สารภาพกันตั้งแต่แรกเลยว่าปกติแล้วเราไม่ใช่คอซีรี่ส์คอซีรีส์จีนหรือซีรี่ส์กำลังภายใน เพราะเป็นคนเบื่อง่ายทนดูซีรี่ส์ที่เนื้อเรื่องถูกลากยาวเหยียด 40-50 ตอนไม่ค่อยไหว แต่พอเห็นกระแสสุดไฮป์ของ World of Honor หรือนักรบพเนจรสุดขอบฟ้า ซี่รี่ส์แนวกำลังภายในที่ดัดแปลงมาจากนิยาย Boy’s Love ของนักเขียนเว็บโนเวลชื่อดังอย่าง Priest (พีต้า) เราก็ตัดสินใจทดลองดูไปก่อน แล้วก็ไม่ผิดหวัง แม้ชื่อของนักรบพเนจรสุดขอบฟ้านี้อาจจะไม่คุ้นหูคอซีรี่ส์ไทยสักเท่าไหร่ (หากเทียบกับซีรี่ส์ดัดแปลงจากนิยาย boy's love เรื่องอื่นๆ ที่ผ่านมา) แต่นี้คือซีรีส์ที่ถูกยกให้เป็นหนึ่งในซีรี่ส์ซึ่งประสบความสำเร็จที่สุดในช่วงครึ่งปีแรกของวงการละครจีนทั้งในแง่ความดังและคำวิจารณ์
พล็อตคร่าวๆ World of Honor ว่าด้วยเรื่องราวของ โจวจื่อซู ชายหนุ่มวัย 30 ผู้มีวิทยายุทธล้ำเลิศ เขาเป็นทั้งประมุขของเคหาสน์สี่ฤดู aka สำนักฝึกวิทยายุทธลึกลับกลางเขาและยังเป็นหัวหน้าหน่วยเทียนชวงหน่วยสืบราชการลับและมือสังหารของท่านอ๋องว่าที่องค์รัชทาญาตคนต่อไป แต่หลังจากที่ฆ่าคนมามากมาย โจวจื่อซู ก็เกิดเบินเอาท์ในการทำงานขึ้นมา เลยตัดสินใจจะลาออกจากเทียนชวง แต่ตัวเองดันเคยตั้งกฏมาว่าใครที่จะออกจากเทียนชวงต้องรับโทษทัณฑ์ก่อน ซึ่งโทษนั้นคือการแทงตะปูเจ็ดทวารที่จะค่อยๆ ทำลายวรยุทธในกายและต้องตายภายใน 3 ปี
หลังจากที่ โจวจื่อซู แทงตะปูเจ็ดทวารใส่ตัวเองสำเร็จและได้ออกมาจากเทียนชวงแล้ว เขาก็ตัดสินใจว่าจะใช้เวลาที่เหลือของชีวิตไปกับการปลอมตัวเป็นชายหนุ่มหน้าตาอมโรคนาม โจวซวี่ เพื่อท่องเที่ยวพเนจรไปทั่วขอบฟ้าหาความสุขไปวันๆ กับช่วงเวลาที่หลงเหลืออยู่ แต่ก็บังเอิ๊นนนนน ไปเจอกับ เวินเค่อสิง คุณชายมาดดีผู้มีสาวใช้นาม กู้เซียง ซึ่งน้องหนูกู้เซียงนี้อยู่ดีๆ ก็เกิดอาการอยากบูลลี่นักพเนจรอย่างโจวซวี่ขึ้นมา แต่แน่นอนว่า โจวจื่อซู ของเราก็รับมือหนูกู้เซียงได้อยู่หมัด พอเห็นการรับมือของ โจวซวี่ คุณชายเวินจึงรู้ได้ทันทีว่าชายร่อนแร่พเนจรผู้นี้ไม่ใช่คนธรรมดา และยังรู้ว่าโจวซวี่นั้นปลอมตัวมา ด้วยความติดใจในวิทยายุทธ รวมถึงเชื่อมั่นว่าภายใต้หน้าอมโรคปลอมๆ นั้น โจวซวี่จะต้องเป็นชายหนุ่มรูปงามอย่างแน่นอน คุณชายเวินจึงเอาแต่เกาะติดโจวซวี่อยู่ไม่ห่าง
เวินเค่อสิง ไม่ได้เป็นเพียงคุณชายมาดดีทีชอบตามเที่ยวไล่เที่ยวขื่อหนุ่มรูปงามไปวันๆ ตัวตนที่แท้จริงของเขานั้นเป็นถึงประมุขของหุบเขาภูติผี สถานที่สุดดาร์กที่ล้ำลือกันว่เป็นแหล่งรวมตัวของเหล่าจอมยุทธแสนชั่วช้าที่ถูกแบนให้ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยุทธภพมาเป็นเวลานาน ซึ่งการออกจากหุบเขาของ เวินเค่อสิง ครั้งนี้เขามีภารกิจสำคัญ และนั้นก็กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความรักและความแค้นในนักรบพเนจรสุดขอบฟ้า
SpoilAlertttttttt!
