เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวประสบการ์ณสอบเข้า BJM + เม้าท์มอยชีวิต dek62worldwarcat
who why how
  •        ฤดูกาลสอบ admission รอบ2 กำลังจะจบลง ทางเราก็มีที่เรียนแล้วค่า เย้!

           ก่อนอื่นเลยขอแนะนำตัวก่อนนะคะ พี่ชื่อแบมค่า อยู่โรงเรียนสาธิตย่านอโศก สาธิต มศว ประสานมิตรนั่นเอง เชื่อว่าม.6ทุกคนต้องมีโมเม้นต์ที่ว่าตัวเองจะเรียนอะไรดีวะเนี่ย เรียนต่อทางไหนดีที่จะไม่ทรมาณในอนาคต4 ปีข้างหน้า ใดๆก็ตามกว่าพี่จะเลือกได้ก็ผ่านน้ำตาและหยาดเหงื่อค่ะ(ตรงนี้ก็ต้องขอบคุณเพื่อนๆที่ช่วยชี้ทางสว่างให้ด้วยนะฮะ)

           ขอเกริ่นถึงชีวิตก่อนการสอบเข้าของอีนี่ก่อนละกันนะคะ (BJMพูดหลังparagraph นี้งับ ) ด้วยความที่ย้ายโรงเรียนมาตอนม.4นะคะการแบ่งระบบจากที่จะเรียนกว่า ศิลป์ภาษา วิทย์คณิตใดๆที่นี่เราจะเรียกว่าวิชาเอกค่ะ เช่นอย่างพี่ก็คือเรียนวิชาเอกจีน(ก็ในโรงเรียนตอนนี้ก็มีเอกอีกมากมายค่ะ ถึง 19 วิชาเอกด้วยกัน กรี๊ด)ด้วยความแบบโรงเรียนอัดภาษาจีนแน่นมาก แต่อาจารย์ชอบสั่งงานที่ต้องใช้ความ creative ตลอดเวลาทำคลิปบ้าง สัมภาษณ์คนจีนบ้าง ทำหนังสือบ้าง ทำmagazineก็มีใดๆทำละครก็มีค่ะ แล้วไม่ใช่แค่วิชาเอกเท่านั้น วิชาประวัติศาสตร์เอยวิทยาศาสตร์เอยยังสั่งงานเป็นคลิป TT (ทั้งนี้ต้องขอบคุณอาจารย์มากๆเลยงับกิจกรรมแน่นจริงๆ *ภูมิใจ*) เราเองพอได้ทำงานเยอะๆ ตัดต่อคลิป ตัดต่อเสียงเขียนบทความ แล้วรู้สึกว่าชอบทำมัน ทำแล้วมีความสุข ไม่ทุกข์เท่าตอนเรียนจีน (แค่เห็นข้อสอบpat7.4ก็คือสู่ขิต)ก็เลยตัดสินใจจะมาทางนิเทศเลยละกัน (ทั้งนี้ภาษาจีนก็ยังไม่ทิ้งนะคะภาษาสำคัญจริงๆ) ไปคุยกับแม่เสร็จ แม่ก็ตกลงโอเค ด้วยความที่แม่เองโอเคก็จริงแต่ท่านเป็นห่วงกลัวเราทิ้งภาษามากๆบวกกับเราก็อยากคล่องในภาษาใดภาษาหนึ่งมากกว่านี้ด้วยเลยตัดสินใจว่าเราจะเรียนนิเทศ-อินเตอร์ เพราะได้ทั้งภาษาและสิ่งที่เราชอบ

           คณะที่พี่เลือกคือ BJM นั่นเองค่า (ความจริงก็เล็งคณะสายนิเทศฯมหาลัยอื่นไว้ด้วยนะ) ปีพี่เป็นปีที่ไม่มีรอบพอร์ตและจัดรับเด็กสอบเข้าเพียงแค่ 2 รอบเท่านั้นทางนี้ก็ขอโฟกัสเพียงแค่รอบแรกที่ปีเด็ก62ได้สมัครเข้า BJM ละกันนะคะ

           การรับสมัครเรียกว่ายาวนานมากๆจำได้ว่าตั้งแต่ธันวาคมจนถึงกุมภาพันธ์เลยทีเดียว กรอกในเว็บไซต์นะคะ แล้วค่อยยื่นเอกสารจริงตอนสอบข้อเขียนอย่าลืมสอบ TOEFL IELTS TU-GET New SAT ด้วยเด้อ มาพูดถึงข้อเขียนตามตรงนะ นี่เป็นบุคคลที่ตามข่าวแต่ไม่ได้ตามอะไรขนาดนั้นแบบดูข่าวทั้งวันอะไรแบบนั้น  เราเลยกลัวการสอบข้อเขียนมากๆเลยเริ่มหาที่เรียนเขียน โดยการเลือกที่เรียนของพี่นะคะ 1.เวลาโอเค2.ราคาไม่แพง 3.เชื่อถือได้ เริ่มหาง่ายๆเลยค่ะ google นั่นเองส่วนตัวรู้อยู่แล้วว่าที่ไหนดังเพราะว่าเพื่อนเราเองก็จะเข้าอินเตอร์เหมือนกันก็พอได้คุยกันบ้างว่าที่ไหนดี แต่บางทีเราเองก็บอกไม่ได้หรอกใช่มั้ยหล่ะคะว่าเรียนที่นี่แล้วเราจะติด มันขึ้นอยู่กับเราเองทั้งนั้นที่ไหนที่รับประกันว่าติดแน่นอนก็ดูดีๆนะคะว่า จ้อจี้ไหม

