มันเป็นวันธรรมดา มันไม่ใช่วันเกิดที่แท้จริงแต่เป็นวันที่บิลลี่ถูกส่งไปสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า นั่นเป็นความจริงทีเราทั้งสองต่างรู้ดีแต่ก็ยังให้ค่า ทำเหมือนมันเป็นวันพิเศษวันหนึ่งอยู่ดี บิลลี่ไม่ได้ควงใครในช่วงนี้ เหมือนเจ้าตัวจะตัดความสัมพันธ์ออกไปหมดทุกทีในช่วงใกล้วันคล้ายวันเกิด บิลลี่อัธยาศัยดี รู้จักคนโน้นคนนี้มากมายแต่สุดท้ายแล้วในตอนจบของวันคนที่ยังอยู่ด้วยกันก็มีแต่แฟรงค์ แฟรงค์หอบหิ้วเบียร์เดินเข้าห้องตามหลังร่างโปร่งสมส่วนที่รับผิดชอบถือแค่เค้กช็อคโกแลตหน้าตาเรียบ ๆ ขนาดสองปอนด เขานึกสงสัยทุกปีว่าทำไมบิลลี่ถึงเลือกจะไม่จัดปาร์ตี้และค่อนข้างจะเก็บวันนี้ไว้เป็นความลับ แต่อีกใจก็รู้คำตอบอยู่แล้วจึงไม่เคยได้เอ่ยถามออกไปสักทีแม้ว่าจะไม่แน่ใจว่าคำตอบที่ตนเองรู้นั้นถูกต้องหรือไม่ก็ตาม
ห้องของบิลลี่เรียบร้อยเป็นปกติและยังคงเต็มไปด้วยวรรณกรรมทั้งตามรสนิยมตัวเองและตามสาขาวิชาที่เรียนอยู่ แฟรงค์ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา เปิดเบียร์ดื่มก่อนโดยไม่รอ เราเป็นเพื่อนกันมานานมากพอจะโยนพิธีรีตองต่าง ๆ ทิ้งไปแล้ว
บิลลี่เดินออกมาจากห้องนอน ทำเป็นถอนหายใจแล้วมองมาด้วยสายตาเหมือนจะตำหนิว่าไม่รอ แฟรงค์ยักไหล่ เปิดอีกขวดยื่นให้ “เอ้า เอาไป”
นั่นทำให้อีกฝ่ายยิ้ม “ขอบใจ”
เค้กกับเบียร์ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปกินคู่กันแต่ใครสนกันล่ะ จะกินเค้กกับน้ำอัดลมธรรมดาทั่วไปก็คงเหมือนว่าเป็นงานวันเกิดของเด็กไม่เกินสิบขวบมากไปหน่อย บิลลี่ดื่มขวดแรกหมดโดยใช้เวลาไม่นานและไม่ต้องรบกวนแฟรงค์ในการเปิดขวดที่สอง สาม และสี่ เรานั่งพูดคุยกันเรื่อยเปื่อย แต่ก่อนจะเมาเกินไปแฟรงค์ก็หยิบกระเป๋าสตางค์ตัวเองออกมา เขาเก็บของขวัญวันเกิดบิลลี่ไว้ในนั้น
“
ตั๋วคอนเสิร์ต?” บิลลี่หรี่ตาเพ่งอ่านข้อความบนกระดาษที่แฟรงค์เพิ่งยื่นให้ตัวเอง อุทานกับตัวเองเสียงเบา “ว้าว… ฉันกำลังชั่งใจอยู่เลยว่าจะไปหรือเก็บเงินไว้ทำอย่างอื่น” เจ้าตัวพึมพำ ลุกขึ้นเอามันไปปักหมุดไว้บนบอร์ดที่มีกระดาษโน้ตเตือนความจำหลากสี
ตอนที่บิลลี่เดินกลับมานั่ง แฟรงค์รู้สึกว่ามันใกล้กว่าเดิม เขาได้กลิ่นน้ำหอมฌองปอลสุดคลาสสิคของบิลลี่เข้มกว่าเดิม แต่ไม่ได้อึดอัด ไม่เป็นไร
ขวดที่แปด ขวดที่เก้า ขวดที่สิบ
บิลลี่ดื่มเบียร์เหมือนน้ำเปล่า เค้กพร่องไปสามส่วนสี่ แฟรงค์ไม่ค่อยชอบของหวานแบบนี้เท่าไหร่ กินไปได้สองสามคำก็วางส้อม นึกสงสัยว่ามันไปอยู่ตรงส่วนไหนในร่างที่เมื่อเทียบกันกับเขาแล้วก็ดูบางไปถนัดตานี่
ขวดที่เท่าไหร่ไม่รู้ หยุดนับไปตั้งนานแล้ว หยุดดื่มแล้วด้วย พรุ่งนี้เขามีคลาสเรียนตอนสิบโมงเช้า น่าเบื่อแต่ต้องไป รู้สึกว่าต้องควบคุมตัวหน่อยถ้าไม่อยากไปเผลอหาวในห้อง ผลักตัวเองให้ตกเป็นเป้าสายตาและเหยื่อสำหรับการเรียกให้ตอบคำถาม
บิลลี่ก็มีเรียน บางทีเขาอาจควรปรามให้อีกฝ่ายพอได้แล้ว แฟรงค์คิด หันไปกำลังจะพูดแต่บิลลี่ก็วางขวดเสียก่อน ขวดเปล่าน่ะนะ แล้วก็เอนตัวมาทางนี้มันเสียเฉย ๆ ช่วงคอพอดีกับไหล่อย่างกับต่อจิ๊กซอว์ ก่อนจะไหลตุ้บลงไปที่หน้าขาแทน แฟรงค์ตบแขนคนที่ดูเหมือนจะหลับไปแล้วอยู่พักใหญ่ จนเมื่อเหลือบเห็นว่านาฬิกาบอกเวลาใกล้ตีหนึ่งจึงได้ค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน หยิบขวดน้ำและกระปุกแอสไพรินมาวางเตรียมไว้บนโต๊ะใกล้ ๆ ใครบางคนไม่น่าจะไปเรียนไหวในวันพรุ่งนี้
ก่อนแฟรงค์จะเดินออกไป เขาเหลือบมองร่างที่นอนพาดตามความยาวของโซฟาอีกที แล้วตัดสินใจยกมันขึ้นมา เอาไปทิ้งไว้บนเตียง ในตอนที่หลับเจ้าเด็กนี่ต่างกับตอนตื่นโดยสิ้นเชิง ไม่ได้มีรอยยิ้มประดับใบหน้า ไม่มีความอันตรายแอบแฝง ไม่มีอะไรแต่ในขณะเดียวกันก็เปิดเผยทุกสิ่ง นี่เป็นช่วงเวลาเดียวที่เขาไม่เห็นกำแพงอะไรเลย แฟรงค์เดาะลิ้น เอื้อมมือไปสางผมของบิลลี่ให้เข้าที่ เคยชินกับความเรียบร้อยทุกกระเบียดนิ้วของอีกฝ่ายเสียแล้ว เขานั่งเงียบบนปลายเตียง มือกระชับสายสะพายแล้วก็ปลดมันลงจากไหล่ คืนนี้นอนที่นี่ดีกว่า ไม่มีใครควรต้องอยู่ตัวคนเดียวในคืนวันเกิดและเช้าวันแรกของการเติบโตขึ้นอีกปี
.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in