หนังสือภาษาอังกฤษที่เราอ่านทั้งหมดเมื่อปีที่แล้ว(2017) อยากเก็บบันทึกไว้เผื่อใครกำลังอยากเริ่มอ่านนิยายภาษาอังกฤษดู :)
(อันนี้เราดองมานานมาก เขียนตั้งแต่ต้นปี บางเรื่องอาจจะลืมรายละเอียดไปบ้างแล้วเลยเขียนแค่นิดเดียวห้วนๆ รอบหน้าจะเขียนให้ดีกว่านี้ค่ะ TT )
แนว Young Adult
Everything, Everything
เป็น YA เรื่องแรกที่อ่านเลยค่อนข้างประทับใจ ชอบหน้าปกมาก เรื่องเกี่ยวกับนางเอกที่ป่วยเป็นโรคแพ้อากาศออกจากนอกบ้านไม่ได้กับพระเอกที่เพิ่งย้ายมาบ้านข้างๆ ในหนังสือมีวาดภาพประกอบไดอารี่นางเอกด้วยเลยทำให้มันน่าอ่านขึ้น
The Sun Is Also A Star
คนแต่งเดียวกับ Everything, Everything บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันเดียว พระเอกเชื่อเรื่องโชคชะตา แต่นางเอกเชื่อเรื่องวิทยาศาตร์ สองคนที่ต่างกันมาเจอกัน อ่านแล้วขัดใจนิดหน่อยเพราะไม่ค่อยเชื่อในเรื่องความรักปุบปับแบบนี้
Tell Me Three Things
มี Anonymous ส่งข้อความมาหานางเอกที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ในโรงเรียน บทสนทนาที่ทั้งสองคุยกันน่ารักมาก อ่านไปเขินไป ชอบคอนเซปต์ Tell me three things I don't know about you มากๆ
What to Say Next
พระเอกเป็น Asperger's syndrome มีปัญหาด้านการเข้าสังคมกับนางเอกที่พ่อเพิ่งเสียชีวิตไป สองคนร่วมกันทำAccident Project ที่จะหาความจริงเรื่องอุบัติเหตุของพ่อนางเอก มีหักมุมด้วย เล่มนี้มีประเด็นครอบครัวค่อนข้างหนัก แต่พระเอกน่ารักมาก ฮืออ
The Problem With Forever
หนามากก เกือบห้าร้อยหน้าแต่ก็อ่านจนจบ พระเอกนางเอกเคยอยู่บ้านเด็กกำพร้าเดียวกันตอนเด็ก นางเอกเป็นคนพูดน้อย ไม่กล้าแสดงออกเพราะเรื่องราวในตอนเด็ก เป็นเรื่องที่เรื่อยๆ มีเบื่อๆบ้างมีดราม่าบ้าง
One Of Us Is Lying
มีเด็ก5คนในห้องแล้วมีคนหนึ่งในนั้นตาย เปลี่ยนมุมมองของทั้งสี่คนไปมาทำให้เราต้องพยายามเดาสุดๆว่าใครฆ่า ตอนแรกนึกว่าจะเน้นสืบสวนอย่างเดียว แต่มันก็มีเรื่องความรักด้วย แก้ปมได้ไม่ค่อยดี แอบผิดหวังนิดหน่อยเพราะเราคาดหวังไว้เยอะ แต่ก็เป็นเรื่องที่อ่านได้เพลินๆนะ
Eleanor and Park
เล่มนี้คนส่วนใหญ่ชอบ แต่เราไม่ค่อยชอบเลย มันไม่ค่อยสมเหตุสมผลในหลายๆแง่ อาจเป็นเพราะเราไม่ชอบนิสัยตัวเอกสองตัวเลย
Wonder
เป็นเรื่องราวของAugustที่เกิดมาหน้าตาผิดปกติกับการใช้ชีวิตในโรงเรียน มีการเปลี่ยนมุมมองไปมาระหว่างAugustกับเพื่อน เราชอบประโยคหนึ่งในเรื่องที่บอกว่า Everyone deserves a standing ovation once in a lifetime มากๆ แอบน้ำตาซึมตอนท้ายเล่ม
All The Bright Places
ประเด็นเกี่ยวกับ mental health กับ suicide ค่อนข้างเยอะ อ่านแล้วหดหู่ ร้องไห้หนักหน่วงแต่เราชอบเล่มนี้มากจริงๆ
Holding Up The Universe
คนแต่งเดียวกับ All The Bright Places นางเอกที่เป็นคนอ้วนกับพระเอกที่เป็นโรคจดจำหน้าคนไม่ได้ เล่มนี้ไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่
The Perks Of Being A Wallflower
เป็นไดอารี่ของเด็กคนนึง ได้รู้หลายด้านของวัยรุ่นเมกา มีทำเป็นหนังเมื่อหลายปีที่แล้ว
Words In Deep Blue
ชอบไอเดียLetter Libraryในเรื่องมากๆ เราชอบเล่มนี้นะ
They Both Die At The End
ชายสองคนที่จะตายภายใน24ชั่วโมงได้ตัดสินใจมาใช้เวลาร่วมกัน อ่านแล้วเสียวตลอดว่าเค้าจะตายเมื่อไหร่ มีหลายคนบอกว่าเล่มนี้สนุกแต่โดยรวมเราเฉยๆกับเรื่องนี้
A Short History Of The Girl Next Door
เกี่ยวกับตัวเอกที่ชอบเพื่อนข้างบ้านแบบข้างเดียว มีตอนที่ไม่คาดคิดมากๆ