           เราเลือกมาเรียนที่ English snack กับพี่ปุ้มค่ะสมัครเรียนด้วยความอยากประหยัดเงินแม่ เลยถือเอาเรื่องราคาเป็นหลักด้วยจะว่าไงดีอ่ะ ของดีไม่จำเป็นต้องแพงนะคะ TT อย่าหลงกลแนวพวกธุรกิจการศึกษานะทุกคนน ตอนนั้นเพจ English snack เพิ่งเปิดได้แปปเดียวเองไอ่เราเองไม่ได้เห็นหน้าครูด้วยนะ (พี่ปุ้มsaid ไม่อยากออกสื่อเยอะ)สมัครไปละ ไปเรียนจริงคือเราชอบเพราะปกติเป็นคนเรียนแล้วหลับ แต่อันนี้ไม่หลับเว่ย(แม่ร้องไห้ละ)

    (สำหรับใครที่กังวลเรื่องสอบยื่นคะแนนต่างๆ ไม่ต้องกังวล ทางEnglishsnackก็รับสอนนะ มีพี่ๆศิษย์เก่าจากธรรมศาสตร์หลายคนมาติวเข้าเยอะหรือสนใจอินเตอร์ธรรมศาสตร์แต่ไม่ใช่ bjm ก็มาปรึกษาได้)

           การเรียนคือให้เราเข้าพื้นฐานสิ่งที่เราต้องรู้เมื่อเป็นสื่อก่อนค่ะพอเราเข้าใจแล้วระบบความคิดในการเขียนเรียงความจะเป็นระบบมากขึ้น pattern การเขียนรายงานที่พี่ปุ้มสอนก็คือใช้ได้จริงและขอย้ำว่าไม่ง่วงตรงที่เราได้เรียนในความเม้าท์มอย เราต้องรู้รอบตัวใช่ไหมหล่ะคะการคุยเรื่องข่าวกับเพื่อนๆในคลาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในคลาสจะช่วยให้เรามีมุมมองการมองที่กว้างขึ้นสร้างสรรค์ขึ้น พี่ปุ้มจะมีโจทย์ให้เขียนเรียงความทุกคลาส จุกๆกันไปเรยจ้าใดๆก็ตามไม่sufferนะ มันสนุกเพราะวิธีการสอนและpattern ก่อนเขียนที่ใช้ได้จริงด้วยอ่ะใครชอบแนวได้ความรู้แต่ไม่เครียดมากก็คือไปสมัครเรียนได้จ้า(ขายของให้พี่ปุ้มหน่อย พี่เพิ่งเปิดที่เรียนเองง) เสริมนิดนึงว่าให้พยายามอ่านข่าวไปโต้กับเพื่อนนะเราจะต้องไม่เด๋อ และคุยกับคนในห้องรู้เรื่องนะ ใดๆคือเพื่อนในคลาสดีมากค่ะถ้าหล่อนมาอ่านก็อยากจะบอกว่าเจอกันในคณะ คิกค้าก

           วันสอบจริงคือ ทางคณะจะมีใบเขียนให้เราสองชุดคือข้อ1 และข้อ2คนละสีกัน หน้าที่เราคือ เตรียมสมอง เตรียมสติ เตรียมปากกา และลิปขวิดจ้า (ใครยืมเพื่อนข้างๆกลับบ้านไปพักค่ะ มันกวนเพื่อนลูก )เวลาที่ให้ 3 ชั่วโมง จุกๆ บอกตรงนี้เหมือนจะเยอะนะ แต่ถ้าไม่มีสติก็คือกลายเป็นเวลาน้อยเด้อ คำถามที่รุ่น dek62 เจอคือ

              ข้อแรก ให้ meaning public broadcasting service by unesco และก็ให้

              หน้าที่ของ thai pbs เช่นencourage public awarness, inform and educate people

              ถามเราสามอย่างในข้อเดียว (ปาดเหงื่อตอนทำอะ สู่ขิต)

              1. Why you need pbs?

              2. How pbs creating and containingdemocratic society?

              3. Whether thai pbs living upphilosophy of pbs?

              PBS = public broadcasting service

    จบไปแล้วสำหรับข้อแรก บอกเลยงง ตอนนั้นงงมากมันคืออะไรแต่ใดๆก็คือดิ้นหลุดมาได้จากจรรยาบรรณและหน้าที่สื่อที่พี่ปุ้มสอน*กราบเบญจางคประดิษฐ์ 3 ที*

              ข้อสอง Why fake news is big issue in 2019, how fakenews impact?

