'เด็กกิฟต์' คำที่ใครๆก็คงเคยได้ยินมาอย่างคุ้นหู
เด็กกิฟต์ในความคิดของแต่ละคนต่างออกไปตามความคิดของแต่ละคน บางคนคิดว่า
เด็กกิฟต์คือเด็กเรียนเก่ง บางคนคิดว่า
เด็กกิฟต์เป็นเด็กที่สนใจแต่เรื่องเรียน และบางคนก็คิดว่า
เด็กกิฟต์ก็แค่เด็กที่เรียนพิเศษเก่งเท่านั้น
ความจริงแล้ว เด็กกิฟต์อย่างพวกเราก็คือเด็กธรรมดานั่นล่ะ เป็นเด็กที่มีความสนใจในเรื่องปกติที่เด็กเขาสนใจกัน เป็นเด็กผู้หญิงปกติทั่วไปที่เพ้อถึงผู้ชายจากในโปสเตอร์ เป็นเด็กธรรมดาที่แย่งกันเข้าเว็บทั้งที่ไวไฟของโรงเรียนห่วยสุดๆ
ฉันไม่รู้หรอกว่าเด็กกิฟต์คนอื่นเป็นยังไง แต่นี่คือเรื่องราวเกี่ยวกับตัวฉันที่ก้าวเข้ามาอยู่ใน Gifted Zone แล้ว...
ฉันเป็นแค่เด็กธรรมดาๆคนหนึ่งที่เรียนอยู่ห้องกิฟต์ในโรงเรียนหญิงล้วนชื่อดังแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพมหานคร ย่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย คงร้องอ๋อกันแล้วใช่มั้ย :)
ฉันเป็นเด็กผู้หญิงธรรมดาที่ไม่เคยเรียนพิเศษมาก่อน คงไม่เชื่อกันล่ะสิ แต่ฉันไม่เคยเรียนพิเศษมาก่อนจริงๆ ตอนประถมปลาย ฉันอยู่ในระดับต้นๆของรุ่น พูดชื่อฉันไปใครก็รู้จัก ฉันตั้งใจมากๆในการอ่านหนังสือและฝึกฝนทำแบบฝึกหัด เรื่องนี้ต้องขอบคุณผู้ปกครองของฉันด้วยที่คอยสนับสนุน ซื้อหนังสือแบบฝึกหัดต่างๆมาให้ฉันทำ ฉันไม่เชื่อตัวเองหรอกว่าจะสอบติด เพราะเพื่อนๆของฉันทุกคนที่ไปสอบด้วยกันเรียนพิเศษมาอย่างหนักหน่วง และฉันเองก็เป็นคนที่เกลียดวิชาวิทยาศาสตร์มาก
ฉันไปสอบมาสองที่ โรงเรียนนี้ประกาศก่อน ฉันตกใจมากแล้วก็ดีใจมากเหมือนกันที่รู้ว่าตัวเองติด แล้วยังอยู่ในลำดับที่คาดไม่ถึง ถึงจะไม่ได้เป็น 50 ลำดับแรก แต่ก็ไม่ได้ห่างลำดับ 50 ไปเท่าไหร่นัก วันมอบตัวของที่นี่เป็นอะไรก็ตามที่อบอุ่นและน่ารักมาก เขาจะให้ผู้ปกครองเข้าหอประชุมไปฟังอะไรต่างๆนานา ส่วนเด็กนักเรียนก็ขึ้นไปตรวจระเบียบบนโรงยิม ตอนที่ฉันไปมอบตัว โรงยิมยังบูรณะไม่เสร็จ อาจารย์ที่ดูดุๆหน่อยจะออกมาพูดระเบียบการแต่งกายของโรงเรียนนี้ แล้วไล่ดูทีละคน ดูระดับผมว่ายาวเกินไปหรือไม่ ดูว่ามีหน้าม้าหรือเปล่า แล้วก็ตรวจพวกสร้อยคอกับสร้อยข้อมือ
หลังจากที่อาจารย์ตรวจและพูดอะไรเสร็จสรรพแล้วก็ปล่อย ตรงส่วนนี้ห้องอีพีกับห้องสอวน.จะลงไป ส่วนห้องกิฟต์ยังอยู่ก่อน พอคนลงไปหมดโรงยิม ก็มีรุ่นพี่ขึ้นมายืนล้อมพวกเราเป็นวงกลม ตรงส่วนนี้ฉันจำรายละเอียดอะไรไม่ได้มาก แต่จะมีพี่คนนึงที่ถือไมค์ สุ่มพวกเราออกไปแนะนำตัวบ้าง คุยเรื่องนู้นเรื่องนี้บ้าง แล้วก็ให้ยกมือว่าใครมาจากโรงเรียนอะไรบ้าง เชื่อมั้ยว่าพอพี่พูดชื่อโรงเรียนเก่าฉัน มียกมือกันอยู่แค่ 2 คน... แล้วก็มีแนะนำอาจารย์ที่จะสอนพวกเรา มีแจกของ นั่นก็คือดอกกุหลาบสีแดงกับริสแบนด์ ซึ่งของตรงนี้ก็แล้วแต่รุ่นที่เป็นคนจัดว่าจะเลือกทำอะไร
ระหว่างรอผู้ปกครองออกมาจากห้องประชุม พี่ก็จะชวนคุยเรื่องต่างๆ ทั้งเรื่องค่าย เรื่องเรียน เรื่องตึกที่ใช้เรียนเป็นปกติ ซึ่งม.1 จะแยกกับม.2 และม.3 ที่สำคัญก็คือ ตึกม.1 หรือตึกหนึ่งเนี่ย มีห้องน้ำอยู่แค่ชั้นล่างสุด แต่ห้องเรียนของฉันอยู่ชั้นบนสุด...
ผ่านมาไม่นาน อีกที่ที่ฉันไปสอบก็ประกาศผลพอดี ฉันมั่นใจมากๆว่าต้องไม่ติดแน่ แต่ฉันติด! มันคือความลำบากใจที่สุด ฉันรักโรงเรียนนี้ไปแล้ว อยากจะเรียนอยู่ที่นี่ไปแล้ว ฉันเลยเอ่ยบอกแม่ไปว่าฉันไม่ไปมอบตัว ไม่ไปสอบสัมภาษณ์ ฉันจะอยู่ที่นี่ และแน่นอน ฉันทะเลาะกับแม่...
เป็นวันที่เราทะเลาะกัน แม่แทบจะไม่ยอมคุยกับฉัน แต่นี่คือทางที่ฉันเลือกแล้ว ฉันเลือกแล้วที่จะอยู่ที่นี่ ถึงแม้อีกที่หนึ่งจะเป็นโรงเรียนที่ดีและกวดขันเด็กเก่งมากก็ตาม... เดิมทีโรงเรียนเก่าของฉันมีฉันติดกระดานหนึ่งตัวจริงเพียงคนเดียวในโรงเรียน แต่พอเรียนจริงๆดันมีไปเป็นสิบ
ฉันไม่เคยนึกเสียดาย แม้ว่าพอทุกคนจะรู้เรื่องนี้่แล้วเอาแต่บอกว่าฉันโง่ที่เลือกที่นี่และไม่ไปที่โน่น แต่ฉันยังยืนยันว่าฉันเลือกถูกอย่างแน่นอน...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in