ครั้งเเรกที่หยิบหนังสือเล่มนี้ เป็นเพราะชื่อเรื่อง...
‘การปรากฏตัวของหญิงสาวในคืนฝนตก’
มันทำให้นึกถึงอะไรที่ลึกลับ เเละน่าค้นหา...
พอพลิกด้านหลังอ่านคำโปรย ‘บางครั้งเเค่การมาสู่ของคนหนึ่ง อาจเปลี่ยนเเปลงอีกคนหนึ่งไปชั่วชีวิต...’
เท่านั้นเเหละเราซื้อเลย...
เเละตลอด 6 ปี ยังอ่านไม่จบ...
มาเจอกันอีกครั้งเป็นเพราะอาจารย์สอนเขียนบท เเนะนำให้ไปอ่านงานเขียนของ Murakami เพราะสไตล์บทหนังของเรา มีเเนวโน้มไปทาง Wonk ka wai + Woody Alan เเน่นอนว่ายังไปไม่ถึงเทพเจ้าทั้งสององค์...
เเต่ครั้งเเรกที่ลองอ่านหนังสือ Murakami เราผิดหวัง จำได้ว่าอ่านเรื่องสั้นเรื่องหนึ่ง ที่เเปลสำนวนโดยนักเเปลหลายท่าน เรางง อ่านเเล้วรู้สึกจับอะไรไม่ค่อยได้ (สงสัยตอนนั้นยังเข้าไม่ถึง) เพราะงั้น เวลาได้ยินชื่อ Murakami เลยไม่ค่อยดี้ด้าเท่าไร...
หลังจากรื้อชั้นหนังสือที่บ้านก็เจอ ‘มัน’ คลุกฝุ่นอยู่กับเล่มอื่นๆ เราเลยพาขึ้นเครื่องมา กทม. ด้วยกัน หยิบมันมาอ่านในระหว่างรอ เเละโดยสารรถไฟแอร์พอร์ทเรย์ลิ้งค์ไปทำงานกับเรียน เเต่ก็เพียงสถานนีเดียวเท่านั้น ทำให้เวลาที่เราได้รู้จักกับ ‘ฮาจิเมะ’ จึงมีไม่ถึง 12 นาทีโดยเฉลี่ย...
‘ฮาจิเมะ’ เป็นผู้ชายที่หมกมุ่น คำๆ นี้ทำให้นึกถึงพลังงานเชิงลบในตอนเเรก เเต่คำว่า หมกมุ่น ก็เเปลว่าจดจ่อกับบางสิ่งเสมอ เพราะฉะนั้น หนังสือเล่มนี้จึงบอกเล่าถึงช่วงชีวิต ตลอดอายุ 12 ถึง 37 ของฮาจิเมะ ที่เขาหมกมุ่นกับ ผู้หญิงที่ชื่อ 'ชิมาโมโตะ’ มาโดยตลอด
เขาพูดถึงเธอเสมอ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเเค่ไหน... เรารู้สึกเเบบนั้นเวลาอ่านไปเเต่ละหน้า ผู้ชายคนนี้รำพึงรำพันถึง ‘รักเเรก’ เปรียบเทียบเธอกับผู้หญิงที่ผ่านเข้ามาในชีวิต... เเรกๆ เรารู้สึกเเปลกเเยกกับฮาจิเมะ เหมือนเห็นพี่ชายข้างบ้านที่ไม่เคยพูดด้วย นอกจากพยักหน้าเเล้วส่งยิ้มให้เเก่กันตามภาษาเพื่อนบ้าน เเต่พอยิ่งอ่านไปเรื่อยๆ เรากลับรู้สึกว่า ‘ฮาจิเมะ’ กำลังนั่งรอรถไฟเเอร์พอร์ทลิ้งไปด้วยกันกับเรา...
