ประกันอุบัติเหตุของตัวเราเองจะลดหย่อนได้เฉพาะส่วนที่ให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล การทุพพลภาพ การสูญเสียอวัยวะ และการแตกหักของกระดูก นอกจากนั้น ก็มีประกันอุบัติเหตุของพ่อแม่ที่สามารถนำมาลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงไม่เกิน 15,000 บาทต่อปีต่อคน โดยมีเงื่อนไขทางภาษีดังนี้
- ต้องเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของพ่อและแม่
- พ่อแม่ต้องมีรายได้ทั้งปีภาษีของแต่ละคนไม่เกิน 30,000 บาท
- พ่อแม่ต้องเป็นผู้อยู่ในประเทศไทยครบ 180 วันในปีนั้นๆ
- แบบคุ้มครองพ่อแม่อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น สุขภาพ อุบัติเหตุ โรคร้ายแรง เป็นต้น
ประกันอุบัติเหตุมีกี่แบบ
ประกันอุบัติเหตุที่เรารู้จักกันส่วนใหญ่คือ
ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล หรือประกัน PA คือ ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองจากอุบัติเหตุเท่านั้น ซึ่งถ้าผู้เอาประกันภัยได้รับบาดเจ็บ สูญเสียอวัยวะ หรือในกรณีที่เสียชีวิต จะได้รับความคุ้มครอง เช่น ค่ารักษาพยาบาล เงินชดเชยตามวงเงิน และในบางกรมธรรม์ยังครอบคลุมไปถึงเงินชดเชยรายวัน ในกรณีที่นอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล นอกจากนี้ ใครที่เดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์เป็นประจำ ในบางกรมธรรม์ได้ขยายความคุ้มครองไปถึงอุบัติเหตุจากการขับขี่หรือโดยสารรถมอเตอร์ไซค์
อย่างไรก็ตาม มีประกันอุบัติเหตุประเภทอื่นๆ ที่เราอาจจะไม่คุ้นเคยไม่ว่าจะเป็น
ประกันอุบัติเหตุกลุ่ม ที่ใช้สำหรับการรวมกลุ่มกันอยู่แล้ว เช่น ข้าราชการ พนักงานบริษัท ไม่ใช่การรวมกลุ่มเพื่อทำประกันภัย แต่เป็นการรวมกลุ่มกันภายในองค์กร เพื่อมอบสวัสดิการให้กับพนักงาน หรือ
ประกันอุบัติเหตุสำหรับนักเรียน นิสิต และนักศึกษา ที่สถาบันการศึกษาจะเป็นผู้จัดทำ จะเน้นความคุ้มครองของนักเรียน นิสิต และนักศึกษา เหมาะสำหรับสถานบันการศึกษาต่างๆ อีกด้วย
ประกันอุบัติเหตุ มีแบบความคุ้มครองอะไรบ้าง
แบบ อบ.1 : จะมีความคุ้มครองให้เลือกซื้อได้ทั้งหมด 4 ความคุ้มครอง ได้แก่ การเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ การทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง, การทุพพลภาพชั่วคราวสิ้นเชิง, การทุพพลภาพชั่วคราวบางส่วน และการรักษาพยาบาล
แบบ อบ.2 : จะมีความคุ้มครองเพิ่มจาก อบ.1 คือ การสูญเสียนิ้ว การสูญเสียประสาทสัมผัส และการทุพพลภาพถาวรบางส่วน
หมายเหตุ : กรมธรรม์ประกันภัยสำหรับนักเรียน นิสิต และนักศึกษา จะมีเฉพาะแบบ อบ.1 เท่านั้น
ประกันอุบัติเหตุที่ไหนดี เลือกอย่างไร
อยากจะซื้อประกันอุบัติเหตุ แต่ยังไม่รู้ว่าควรเลือกซื้อจากอะไร เพราะมีหลากหลายบริษัทเหลือเกิน ที่เห็นชัด ๆ ก็คงจะเป็นอัตราเบี้ยประกันภัย แล้วถ้าเป็นด้านอื่น ๆ ควรเลือกจากอะไรดีล่ะ
- พิจารณาจากแบบความคุ้มครอง ระหว่างแบบ อบ.1 และ อบ.2 ว่าเราเหมาะสมกับแบบไหนมากกว่า
- พิจารณาจากเบี้ยประกันภัยระหว่างบริษัทประกันภัยต่าง ๆ โดยลองเปรียบเทียบกับหลาย ๆ บริษัท เพื่อให้แน่ใจว่าตรงกับความต้องการของตนเอง
- พิจารณาจากความน่าเชื่อถือ ฐานะ และวิธีการดำเนินงานของบริษัทประกันภัย
- พิจารณาจากความต้องการของตนเอง เพราะทุกคนต่างมีอาชีพ และวิถีการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกันออกไป การเลือกซื้อประกันภัยจึงขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบุคคล
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in