เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I'll try...overreachpeach.
เป็นลม | fainted
  • วันเหี้ยอะไรวะเนี่ย



    หลังจากเมื่อวานเพิ่งค้นแฮชแท็กนั้นไป ตั้งใจอยากระบาย วันนี้ได้โอกาสอีก เห้อมม ดีจัง



    อ่ะ เข้าเรื่องเลย



    วันนี้วันอาทิตย์ 



    ไม่อยากตื่นเหมือนเดิม ตั้งปลุกตั้งแต่ 6.00, 6.12, 6.15, 6.30, 7.15, 7.28 ไปจนถึง 7.30 นับ 1 - 10 ในใจแล้วบอกตัวเองว่า ฮึบ it's just another day, hold on โอเค เริ่มทำใจได้ อาบน้ำแต่งตัวแล้วรีบเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน ทำให้จบ ๆ ไป วันนี้คงไม่ต้องสอนหรอก ไม่ได้คิดจะเตรียมอะไรไปสอนอยู่แล้ว ชิว ๆ เราทำทุกอย่างเหมือนเดิม รีบเดินให้เร็วที่สุดเพราะเหม็นควันรถ ฝุ่นอะไรไม่รู้ แสบคอจะตายแล้ว ไหนจะเสียงคนคุยกัน เสียงอะไรก็ไม่รู้ น่ารำคาญไปหมด ทำเหมือนเดิมคือหยิบหูฟังอุดหู เปิดเพลงเดิม ๆ หลับตา แล้วทุกอย่างจะเร็วขึ้นนิดนึง...



    วันนี้ไม่รู้สึกแปลกกว่าเดิมเท่าไหร่ โหวง ๆ กลวง ๆ ตลอดทาง มันก็ควรจะชิน ไม่ได้เป็นอะไรหรอก เดินตามทางมาเรื่อย ๆ จนถึงที่หมาย ตอนนั้นแหละความรู้สึกแปลก ๆ เริ่มมา ใช่ เรากำลังจะเป็นลม เรารีบถอดเสื้อกันหนาว (หรือแดด) ออกให้ไวที่สุด ถอดแมสที่ใส่ออก รีบบิดขวดน้ำที่เพิ่งซื้อมาไม่ถึงสิบนาทีแล้วดื่มไปสองอึก ทิ้งแก้วกาแฟที่เพิ่งซื้อมาแล้วนั่งพับริมถนน เฮ่ มันจะต้องดีขึ้นสิ 



    ไม่ ไม่เลยซักนิด...



    ตาเริ่มมองไม่เห็น ลืมตาเท่าไหร่โลกทั้งใบก็ยังเป็นสีดำ ได้ยินเสียงคนคุยกัน ซักพักก็หายไป อ้าว นี่เราฝันเหรอหรือยังไง ตอนนั้นเหมือนกำลังฝันอะไรซักอย่าง เหมือนหลุดไปอยู่อีกโลก (หื้มม) ไม่รับรู้อะไรแล้วตอนนั้น ประมาณสิบกว่านาทีได้ (อันนี้เดา) ถึงได้ยินคนเรียกชื่อ เป็นอะไรป่าวน้อง ไหวไหม นี่มันวันอะไรวะเนี่ยยยยยยยยย อยากถามตัวเองรอบที่ร้อย ลืมตาอีกรอบและเริ่ม stay conscious เรายังอยู่ริมถนนเหมือนเดิมนี่หว่า แต่รอบตัวมีใครก็ไม่รู้เต็มไปหมด หลังจากนั้นก็ถูก move ตัวเองมาอีกที่ โดยที่ไม่รู้ว่ามาได้ยังไง งง ภาพตัด ในความงง ความอะไรก็ไม่รู้ แต่ที่จำได้คือ มีพี่คนหนึ่งมาคอยจับมือ คอยเรียกเราตลอดแล้วถามว่าน้อง ไหวไหม ไปโรงพยาบาลกับพี่ไหม โอเคขึ้นรึยัง ในระหว่างนั้นเค้าก็จับ pulse เราไปด้วย เฮ่ย ทำไมมันรู้สึกดีจัง เหมือนมีคนกำลังเป็นห่วงเราอยู่ ซึ่งเค้าคือใครก็ไม่รู้