นักรบพเนจรสุดขอบฟ้านั้นถือว่ามีพล็อตเรื่องที่ค่อนข้างแปลกใหม่ ไม่เดินตามขนบของนิยายกำลังภายในทั่วไป ตัวละครหลักทั้งโจวจื่อซูและเวินเค่อสิงไม่ได้มีจุดมุ่งหมายที่จะเป็นยอมจอมยุทธหรือครอบครองยอดอาวุธที่จะทำให้พวกเขาแข็งแกร่งเหนือใครในโลกหล้า คนหนึ่กลับงใช่ชีวิตไปวันๆ รอความตาย อีกคนมุ่งหมายในการทำให้ยุทธภพวุ่นวายและแตกสลาย แต่การพบเจอกันของทั้งสองก็ทำให้พบกับเหตุผลใหม่ของการมีชีวิตอยู่
ถ้าดูซีรีส์นี้ไปสัก 4-5 ตอนจะเห็นได้เลยว่านักรบพเนจรสุดขอบฟ้าไม่ได้มุ่งไปยังเรื่องราวการต่อสู้เพื่อแย่งชิงความเป็นหนึ่งในยุทธภพเท่านั้น แต่ยังเน้นเรื่องราวการพัฒนาความสัมพันธ์ของตัวละครหลักทั้งอย่างโจวจื่อซูและเวินเค่อสิงด้วย จึงไม่แปลกใจที่ในช่วงแรกๆ หลายคนจะมองว่าซีรีส์นี้ช่างเดินเรื่องช้าเหลือเกิน (ส่วนตอนหลังก็รีบตัดจบเกิ๊น)
การมุ่งเน้นไปที่ความสัมพันธ์ของตัวละคร บทประพันธ์นั้นต้องมีความสำคัญสุดๆ ซึ่งการดัดแปลงบทละครครั้งนี้ก็ออกมาดีเกินคาดจนแฟนนิยายอย่างเราเองยังต้องชื่นชม เพราะนักรบพเนจรสุดขอบฟ้าฉบับซีรีส์กับหนังสือนั้นมีจุดที่ต่างกันเยอะมาก เนื่องจากฉบับนิยาย เรื่องนี้ถือว่าเป็นนิยายที่สั้นที่สุดของ Priest (พีต้า) การจะดัดแปลงมาให้กลายเป็นซีรี่ส์ความยาว 36 ตอนจึงต้องเพิ่มเนื้อหามาเป็นกระบุง ไหนจะต้องปรับพล็อตนั้นนิดนี่หน่อยเพื่อคอยหลบกองเซนเซอร์จีน (ที่สุดแสนจะโฮโมโฟเบีย) พอได้ยินว่ามีการปรับบทเยอะเราเองตอนแรกก็แอบหวั่นใจ เพราะไม่ค่อยมีซีรี่ส์เรื่องไหนที่ปรับบทแล้วออกมาน่าประทับใจเท่าไหร่
แต่สำหรับนักรบพเนจรสุดขอบฟ้าการปรับบทนั้นกลายเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ซี่รี่ส์เรื่องนี้ได้รับความสนใจมากขึ้น เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มมิติ เพิ่มความเป็นเหตุเป็นผลให้ตัวละครทั้งหลักทั้งรอง เป็นซีรีส์ที่บทเเน่นในระดับที่เราสามารถบอกเหตุและผลในการกระทำของทุกตัวละครได้ ไม่ได้ยัดเยียดคำพูดที่บอกว่าตัวละครแต่ละตัวทำอะไรไปเพื่ออะไร แต่ค่อยๆ หยอดเหตุผลผ่านการกระทำ ผ่านสถานการณ์ต่างๆ ที่บางทีเราก็ไม่ทันได้สังเกตด้วยซ้ำ เป็นซีรีส์ประเภทที่ยิ่งกลับมาดูซ้ำแล้วยิ่งเข้าใจเนื้อหามากยิ่งขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าพล็อตของซีรีส์เรื่องนี้จะไม่มีที่ติเลย บางจุดก็มีน่าเบื่อบ้าง รีบเร่งตัดบทไปบ้าง แต่โดนภาพรวมยังถือว่าดีเกินคาด