The Geek's Guide to Unrequited Love
เหล่าgeekไปตามติ่งที่งาน New York Comicon แล้วพระเอกตั้งใจสารภาพรักกับนางเอกแต่ก็มีเรื่องไม่คาดคิด
Every Last Word
มีPoet’s Cornerเหมือนเป็นสมาคมลับ บทกลอนแต่ละอันคือดี
The Start Of Me and You
นางเอกที่พยายามฟื้นฟูตัวเองจากการสูญเสียโดยตั้งปั้งหมายไว้หลายๆอย่าง ได้มารู้จักกับพระเอกจาก Quiz Bowl
Aristotle and Dante Discover the Secrets of the Universe
เรื่องราวของ Ari กับ Dante เป็นแนวcoming-of-age Ariมีความโกรธฝังลึกข้างใน ความไม่เข้าใจตัวเอง Dante มีจิตใจงดงาม เราชอบบทสนทนาตอนสองคนคุยกัน
The Inexplicable Logic of My Life
คนแต่งเดียวกับเล่มบนเลย เล่มนี้รอพรีหลายเดือนมาก หน้าปกและชื่อเรื่องดึงดูดจริงๆ เราว่าคล้ายกับเล่มAristotle เกี่ยวกับความไม่เข้าใจตัวเอง การสูญเสีย ปัญหาครอบครัว แต่หนักหน่วงไม่เท่า อ่านได้เพลินๆนะ ให้ข้อคิดหลายอย่าง
Underground : The Tokyo Gas Attack and the Japanese Psyche
เราชอบเล่มนี้ของฮารุกิ มุราคามิมากที่สุด เกี่ยวกับเหตุการณ์ปล่อยแก๊ซพิษซารินในรถไฟใต้ดินของโตเกียว มีทั้งพาร์ทสัมภาษณ์ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากซารินและผู้ที่อยู่ในลัทธิโอมชินริเกียวที่เป็นผู้ก่อเหตุ พอรู้ทั้งสองแง่มุมทำให้เราเข้าใจอะไรหลายๆอย่างมากขึ้น แล้วที่ทำให้เราอินมากกว่าเดิมคือเราอ่านเรื่องนี้ตอนไปญี่ปุ่น ตอนที่นั่งรถไฟใต้ดินผ่านหนึ่งในสถานีที่แก๊ซถูกปล่อยพอดี
Sputnik Sweetheart
รักสามเส้านิดหน่อย ผู้ชายไปชอบผู้หญิงคนนึงแล้วผู้หญิงคนนั้นก็ไปชอบผู้หญิงอีกคน แล้วตอนที่ผู้หญิงสองคนไปทำงานด้วยกันที่ต่างประเทศ อยู่ๆคนนึงก็หายตัวไปก็เลยช่วยกันตามหา เฉยๆกับเล่มนี้
After Dark
เรื่องราวของมาริกับเอริที่เป็นพี่น้องกันแต่นิสัยต่างกันมาก สลับเรื่องราวไปมา เฉยๆกับเล่มนี้อีกเหมือนกัน
How to Win Friends And Influence People
เล่มนี้เป็นเดอะเบสท์ของself-helpเลยแหละ เราว่าเทคนิคเค้าดีนะ อ่านไปไฮไลท์ไป แต่เพราะเราอ่านเล่มนี้แบบไม่ต่อเนื่องเลยไม่ค่อยได้อะไรมากเท่าไหร่
Nothing to Envy : Ordinary Lives In North Korea
อ่านแล้วเข้าใจชีวิตข้างในเกาหลีเหนือขึ้นเยอะ เป็นการสัมภาษณ์ชาวเกาหลีเหนือ มันไม่ได้เป็นแนวสารคดีเลย อ่านแล้วเพลินเหมือนอ่านนิยายอยู่ รู้ถึงความอดอยากข้างใน ความแตกต่างระหว่างชีวิตในชานเมืองกับในเปียงยาง ตลาดมืด การศึกษา การหนีออกจากนอกประเทศ อิทธิพลของประธานาธิบดี
Strange Weather In Tokyo
ความรักใสๆของเซนเซกับศิษย์ที่โคจรมาเจอกันอีก ฤดูใบ้ไม้ผลิกับการเริ่มต้นใหม่ อ่านได้แบบเรื่อยๆเพราะมันไม่ถึงสองร้อยหน้า
Hiroshima
หนังสือเก่า ฟ้อนตัวเล็กอ่านยากมาก เกี่ยวกับเหตุการณ์ทิ้งปรมาณูตอนสงครามโลกครั้งที่2ที่ฮิโรชิม่าโดยสัมภาษณ์ผู้ประสบภัย10คน เล่าทั้งเหตุการณ์ ณ ตอนนั้นและเรื่องราวของแต่ละคนหลังจากเหตุการณ์นี้
The Mystery Of Pantomime Cat
นักเขียนที่เราชอบ Enid Blyton เป็นคนแต่ง ซื้อมาจากงาน Big Bad Wolf เป็นแนวสืบสวนที่อ่านง่ายแล้วก็สนุกด้วย เหมาะสำหรับเด็กอ่าน
The Twins at St. Clare's
มันเป็นหนังสือสำหรับเด็ก เราอ่านของนักเขียนคนนี้ Enid Blyton มาตั้งแต่เด็กแล้ว เค้าใช้คำศัพท์ไม่ยาก เหมาะสำหรับว่างๆ คนที่อ่านได้เรื่อยๆ
100 Tricks to Appear Smart in Meetings
เล่มนี้ตลกแบบ irony สุด มันคือความจริงด้วยอ่ะ คุ้มกับทุกบาทที่เสียไป
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in