    หลังจากหายเบลอกว่าตอนแรกนิดนึง นี่ก็ต้องไปโรงพยาบาลจนได้ 



    นี่ครั้งที่สามในรอบหนึ่งเดือนเลยนะ



    เดินเข้า ER ไปกับเพื่อน ในใจท่องว่าไม่ได้เป็นอะไรจริง ๆ ค่ะหมอ แค่ปวดท้อง เมนมา แค่นั้นจริง ๆ หนูพูดจริง ๆ นะคะ อย่ามาเสียเวลากับหนูเลย หนูแค่โดนเพื่อนบังคับมา เออแต่จริง ๆ ก็อยากมาหาเองด้วยนิดนึง งงในงง สับสนในสับสน ยิ่งพิมพ์ยิ่งงง ช่วยด้วย หลายอย่างเกิน เรียบเรียงไม่ถูก



    เริ่มที่จุดคัดกรอง ยืนรอจนหน้าสั่น มีคุณพี่ข้าง ๆ บอก ไปนั่งตรงนั้นก่อนมั๊ยหนู (มือชี้ไปตรงโต๊ะพยาบาล) ซักพัก มีพยาบาลผู้ชายมาถามอาการ เป็นอะไรมา อ่อ เป็นลมค่ะ พยาบาลคนเดิมถามอีก จะเป็นลมหรือเป็นลมจริง ๆ (ในใจตอนนั้นคือจะกรี้ดมากก ทำไมคุณพี่ต้องทำเสียงแข็ง ดุอะไรขนาดนั้น) เป็นลมจริง ๆ ค่ะ เป็นมาก่อนหน้านี้ ยังไม่ดีขึ้น ผ่านนนนน ตัดมาที่พยาบาลผู้หญิง วัดความดันให้เรียบร้อย แต่นี่ bpm พุ่งไป 130++ อีกแล้ว เฮ่ นี่เป็นอีกแล้ว แบบที่ไปหาหมอครั้งก่อนเลย คิดในใจได้แปปนึง พยาบาลก็หันไปคุยกัน อีกคนโทรหาเตียง refer อีกคนโทรเข้าหมอ ER โอเค โอเค เรานอนเตียงก็ได้ 



    ไม่นานก็มีหมอผู้หญิงใส่แว่น ใส่แมสเนิร์ด ๆ คนหนึ่งเดินเข้ามา ไม่รู้ว่าตอนนี้เรียงลำดับถูกไหมนะ เพราะเบลอมาก ถามเป็นอะไรมา อะ ก็ตอบไปตามที่รู้สึก ปวดท้องค่ะ มึน ๆ น่าจะเพราะเมนมาวันแรกด้วย ไม่ได้กินข้าวเช้าด้วยเลยเป็นลม หมอผู้ชายอีกคนมาถามแบบเดิม ก็ตอบแบบเดิม มีฟัง lung นู่นนี่ หายใจเข้าลึก ๆ ออกยาว ๆ ตามสเตป เปิดตาเช็คอะไรไม่รู้ จับ pulse อีกรอบ กดท้อง บลา ๆ ซักพักก็มีหมออีกคน หรือคนเดิมวะ จำไม่ได้มาถามแบบเดิมอีก แล้วก็สลับกับหมอผู้หญิงคนแรกที่ถามว่าก่อนหน้านี้กินยาอะไรมารึเปล่า ก็บอกไปกินยาแก้ปวดมาค่ะ แต่ไม่หาย อ่อ เมื่อคืนกิน elavil ด้วยค่ะ กินไปเม็ดเดียว หมอถามอีก แล้วนอนหลับไหม ก่อนหน้านี้กินยาอะไรอีกไหม นี่ก็บอกไปทุกอย่าง dipam, lorazepam ลืมบอกว่าเคยกิน betalol ด้วย แงง หมอถามเยอะมากกกกกกกกกกกกกกจนขี้เกียจตอบ



