ ใครจะไปคิด ได้ผลไม้มาเป็นชิ้นๆ

หลังจากนั้น หนึ่งในเป้าหมายหลักของเราาา dim tai fong นั่นเอง เราเลือกสาขาที่ไม่ไกลมากและคิดว่าคนจะน้อย (สาขาที่ชื่อแปลกๆ) นั่นก็คือ
Banqiao Store
Address: B1, No. 28, Xinzhan Rd., Banqiao Dist., New Taipei City (Banqiao FE21 Mega Shopping Center)
Tel: 02-8951-2222
Fax: 02-8951-8000
Business hours: Mon~Sun 11:00~21:30

ห้างเปิด 11โมง ไปรอตั้งแต่สิบโมงครึ่ง พอห้างเปิดก็ได้กินเลย ไม่ต้องรอคิวใดๆ เมนูก็เป็นภาษาไทย ราคาก็เป็นมิตร กินสองคน ตกคนละ 400 บาทไทย แต่ไม่สามารถเปรียบเทียบกับที่ไทยได้เนื่องจากไม่เคยกินที่กรุงเทพเลยค่ะ 

ตามแพลนคือเราจะไป Bitou cape ต่อด้วย Jiufen
พอกินติ่มไท่ฟงเสร็จ เราควรเดินย่อย เดินดูห้างเค้าก่อน โอ้โห ลากยาวถึงบ่ายสาม ก็ไอ่เราไปตอน Happy mother's day อะไรก็ลดไปหมด รองเท้าวิ่งไปคนละคู่ ได้ของแถม(ภาระที่ต้องแบกกลับไทย) คือเสื่อโยคะอีก
>> ultraboost ที่ไทยคู่ละ 7500 บาท ที่นู้นคือ 5000 บาท ราคาดีงามมาก นี่คือราคาในช็อป ถ้าซื้อตาม ABC mart น่าจะถูกกว่านี้

หลังจากนั้นต้องเอาของไปเก็บที่โรงแรม และพบว่า Bitou cape พักก่อนนน ไป Jiufen ให้ถึงก่อนพระอาทิตย์ตกก็ประสบความสำเร็จแล้ว

การเดินทางไป Jiufen ลงสถานี Zhongxiao fuxing ทางออกที่ 2 (ข้อมูล ณ วันที่ 8/5/61 เขียนไว้เพราะเห็นว่าเปลี่ยนบ่อย) พอขึ้นจากทางออกปั๊ป ป้ายหน้าห้างเลย ถ้าต้องเดินหาเกินห้าร้อยเมตร ให้รู้เลยว่าผิดแล้ว นี่เดินหาเกือบกิโล ตัดสินใจกลับไปเริ่มที่ทางออกเดิม ถามรปภ.ค่ะ แค่นี้เอง เดินไปทำไมไกล

พอถึงป้ายรถเมล์สาย 1062 ระหว่างต่อแถวรอ จะมีคนขับแท็กซี่มาชักชวนเราไปในราคาคนละ 200 NT แต่ถ้ารถเมล์มาแล้ว เค้าจะลดให้เหลือ สองคน 300NT นั่งแท็กซี่ 45 นาทีถึง นั่งรถเมล์ 2 ชั่วโมงถึง เรารอได้ เราเลยขึ้นรถเมล์ หลับตลอดทาง 

ถึง jiufen ฝนตกปรอยๆ เรายังไม่กินอะไร เดินไปจุดชมวิวแล้วรีบไปจิบชา ดื่มด่ำบรรยากาศที่ร้านน้ำชา ตรงข้ามร้าน A mei tea house ไปมาสองรอบนั่งร้านนี้ทุกรอบ แนะนำมากๆให้นั่งตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน จนมืดสนิท ให้นั่งริมระเบียงชั้น 1 บรรยากาศดีมากกก รสชาติชาเฉยๆ มีคนบอกว่าร้านชาอาเม่ยดี แต่ถ้าดื่มชาที่ร้านอาเม่ยก็จะไม่เห็นตัวร้านอาเม่ย นึกออกใช่มั้ยคะ เราเลยนั่งร้านฝั่งตรงข้ามเอา

นั่งจนถึงประมาณทุ่มครึ่ง เราเลยตัดสินใจลงมา แล้วจะหาอะไรกินสองข้างทาง ซึ่งพบว่าร้านทยอยปิดแล้ว รถขยะก็เข้ามาเก็บ คือทำไมปิดเร็วกันไม่ทราบได้ เพราะครั้งก่อนที่มาก็ปิดดึกมาก ทันกินแค่taro ball กับ ไอติมถั่วตัด 

ตอนมาหารถกลับ เจอแท็กซี่ชวนไปด้วยคนละ 200 NT ไปค่าาา เพราะฝนตกปรอยๆ+ไม่มีวี่แววของรถเมล ความพีคสุดๆของทริปนี้ มีเรื่องราวของแท็กซี่คันนี้อยู่ด้วย ในรถประกอบไปด้วย ผู้เกา 2 ผู้ญี่ 2 เราอีกสองคน และพี่คนขับ รถออกปั๊ป พี่คนขับรีบเปิดกูเกิ้ลทรานสเลต จับใจความได้ว่า ขอโทษที่ทำให้ทุกคนต้องรอ จากนั้นเปิดเพลง counting stars - OneRepulic พร้อมร้องประกอบ พี่อารมณ์ดีมากค่า รถติดอยู่แยกนึง พี่ก็พูดอธิบาย พร้อมกดกูเกิ้ลทรานสเลตทีละภาษาว่าร้านนี้อร่อย พี่คะะะะ พี่ควรตั้งใจขับรถ หลังจากนั้น พี่กดเลือกเพลงในยูทูปของแต่ละชาติที่อยู่ในรถ ไอ่เรานี่ พี่คะะะ พี่ขับร้อยกว่า พี่ไม่ต้องจิ้มหน้าจอแล้ว พี่ดูทางหน่อยคะพี่ ดีนะที่ถึงซีเมินก่อนคิวเพลงประเทศไทย กลัวใจพี่เขาเปิดเพลง ว่าจะเปิดเพลงอะไร ตอนลงผู้ญี่ ชมเพื่อนนี่ว่าสวยจังเลยย ใช่สิคะ ถ้าไม่มีเรา รถก็คงยังไม่ได้ออก เคยได้ยินว่าคนขับรถแท็กซี่เส้นจิ่วเฟ่นไนซ์มาก ก็ไม่คิดนะคะ จะไนซ์เบอร์นี้

ตอนดึก เรามี ximen อีกแล้วค่ะ มาทุกวัน มาทำไมรอบนี้ มาจองร้านหมาล่าชาบู สำหรับเที่ยงวันพรุ่งนี้ เรื่องกินเรื่องใหญ่ และจริงจังกับเรื่องกินเสมอสำหรับเรา
/ซื้อเบียร์ กลับรร. นอน หมดไปอีกหนึ่งวัน