เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Oh, my belovedByeruk
Bottleneck Effect
  • สิบนาทีผ่านไปไวเหมือนฟังเพลงเดิมวนสามครั้ง หน้าจอยังคงว่างเปล่าปราศจากความคิด อาคาอาชินั่งกะพริบตาปริบๆ กับหน้าจอแม็คบุ๊ค คิดอะไรไม่ออก สมองตันอย่างกับส้วม สองมือรัวนิ้วลงบนคีย์บอร์ดอย่างมั่วซั่ว ตัวอักษรไร้ความหมายปรากฎครึ่งหน้าจอ เขากดลบมันทิ้ง แล้วละเลงนิ้วลงบนคีย์บอร์ดอีกครั้ง จากนั้นจึงลบ ทำแบบนี้วนไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมาย เบื่อนักล่ะกับการอาการเขียนไม่ออกเหมือนคนท้องผูก อย่างน้อยๆ ก็ยังมียาถ่ายให้ร่างขับของเสีย แต่นักเขียนน่ะไม่สามารถหาซื้อยาแบบนั้นได้นอกจากต้องเค้นมันจนกว่าจะออก เมื่อออกมาไม่ได้ดั่งที่หวังไว้ก็กลืนมันกลับลงไปในซอกหลืบที่เรียกว่าความเครียด ความเครียดเหรอ คงผิดถนัด ความผิดหวังคงเข้าเค้ากว่า เมื่อกลืนลงไปแล้วก็ต้องถ่ายออกมาใหม่ เป็นวัฏจักรแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่รู้จักจบจักสิ้น ครั้นคิดว่าตัวเองหลุดจากวังวนบ้าๆ นั่นได้แล้วก็หลงระเริง รู้ตัวอีกทีก็กลับมายืนอยู่ตรงที่เดิม โดนวัฏจักรเหล่านั้นควบคุมไปโดยปริยาย 

    ลบ เขียนใหม่ ลบ แล้วเขียนใหม่ สุดท้ายก็กดปิดทิ้ง ไม่มีใครอยากทนเห็นหน้ากระดาษเปล่าๆ หรอก เว้นเสียแต่ว่ายังทำลายตัวเองไม่มากพอ

    อาคาอาชิปิดเครื่องแม็คบุ๊ค ถอดแว่นตากรองแสง มือนวดขมับ นักเขียนไส้แห้งอย่างเขาช่างน่าเวทนานัก เคยคิดเล่นๆ อยากเรียกซาตานเพื่อขอสูตรโกงชีวิต แลกกับวิญญาณเขาที่เปื่อยยิ่งกว่ากระดาษเช็ดก้นเมื่อโดนน้ำ ซาตานอาจบอกกับเขาว่า “ของราคาถูกแบบนั้นข้าไม่เอาหรอก สู้กลับไปผลิตผลงานห่วยๆ ของแกให้มันดีขึ้นดีกว่า” แม้แต่ในมโนสำนึกของตัวเองยังโหดร้าย มันยิ่งกว่าคำว่าเวทนาอีกไม่ใช่หรือไงอาคาอาชิ

    เมื่อประสบปัญหาเขียนไม่ออก สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือนอน เมื่อนั้นแหละความคิดเป็นล้านก็จะถาโถมเข้ามาในหัว จากนั้นก็ทดไว้ในโน้ตกันลืม และลงเอยที่นอนไม่หลับ หรือวันไหนที่นอนหลับก็เผลอหลับโดยที่ไม่ได้อะไรเป็นรูปเป็นร่าง นั่นจะเป็นเช้าวันใหม่ที่น่าเศร้ายิ่งนัก

    อาคาอาชิล้มตัวลงนอน พลิกตัวไปมาพร้อมกับสมองที่คิดนู่นนี่ พยายามเรียงความคิดที่แตกกระจายให้เป็นกลุ่มก้อน จับนั่นผสมนี่ไปเรื่อยๆ เสียงนาฬิกาดังเป็นจังหวะติ๊กต่อกรอบที่สามร้อย สุดท้ายก็จบลงตรงที่คิดอะไรไม่ออกอยู่ดี เขาถอนหายใจ หลับตาเตรียมพร้อมเข้านอนจริงๆ 

