ในงานจุฬาฯวิชาการปีหนึ่ง ผมได้ไปชมงานของอักษรเอกปรัชญา แต่ละบูทเอาประเด็นน่าสนใจมาพูดให้เข้าใจง่ายและชวนคิดต่อมีบูธนึงพูดถึงความรู้สึกผิดชอบชั่วดีและอารมณ์ร่วม เพื่อนคนบรรยายถามว่าถ้าที่โจรฆ่าผู้ชายคนหนึ่งในประเทศห่างไกลแล้วลอยนวลจะรู้สึกยังไง ผมตอบตามตรงไปว่าเฉยๆเพื่อนจึงเปลี่ยนคำถามว่า แล้วถ้าผู้ชายคนนั้นเป็นพ่อของเราล่ะ 

“ความรู้สึกที่จะต้องเอาโจรชั่วคนนั้นมารับผิดให้ได้ก็จะมากขึ้นถูกไหมคะจุดอ่อนของสังคมใหญ่มันอยู่ตรงนี้แหละค่ะจำทำอย่างไรให้ความรับผิดชอบของคนอื่นไกลเปรียบเหมือนเป็นธุระของเราด้วย”

ฉันใดก็ฉันนั้นครับ วันหนึ่งมีเพื่อนเอาข่าวมาบอกในกรุ๊ปแชตว่าไปดูหนังเรื่องหนึ่งมาก ความพีคคือเป็นเรื่องราวของวงดนตรีญี่ปุ่นจริงๆ ที่เขาเรียนจบทันตะกันมาดูแล้วได้กำลังใจมากเว่อร์ เราเองก็พลอยมีอารมณ์ร่วมไปด้วยตั้งธงไว้ว่ายังไงก็จะต้องไปดูให้ได้ ถึงตัวอยู่ต่างจังหวัดแต่ใจอยู่ที่โรงหนังเฮ้าส์แล้วจ้า

ว่าแล้วเควสการบินข้ามภาคและดั้นด้นมาดูหนังเรื่อง KISEKI : Sobito Of That Day หรือ GReeeeN 4 ทันตะหัวใจดนตรีก็เริ่มขึ้นในคืนสุดสัปดาห์ ตัวหนังเป็นเรื่องประวัติของวงดนตรีวงหนึ่งที่เริ่มด้วยสองพี่น้องลูกนายแพทย์ทั้งคู่มีแพชชั่นและความรักในดนตรีมาก (ซึ่งขุ่นพ่อไม่ปลื้ม) แต่ก็มีการตัดสินใจดำเนินชีวิตแตกต่างกัน คนพี่เลือกที่จะยึดมั่นในเสียงของตัวเองตั้งมั่นตามฝันให้จริงจังมากที่สุด ในขณะที่คนน้องเลือกที่จะใช้วิธีประนีประนอมตั้งใจสอบเข้าแพทย์โดนที่ยังแอบเล่น/ฟังดนตรี อยู่เรื่อยๆ จนในที่สุดก็สอบติดคณะทันตแพทย์ (ดรอปลงมาจากหมอนิดนึง) น้องและเพื่อนจึงฟอร์มวงขึ้นเล่นในงานประกวดน้องใหม่แบบขำๆ แต่เพลงดันไปเข้าตาพี่ชายที่มีเส้นสายกับค่ายเพลงเข้า ทำให้วงดนตรีสี่ทันตะนี้ก้าวไปไกลเกินความตั้งใจอยู่มากทีเดียว

น้องชาย (พระเอกของเรื่อง) หนึ่งคน สองบทบาท

สำหรับตัวพลอตหลัก บอกได้เลยว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเชยและตามสูตรมาก ซึ่งก็เข้าใจได้เพราะมัน based on true story และบางที่ชีวิตจริงมันก็ยิ่งกว่านิยายเชยๆ ซักเรื่องซะอีกแต่ถึงกระนั้นผมก็ว่าควรจะมีวิธีเล่าให้ได้น่าสนใจกว่านี้ซึ่งข้อเสียใหญ่ข้อนี้ก็ได้ถูกชดเชยด้วย งานภาพที่สวยคลาสิกสไตล์ญี่ปุ่นการถ่ายบ้านเมืองเขาทำได้มีสเน่ห์ดีมาก มีลูกเล่นตรงไอร้อนเวลารถไฟพึ่งจะวิ่งผ่านหรือการถ่ายบันไดมุมสูงอารมณ์ your name ก็ดีเพลินตาดีครับ อีกสิ่งหนึ่งที่ประทับใจมากๆ คือเพลงประกอบ ครับทั้งเพลง Koe Michi แล้วก็ Kiseki