    จนจบที่หมอผู้ชายอีกคนใส่แว่น ดูเบลอ ๆ เก่ง ๆ หมอดูรีบ ๆ มาถามอีก ทำไมคุณถึงกินยานั้นล่ะ ไปหาหมอที่ไหนมา ก็บอกไปหมอจามเก้าค่ะ หมอก็เงียบไป สุดท้าย หมอรีบพูดตัดจบมากเหมือนจะรีบไปไหนซักที หมอพูดว่า งั้นผมนัดหมอจิตเวชให้ไหม อ่า ผมไม่ได้จะว่าอะไรคุณนะ อหหหหหห จบคำนี้แหละค่ะ จบ เราพอจะเดาทางออกแล้วแหละ



    หลังจากหมอพูดแบบนั้น เราก็พูดแทรกไปเร็วมาก อ่อ หนูมีนัดหมอวันที่  8 นี้ค่ะ ถ้านัดที่นี่จะเร็วขึ้นใช่ไหมคะ หมอรีบบอก อ่อ ไม่ ๆ ครับ พร้อมตัดจบ แบบจบจริง ๆ แล้วหมอก็เดินหายไป



    Close your eyes, breathe in and out 

    Baby, you will be fine

    You will be fine

    Everything will be just fine



    หลับไปสามรอบ ตื่นมาก็ยังอยู่ใน ER มีพี่พยาบาลมาทำ EKG เอาเจลปาดที่หน้าอก ติด pad ตรงหน้าอกหนีบตรงขาด้วย เจาะเลือดไปสองรอบ หมอเจาะเองอีกหนึ่งรอบ เก็บฉี่อีกรอบ วัดความดันอีกรอบ จับ pulse อีกรอบ วัดไข้ด้วย เออ สรุปเราเป็นอะไรวะเนี่ย ทำไมมันเยอะ ทำไมมันวุ่นวายแบบนี้ ไม่รู้ตอนนั้นกี่โมงแล้วเพราะโดนถอดนาฬิกาตั้งแต่เป็นลม ในหัวก็คิดไปล้านแปด วันนี้มีเรื่องน่าอาย วันนี้ทำไมเราทำให้คนอื่นลำบาก ทำให้คนรอบตัวเป็นห่วง ทำให้ทุกคนลำบากไปหมด แง่ ขอโทษนะทุกคน ขอโทษจริง ๆ หลายอย่างตีกันในหัวมาก สรุปก็คือไม่ได้เป็นอะไร หมอให้ยาแก้ปวดมาสองแบบ 
    ตอนแรกจะฉีดให้แต่สงสัยลืม เพราะส่งใบสั่งยาไปแล้ว หมอผู้ชายคนเดิมเดินมาสรุปให้ไวมาก 
    โอเค ไม่เป็นไร หมอให้ยาแก้ปวดไป กลับบ้านได้ เฮ่ ในที่สุดก็ได้กลับซักที
    หลังจากนั้นก็นอนรอบนเตียง refer ไปอีกเกือบชั่วโมง



    สรุปรวมเวลาที่อยู่ใน ER หลังจากได้แตะมือถือก็รู้เลย สามเกือบสี่ชั่วโมง ฮื่อออ เป็นการนอนรอแล้วรออีก รอตรวจ รอหมอ รอพยาบาล รอใครก็ไม่รู้ แบบงง ๆ นอนจนปวดหัวเพราะแสงหลอดไฟที่แบบ เอ้อ สว่างจริง หลับตาแล้วยังรู้สึกได้ว่ามันทำให้ปวดหัวอะ สุดท้ายก็โดนเข็นเตียงออกมาจาก ER นี่แหละกลับจริง ๆ หวังว่าคงจะไม่มา ER งง ๆ แบบนี้อีก ปวดหัววววว


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in