ฮาจิเมะไม่ใช่ผู้ชายที่ดีเเละร้าย เหมือนจะเข้มเเข็งเเต่ภายในก็เปราะบาง ตัวเขาประกอบขึ้นด้วยความทรงจำที่มี ‘ชิมาโมโตะ’ เสมอ ทั้งเพลงเเจ็สที่ชอบ... เเผ่นเสียง เเนต คิง โคล... ลักษณะขาที่ไม่สมบรูณ์ของเธอ... ทำให้เรารู้สึกว่า ‘รักครั้งเเรกของผู้ชายคนหนึ่ง' มันมีพลังอย่างมาก...
Murakami บรรยายความจริงได้น่าตบ ทั้งเรื่องที่จับต้องได้อย่างไม่ปกติ เเละเรื่องเหนือจริงจนอยากสัมผัส... ทั้งความปรารถนาที่ดำมืดของผู้ชาย ทั้งความโดดเดี่ยวของคนหนุ่มสาว ผ่านตัวฮาจิเมะในวัยหนุ่ม ที่ไม่มีความสุขกับงานที่ทำ เเละพยายามเชื่อมต่อกับใครสักคน โดยใช้ช่วงเวลาที่เคยได้อยู่กับเด็กผู้หญิงที่ตนเองรัก เป็นเครื่องเยียวยาจิตใจ...
เล่าถึงอุดมการณ์ของนักศึกษาที่ต่อต้านระบบทุนนิยมเลือนหาย ในยามที่ฮาจิเมะกลายเป็นคนชนชั้นกลาง ได้เเต่งงานมีภรรยา มีลูกสาวสองคน มีบาร์สองเเห่ง มีคอนโดหรู มีบ้านพักต่างอากาศ มีรถBMW เขากลายเป็นคนประสบความสำเร็จในวัย 37 ปี จนกระทั่งได้พบกับ ‘ชิมาโมโตะ' อีกครั้ง...
‘การปรากฏตัวของหญิงสาวในคืนฝนตก’ เธอโผล่มาอย่างคาดเดาไม่ได้... เราพบว่า ‘ชิมาโมโตะ’ เป็นผู้หญิงที่ลึกลับมาก หากผู้ชายที่ชอบผู้หญิงลึกลับมีเสน่ห์คงจะชอบเธอ เเต่เรารู้สึกว่าเธอเหมือนหลุมดำ ที่กำลังดูดฮาจิเมะเข้าไปสู่อีกโลกหนึ่งเรื่อยๆ เเต่เธอก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกเลวร้ายอะไร เเค่ไม่ไว้ใจ...
เพราะในเรื่องบอกข้อมูลของเธอน้อย กลายเป็นว่าเราจึงรู้จักชิมาโมโตะ จากความคิดของฮาจิเมะเป็นส่วนใหญ่ เหมือนเฮียเเกมานั่งเล่าให้ฟังว่า รักเเรกของตนเองเป็นยังไง เเละร้องไห้เเกล้มเหล้า เวลาที่เธอหายไปเสมอ...
จะอะไรหนักหนากับผู้หญิงคนเดียว... เราขมวดคิ้วมองหน้าฮาจิเมะในกระดาษ เเต่พออ่านไปสักพัก เรากลับพบว่า ตนเองนั่งอยู่ที่เคอน์เตอร์บาร์เหมือนฮาจิเมะ กำลังรอชิมาโมโตะมาเยือนในคืนฝนตก หรือในคืนที่ไม่รู้อะไรว่าจะเกิดขึ้นบ้าง เมื่อผู้หญิงคนนี้มาเยือนอีกครั้ง...
เเละเราก็วางเรื่องของพวกเขาทั้งคู่ไม่ลง เเท้รถไฟจะจอดถึงสถานีที่ต้องลง...