              ข้อนี้ชิวๆจ้า พี่ปุ้มสอน fake news มาแล้ว อิ___อิ เขียวชิวๆหลังจากกรีดเลือดให้ข้อหนึ่งมาเนิ่นนาน ก็จบปิดฟินาเล่สวยๆ

    ทำเสร็จไม่ถึง 3 ชั่วโมงค่ะ แต่ก็เกิน 2 ชั่วโมงนะ ก็ถือว่าโอเคอยู่ใดๆก็ตาม แนะนำให้ระหว่างเขียนให้กลับไปอ่านสิ่งที่เขียนออกมาด้วยว่าเขียนอะไรไปบ้าง ตรงประเด็นหรือไม่ เขียนเข้าใจไหม พอเขียนเสร็จให้อ่านทวนอีกสักรอบสองรอบด้วยนะ

           วันประกาศผลออกมาคือติดจ้า ได้สัมภาษณ์พี่ง่อยในการพูดภาษาอังกฤษมาก need help แบบสุดๆ พี่ปุ้มก็จะมาติวให้ (ฟรีด้วย)ในการเตรียมตัวคือ 1.ต้องรู้เกี่ยวกับตัวเราเอง เช่น งานอดิเรก ทำไมอยากเรียนbjm จบแล้วอยากเป็นอะไรข้อเสียและข้อดี 2.รู้เกี่ยวกับคณะ เช่น ไปดู coursesyllabus ว่าเราสนใจวิชาตัวไหน 3.รู้เกี่ยวกับเหตุการณ์บ้านเมืองและข่าวดังช่วงนั้น สิ่งที่เราควรทำคืออย่ากลัวที่จะพูด หาคนพูดภาษาอังกฤษ และก็ถามตอบกับตัวเองก็ได้นี่ไปติวกับพี่ปุ้มโดยการนั่งคุย นั่งหาตัวเราเองการสัมภาษณ์คือการถามเกี่ยวกับตัวเรา เราต้องเข้าใจตัวเองก่อนเราถึงสามารถอธิบายให้กรรมการเข้าใจถึงตัวตนของเราได้นี่เตรียมตัวใช้เวลาทั้งหมดสองวัน ใดๆก็คือขอกราบเบญฯ พี่ปุ้มอีกรอบ อ้ออย่าลืมทำพอร์ตไปนะ สำคัญจ้า

           วันสัมภาษณ์ ใครไปก่อนได้สัมภาษณ์ก่อน จะแบ่งเป็น 2-3 ห้องใหญ่ในห้องใหญ่ก็จะมีโต๊ะเล็ก อาจารย์หลายๆคนในนั้น คือเป็นสัมภาษณ์ 1-1ก็แล้วแต่โชคว่าเราจะได้ครูไทยหรือครูต่างชาติ ทางนี้ไปก็โดนคำถามมากมาย  แนะนำตัวเอง ทำไมอยากเรียนbjm (ตอบไปว่าอยากได้ภาษาและก็ชอบด้านนี้กรรมการก็ถามเพิ่มว่ามีเหตุผลที่ไม่ใช่ภาษามั้ย) ถ้าทะเลาะกับเพื่อนจะทำยังไง อยากได้ทุนมั้ยอยากเป็นอะไร สนใจเรียนวิชาอะไรใน bjm (ฉะนั้น ไปดู coursesyllabusซะ) พูดถึงผลงานตัวเอง2อย่าง(ทางนี้ได้เตรียมกับพี่ปุ้มไว้แล้วกับคำถามนี้ ชิวเลย) และยิบย่อย จำไมได้ละแต่ที่จำได้คือสนใจสมัครเรียน jc ไหม กรรมการที่พี่ได้คือคนไทยถึงกับพูดไทยกับเราเลยว่าดูจากพอร์ตแล้วควรเรียนภาคไทยมากกว่านะ มันไปสุดกว่า อยู่bjm อาจจะต้องขวนขวายเองถ้าอยากได้ลึกลงไปแบบกิจกรรมหนักๆแต่ใดๆก็ตามนี่ก็ยิ้มๆแล้วตอบอย่างยืนยันว่าหนูปรับได้ค่ะ หาความรู้เพิ่มเง้ก็ยิ้มๆตอบกรรมการไป *ยิ้มสำคัญนะจ้ะ*

           หลังจากนั้นผลก็ออกมาว่าเราติดจ้า ดีใจมากกกกกกก ภูมิใจกับตัวเองจะได้เรียนสิ่งที่ชอบแล้ว ใดๆก็ตามใครที่มีปัญหาตรงไหนสามารถทักมาถามได้นะ line:bamkasempipatทั้งนี้ทั้งนั้นขอบคุณที่อ่านกันมาจนถึงตรงนี้ เพราะมันยาวมากกกก  อ่านมาถึงตรงนี้ไม่ว่าจะเข้าหรือไม่เข้าก็ขอให้ได้มหาวิทยาลัยที่หวังกันนะคะ Passion changes everything J

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in