    จู่ๆ เสียงกระดิ่งบ้านก็ดังขึ้น พบว่าเป็นโบคุโตะที่มาหาเขากลางดึก “ห้องนายยังสะอาดเหมือนเดิมเลยนะ” โบคุโตะทิ้งตัวนั่งบนเตียงของอาคาอาชิ หลายอาทิตย์แล้วที่พวกเขาแทบไม่ได้เจอกัน คนนึงเป็นนักเขียน คนนึงเป็นนักวอลเลย์บอลทีมชาติ เวลาคุยกันผ่านทางโทรศัพท์ก็ยังไม่มี 

    “คุณเป็นยังไงบ้างครับ” เจ้าของบ้านเปิดฝากระป๋องเบียร์ยื่นให้คนบนเตียง “ยังสุดยอดเหมือนเดิม ฮินาตะตบลูกได้น่าทึ่งมากเลย โคตรประทับใจ” โบคุโตะดื่มเบียร์รวดเดียวจนหมดเกลี้ยง “แล้วนายล่ะ อย่าบอกนะว่ายังเขียนอะไรไม่ออก” อาคาอาชิจ้องโบคุโตะเขม็งราวกับจี้ใจดำ “ก็ตามนั้นแหละครับ ช่วงนี้คิดอะไรไม่ค่อยออก หัวโล่งไปหมด พลังงานในตัวค่อยๆ หดลงไปหมดแล้ว” โบคุโตะได้ยินดังนั้นจึงตบบ่าปลอบรุ่นน้องตัวเอง “เอาน่า ฉันเชื่อว่านายต้องทำได้อยู่แล้ว อาคาอาชิของฉันสุดยอดมาโดยตลอดไม่ใช่หรือไง” นักเขียนไส้แห้งยกยิ้มน้อยๆ อย่างน้อยในวันที่เขารู้สึกย่ำแย่ก็ยังมีผู้ชายคนนี้คอยให้กำลังใจเขาอยู่ไม่ห่าง “ขอบคุณครับคุณโบคุโตะ”

    “อีกไม่กี่วันฉันก็ต้องกลับไปซ้อมแล้วสิ ฉันรักวอลเลย์บอลนะแต่มันก็เหนื่อยมากเลยอาคาอาชิ” เขาคิดว่าโบคุโตะกำลังเข้าโหมดงอแง เมื่อวิเคราะห์ได้แล้วว่าคนบนเตียงต้องการอะไรเขาจึงลูบหัวนั่นไปมา โบตุโตะค่อยๆ เขยิบเข้าไปใกล้อาคาอาชิเพื่อให้ง่ายต่อการขยับฝ่ามือบนหัว ผิวสัมผัสที่มือของรุ่นน้องทำให้เขาสงบจิตสงบใจลงอย่างมาก 

    “ฉันพานายไปซ้อมด้วยได้มั้ยเนี่ย” 
    “ผมมีงานต้องทำเหมือนกันนะครับ”
    “รู้น่า”

    โบคุโตะขอค้างที่บ้านเขาหนึ่งคืน แขกผู้มาเยือนได้ไปเยือนในนครแห่งความฝันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยอาการเหนื่อยล้าทางกายที่สั่งสมมาเป็นเดือนๆ ทำให้โบคุโตะเข้าสู่การนอนหลับได้อย่างง่ายดาย ส่วนตัวเขายังคงตาสว่าง จ้องมองไปทางแม็คบุ๊คบนโต๊ะท่ามกลางความมืดของตัวห้อง เขาต้องเขียนอะไรสักอย่างให้ได้ในคืนนี้ เพียงแค่ประโยคเดียวก็คุ้มค่ามากพอแล้ว ไม่งั้นคืนนี้เขาคงหลับไปด้วยความทรมานจนถึงเช้าวันใหม่ แล้วเช้าวันนั้นก็จะเต็มไปด้วยความรู้สึกของเมื่อวาน เรื่องแบบนั้นเขาไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นแน่

    อาคาอาชิลุกขึ้นจากเตียง เปิดแม็คบุ๊คเข้า Microsoft word อีกครั้ง

    ผลลัพธ์: อาคาอาชิตื่นในเช้าวันใหม่พร้อมความรู้สึกที่เหมือนกับเมื่อวาน
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
eiei__kiki (@eiei__kiki)
อุ้ยยย เอฟตีค่ะะะ
Byeruk (@fb1940925622875)
@eiei__kiki อุ้ยยยเขินน้อลต่ะ
Byeruk (@fb1940925622875)
@eiei__kiki อุ้ยยยเขินน้อลต่ะ