การรอคอยอะไรบางอย่าง โดยที่ไม่รู้จะสิ้นสุดเมื่อไร... จึงเหมือนเป็นพลังในด้านลบที่ทำให้ผู้ชายคนนี้ ยังมีความหวังว่า จะได้รักกับผู้หญิงที่ตนเองคิดถึงมาโดยตลอด... คืนไหนที่ชิมาโมโตะมาหาฮาจิเมะที่ที่บาร์ บทสนถนาของทั้งคู่จะย้อนความหลัง ทั้งความนึกคิด ความสนใจที่เเลกเปลี่ยนกัน เหมือนคนที่จูนกันติด บรรยากาศก็คลอไปด้วยเสียงเพลงเเจ็ส โคตรจะโรเเมนติก จนเราอยากจะปิดหนังสือเล่มนี้ซะ... หยุดมันไว้ เพราะเรารู้ว่า มันต้องจบไม่สวยเเน่ๆ
ซึ่งนั้นก็จริง...
ฮาจิเมะรู้ตัวว่าอยากอยู่กับชิมาโมโตะ กระทั่งทิ้งการงาน ทิ้งภรรยา ทิ้งลูกสาวสองคน ทิ้งทั้งเงินทั้งบ้าน ทั้งรถก็ทิ้ง... เเต่การตัดสินใจของเขาไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบ Murakami สร้างโลกใบนี้ให้ฮาจิเมะถูกเติมเต็มได้ด้วยชิมาโมโตะคนเดียว เเต่ถ้าพี่เเกทิ้งทุกอย่างไปหาเธอคนนั้นเลยง่ายๆ เรื่องก็คงไม่ทำให้เราต้องนั่งรถไฟ เลยไปจนสุดสถานีกว่าสองเที่ยวในวันหยุด...
เมื่อจินตนาการที่อยากสัมผัสตัวชิมาโมโตะเป็นจริง ฮาจิเมะก็เเทบฉุดตนเองไม่อยู่ เหมือนกับคนในถ้ำเห็นเเสงสว่างเป็นครั้งเเรก พวกเขาเเสบตา บ้างก็ตาบอด... ฮาจิเมะคว้าโอกาสนั้นมา เเต่ชิมาโมโตะกลับหายตัว...
นางหายไปอีกเเล้ว... เราเอามือเกาหัวกับความลึกลับของชิมาโมโตะ เธอหายไปจากเขาเสียดื้อๆ โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย ทิ้งไว้เเต่ฮาจิเมะที่เสียศูนย์ เเถมเมียยังรู้ว่านอกใจอีก... นำไปสู่ความปลงใจในเเบบของเขาเอง...
เราปิดหนังสือ เเล้วถอนหายใจ... ชีวิตของฮาจิเมะไม่ใช่เรื่องแปลกพิสดารอะไร เป็นคนปกติที่ปล่อยวางจากรักเเรกไม่ได้ หมกมุ่นกับความทรงจำที่มีความสุขในขณะนั้น ทว่าเขาดำรงชีวิตเช่นคนในสังคม ทำงาน มีครอบครัว เลี้ยงลูก เเละกดเก็บความปรารถนาอะไรบางอย่างไว้เสมอ ดำเนินชีวิตเหมือนพระอาทิตย์ที่ขึ้นทางทิศตะวันออก เเละตกในทิศตะวันตก... เช่นชื่อหนังสือนิยายนั้นเอง
Murakami หยิบเรื่องคนธรรมดาในโลกสมมุติ มาเล่าให้เปลือกตาของเรากระเตื้องขึ้น ฉุดคิดถึงพลังเเห่งความปรารถนาที่ถูกซ่อนเอาไว้ เเม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไร จนกระทั่งถึงคราวที่มีบางสิ่งมาผลักให้มันตื่นขึ้น ผลลัพธ์จึงเป็นเรื่องที่ไม่อาจคาดเดา... เหมือนกับฮาจิเมะที่เจอกับชิมาโมโตะอีกครั้ง ทั้งที่คิดว่าจะไม่ได้เจอกันอีกเเล้ว...
ใครจะรู้... ฮาจิเมะอาจเป็นคนที่ร่วมโดยสารรถไฟฟ้าขบวนเดียวกับเรา...
หรืออาจเป็นเราเอง ที่เป็น ‘ฮาจิเมะ’ อย่างไม่รู้ตัว...
#รีวิวหนังสือ #JustRead
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in