แม้จะต้องปรับบทเยอะ นักเขียนบทก็ไม่ได้พยายามจะ Tone Down ความสัมพันธ์เชิงโรแมนติกของโจวจื่อซูกับเวินเค่อสิงลงมาเท่าไหร่ ต่างจากซีรี่ส์ดัดแปลงจากนิยาย boy's love เรื่องอื่นๆที่พยายามทอนความ romance ให้เป็นแค่ bromance เท่านั้น ซึ่งส่วนนี้เรามองว่ามันไม่ใช่แค่การให้เกรียตนิยายต้นฉบับ แต่ยังให้เกียติคนดูอย่างเราด้วย หลังจากที่ซีรีส์หลายๆ เรื่องที่ผ่านมา มักมองว่าสาววายอย่างเราเป็นของตายจะย้ำยีจิตใจด้วยการแยกคู่พระ-นายแบบไหน ยังไงเราก็ต้องดูอยู่ดี (อีโม)
และสิ่งที่จะไม่ชื่นชมไม่ได้เลยก็คือนักแสดงนำทั้งสองคนอย่าง จางเจ๋อฮั่น ผู้รับบท โจวจื่ซู และกงจุน ผู้รับบท เวินเค่อสิง ที่แสดงได้สมบทบาทสุดๆ ลบคำครหาที่ผู้คนกังขาว่าไม่เหมาะสมกับคาแรกเตอร์บ้างหรือแสดงไม่เก่งบ้างในช่วงแรกไปได้ ซึ่งไม่ใช่แค่ในซีรีส์ที่แสดงเข้าขากันได้ดีจนคนดูอินมาก ในชีวิตจริงทั้งคู่ก็ยังเคมีดีมากกก จนกลายเป็นคู่ชิปเบอร์ต้นขอวงการจีนในเวลานี้
นอกจากนี้เรายังต้องให้เครดิตสำคัญกับทีมโปรดักชั่นด้วย แม้ว่า World of Honor จะถือว่าเป็นซีรี่ส์ทุนต่ำที่สุดในบรรดาซีรี่ส์ดัดแปลงจากนิยาย boy's love ที่ทั้งผลิตและและกำลังจะผลิตอีกหลายสิบเรื่อง จนโดนตัดงบต้องโดนตัดตอนจากครั้งแรกที่คาดว่าจะยาวกว่า 40 ตอน CG บางตอนอาจจะลอยไปบ้าง สถานที่บางแห่งต้องใช้ซ้ำกันบ่อยๆ บ้าง เจอความซวยอย่างโควิดที่ทำให้ต้องเปลี่ยนนักแสดงหลักกลางคัน แคสติ้งไดเรกเตอร์ต้องมาแสดงเอง ฯลฯ แต่ทีมโปรดักชั่นก็แสดงในเห็นว่าถึงจะจนก็ผลิตคอนเทนต์ที่ดีออกมาได้ และเมื่อคนดูอย่างเรามองเห็นความใส่ใจในบท ในคุณภาพการผลิต ในรายละเอียดของการแสดง เคารพในบทประพันธ์ดั้งเดิมนั้น ก็สามารถทำให้ซีรีส์นั้นประสบความสำเร็จแม้จะเจออุปสรรคมากมาย
สรุปคะแนน
บท 9/10 คะแนน
แม้ ep 31-32 จะอิหยังวะมากๆ แต่เจอฉากกอดเอวเข้าไปเป็นใครก็ต้องให้อภัยแหละ
โปรดักชั่น 8/10 คะแนน
ความจนมันเห็นชัดอะเนอะ รักแค่ไหนก็ปล่อยผ่านไม่ได้จริงๆ
การแสดง 10/10 คะแนน
ไม่ใช่แค่นักแสดงหลักที่ต้องชม แต่นักแสดงรอง นักแสดงตัวประกอบคนอื่นๆ ก็ทำได้ดีมากจนไม่น่าเชื่อว่าซีรีส์ทุนต่ำจะแคสติ้งดีขนาดนี้
ภาพรวม 9/10 คะแนน
แต่ถ้าให้คะแนนความทุ้มอยู่ในใจบอกเลยว่าต้องให้ 10000000/10 ทุกวันนี้ดิฉันยังไม่ไม่ลงจากเขาฉางหมิงซานเลยค่ะทุกคน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in