เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
When I was there : หน้าพระลานไม่นานนี้BUNBOOKISH
คำนำ


  • ใครๆ ก็มีความทรงจำ—ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับคน สัตว์ สิ่งของเหตุการณ์ รสชาติ สถานที่ หรืออะไรก็ตามที่เราเคยเกี่ยวข้อง อะไรก็ตามที่เราเคยผ่านล้วนกลายเป็นประสบการณ์ที่จะอยู่ติดตัวเราต่อไป ถ้าไม่บังเอิญว่าเป็นคนลืมง่ายเกินไปนัก

    ‘หน้าพระลาน’ เป็นชื่อถนนเส้นที่ตัดผ่านหน้าม.ศิลปากร ฝั่งวัดพระแก้ว โดยส่วนตัวครั้งแรกที่เราไปเยือนถิ่นศิลปากร เราก็นั่งรถเมล์ไปลงตรงถนนเส้นนี้ มีป้ายรถเมล์เล็กๆ อยู่ตรงข้ามประตูมหาวิทยาลัย ลงรถเมล์แล้วก็เดินข้ามถนน ตรงเข้าประตูไปได้เลย

    แต่แปลก ม.ศิลปากรที่อยู่ตรงนั้น ไม่ยักจะใช้ชื่อว่า วิทยาเขตหน้าพระลาน

    ลูกไม้เป็นเด็กชอบเล่าเรื่องความทรงจำ (ถ้าดูจากผลงานเล่มก่อนของเธอ) แล้วบังเอิญความทรงจำ ของเธอสามารถถ่าย-ทอด ออกมาเป็นรูปวาดสีน้ำสวยๆ เมื่อบวกกับการเล่าแบบง่ายๆคล้ายคุยให้เพื่อนฟัง ความทรงจำของเธอจึงดูเป็นมิตรกับทุกคนได้ไม่ยาก

    และตามประสาเด็กจบใหม่ ความทรงจำส่วนใหญ่ในชีวิตยังคงชัดเจนอยู่ในบริเวณรอบรั้วมหาวิทยาลัย เราเชื่อว่าเวลาไม่รู้จะไปไหน คนเรามักอยากกลับไปอยู่ในที่ที่รู้สึกว่าเป็นของเรา

    มหาวิทยาลัยของตัวเองน่าจะเป็นหนึ่งในที่ที่หลายคนอยากกลับไป 

    ลูกไม้เป็นเด็กศิลปากร—แล้วบังเอิญว่าเธอชอบออกไปเดินเล่น ความประทับใจและความทรงจำของลูกไม้ก็เลยไม่ได้อยู่แค่ภายในอาณาเขตของม.ศิลปากร แต่หมายรวมไปรอบบริเวณหน้าพระลาน ท่าช้าง ท่าพระจันทร์ และพานั่งเรือข้ามฟากไปถึงถิ่นวังหลัง แต่แน่นอน 
    ลูกไม้ไม่ลืมพาเดินเข้าไปในมหาวิทยาลัย พาเดินขึ้นไปบนตึกคณะมัณฑนศิลป์—ใช่ ลูกไม้เป็นเด็กมัณฑนศิลป์

    แต่อย่าคาดหวังว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นไกด์บุ๊ค พาเที่ยวสถานที่ขึ้นชื่อแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ 
    หรือพาไปดูของยอดฮิตย่านท่าพระจันทร์ พาไปดูห้องเรียนของเหล่านักศึกษา เพราะสิ่งที่ลูกไม้พาเราไปรู้จักในหนังสือเล่มนี้มีแต่สถานที่ธรรมดา ร้านค้าเล็กๆ ริมทาง และผู้คนที่ไม่ได้มีชื่อเสียงสำคัญอะไร แต่แน่นอนทุกคน ทุกที่ และทุกอย่างย่อมมีความหมายมีตัวตนอยู่ในความทรงจำของใครสักคน

    พวกเรา—สำนักพิมพ์บัน อยากทำหนังสือที่บอกเล่าเรื่องราวน่ารักๆ ของช่วงเวลาที่เคยผ่านมา เผื่อว่าเวลาที่ไม่รู้จะไปไหน ก็อยากให้ทุกคนได้นึกถึงและได้กลับไปเดินเล่นในที่ที่รู้สึกว่าเป็นของเรา

    คงจะดีถ้าที่ของเราเป็นที่เดียวกัน

    BUNBOOKS





  • ตอนที่ต้องคิดว่าหนังสือเล่มต่อไปจะเขียนอะไรดี บอกเลยว่าหัวของเราเป็นสีขาวโพลน เพราะชีวิตของเรามันแสนจะจืดชืด ไม่มีอะไรมหัศจรรย์พันลึกให้พูดถึง และในตอนนั้นเองพี่หนุงหนิง (บ.ก.) ก็ได้พูดขึ้นมาว่าอยากให้เขียนเรื่องเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยจัง เราก็ตกลงปลงใจทันที
    (ใจง่าย) ซึ่งจริงๆ แล้วเราเองก็เคยแอบคิดว่าอยากนำเสนอภาพของมหาวิทยาลัยศิลปากรออกสู่สาธารณชนดูบ้างเพราะที่นี่ (รวมทั้งละแวกนี้) เป็นสถานที่ที่มีเสน่ห์มากๆ เราก็เลยตอบรับไปโดยไม่แม้แต่จะหยุดคิด

    พอเห็นว่าเป็นหนังสือที่เล่าเรื่องในช่วงที่เป็นนักศึกษาก็อาจจะเดากันไปว่าคงจะมาเล่าเรื่องการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย หรืออาจจะมีเรื่องของการสอบ การเรียนศิลปะเทือกนั้นล่ะสิ หึ

    ขอบอกว่าไม่มีเลย เป็นเรื่องเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการเรียนทั้งสิ้น 

    สำหรับเราแล้วหนังสือเล่มนี้ไม่ใช่บันทึกประจำวันทั่วไป แต่จริงๆแล้วหนังสือเล่มนี้ก็คือตัวแทนของเราที่กำลังพาเพื่อนคนนึง (ซึ่งก็คือผู้อ่าน) ไปเดินเล่นในที่ที่เราเคยอยู่ เคยเรียน เคยเล่น
    แล้วก็เมาท์มอยให้ฟังว่าเราเจออะไรมาบ้าง สนุกบ้าง เรื่อยเปื่อยบ้าง ก็ตามภาษาเพื่อนๆ เมาท์กันนั่นแหละ

    ลูกไม้


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in