มีอีกสองประเด็นที่โดนใจผม เรื่องแรกคือเรื่องของความฝัน บางครั้งถ้าเราถือสิ่งที่ชอบเป็นสิ่งหลักเราอาจจะไม่ได้มีอำนาจเบ็ดเสร็จหรือต่อรองตามใจเราเพราะมันกลายเป็นสิ่งเดียวที่เรายึดเหนี่ยว เป็นชีวิตจิตใจ ใช้ทำมาหากินไปเสียแล้วสุดท้ายแล้วก็อาจจะไม่ได้ทำอะไรที่ตัวเองชอบอยู่ดี รู้สึกเป็นความจริงที่เอามา put in perspective แล้วก็รู้สึกจริงขึ้นมาเหมือนกัน

สุดท้ายคือความยิ่งใหญ่ของสัมพันธ์พี่น้องครับเป็นอะไรที่ผมอินมากๆรู้สึกสัมผัสได้ถึงความรักของพี่ชายที่มีต่อน้องในหลายโมเม้นจริงๆจุดที่พีคที่สุดคือวินาทีที่พี่ชายตัดสินใจหยิบแผ่น live video ของน้องไปขอร้องให้ค่ายเพลงช่วยเสียเวลาดูแทนเพลงของวงตัวเองที่ rearrange ใหม่ แบบฮืออออโคตรรักน้องเลย

ถ้ามองตามจริง หนังเรื่องนี้ก็จัดได้ว่าเพลนๆ ธรรมดาๆ นะครับแต่อย่างที่บอกไปในย่อหน้าแรกนะครับ พอมันมีเรื่องของของความรู้สึกร่วมรู้สึกใกล้ชิดของวิชาชีพเข้ามา ก็รู้สึกชอบหนังเรื่องนี้ขึ้นมาหลายระดับเลยครับ แต่มีสิ่งหนึ่งคลาสิกมากที่ได้จากหนังและเชื่อว่าทุกคนต้องคล้อยตามด้วยแน่นอนก็คือประโยคที่ว่า 

ถ้าพยายามต่อไปเรื่อยๆ สักวันมันก็สำเร็จ : )

บรรยากาศน่ารักๆในหนัง

คุณพ่อนายแพทย์สุดจริงจัง

เชื่อไหมว่าสิ่งนี้คือแบนเนอร์รับสมัครนักศึกษาของมหาวิทยาลัยโฮฮุเก๋ซะไม่มี

RANKINGS
1. Arrival
2. Nocturnal Animals
3. Sing street
4. Money Monster
5. Green Room
6. Kubo and the Two Strings
7. La La Land
8. Train to Busan
9. Your name
10. Trolls
11. Nerve
12. Where to Invade Next
13. Mr. right
14. Ghostbusters
15. The shallows
16. A Cure for Wellness
17. Kiseki
18. Bad Moms
19. Captain America: Civil war
20. Finding dory
21. The Conjuring 2
22. The VVitch
23. Lights out
24. February
25. High-rise
26. Me Before You
27. Equals
28. Blair Witch
29.Don't breathe
30. Bad Neighbors 2
31. Café Society
32. If Cats Disappeared form the world
33. Hardcore Henry

คลิกเพื่ออ่านรีวิวหนังเรื่องอื่นๆ :)

เครดิตภาพ
https://www.youtube.com/watch?v=Jmc5-Lq7pDk
https://www.youtube.com/watch?v=EIJXm4Jml2E
https://www.youtube.com/watch?v=EuIU2fYlgdc