Pairing: Hwang Minhyun x Kim Jonghyun
Rating: Mature
ดวงตากลมโตมองมือของตนหยิบเศษกระจกเกลื่อนกลาดตรงหน้าอย่างใจเย็น เขาไม่ลังเลที่จะจรดแก้วคมบนผิวเนื้อและลงน้ำหนักจนหยาดโลหิตสีสดไหลซึมแทบทะลักออกจากปากแผลกว้าง กว้างยิ่งขึ้นเมื่อเขาลากมันผ่านข้อมือที่เป็นแหล่งรวมเส้นเลือดใหญ่และหยุดที่ท้องแขนเนียน
คิดว่ายังไม่พอ เขาทำเช่นนี้กับแขนอีกข้าง เลือดที่ไหลออกจากร่างมากมายจนน่ากลัว ไม่สิ เขาไม่กลัว สิ่งที่เขากลัวที่สุดกำลังจะตามกลิ่นเลือดของเขามาต่างหาก...
ข้างนอกอาจตกใจไม่น้อยที่พลันท้องนภาแปรเปลี่ยนเป็นสีดำ คาดว่าคงจะรู้ตัวในไม่ช้าว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้น
"เปิดเดี๋ยวนี้!"
เสียงทุบปึงปังกับประตูโบสถ์เก่าที่เขาอาศัยพักร่างจากอาการบาดเจ็บดังขึ้น ปกติแล้วประตูแค่นั้นไม่อาจขัดขวางสายเลือดแห่งสรวงสวรรค์ได้
เสียงพื้นรองเท้ากระทบหินอ่อนมาหยุดตรงหน้า ปลุกเขาให้ตื่นจากภวังค์ดำมืด ความเจ็บปวดรวดร้าวในคราแรกค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นอาการชา ราวกับว่าร่างของเขาได้ล่องลอย
ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่า เขาไม่ได้ล่องลอย แต่กำลังถูกมือที่มองไม่เห็นฉุดดิ่งให้จมในธาราแสนมืดมิด...
"เสียงข้างนอกนั่นน่าหนวกหูเสียจริง"
เพียงแค่ได้ยินเสียงทุ้มกังวานของชายผู้มาใหม่ เหล่าวิญญาณก็พากันกรีดร้องโหยหวน นั่นยิ่งทำให้คนที่ทุบประตูอย่างบ้าคลั่งภายนอกโบสถ์ออกแรงทุบหนักกว่าเดิม พลางส่งเสียงตะโกนกร้าวเรียกชื่อของเขา
ดวงตาอ่อนแรงปรือมองชายหนุ่มร่างสูงที่นั่งอยู่ตรงหน้า ก่อนจะหัวเราะกับตนอย่างอ่อนแรง
ใบหน้าหล่อเหลาไม่ต่างกับรูปสลักแห่งเบื้องบนเหยียดยิ้ม เรือนผมสีปีกกาตัดกับสูทสีขาวที่จงใจสวมใส่เพื่อประชดประชันผู้เป็นบิดาขับให้ชายผู้นี้ดูงดงามจนไม่อาจละสายตา
"ใจกล้าไม่น้อย..." รู้ตัวอีกทีร่างสง่าก็ขยับมาใกล้มนุษย์ตัวน้อยซึ่งรายล้อมไปด้วยกลิ่นคาวคลุ้งของเลือด สัมผัสร้อนแตะที่ปลายคางของเขา เชยขึ้นมาสบกับดวงหน้าสมบูรณ์แบบตรงหน้า "ความรักทำให้มนุษย์โง่งมเสมอ เจ้าว่าจริงไหม?"
นัยน์ตาสีแดงฉานจับจ้องเขาไม่วางตา
หากแต่คนที่ชินชากับความงามนี้อย่างเขากลับไม่รู้สึกรู้สาเท่าใดนัก ด้วยรู้ดีว่ากุหลาบงามมักจะเต็มไปด้วยคมหนาม
ไม่ว่าจะเป็นกุหลาบสีแดงหรือสีขาวก็ตาม
"ข้าควรจะขอบคุณพวกโง่เง่านั้นด้วยสินะ..." ลมหายใจร้อนผ่าว ร้อนเกินไป กระทบกับผิวแก้มของเขา สะดุดสุดตัวเมื่อปลายลิ้นสากลากไล้ตั้งแต่ปลายคางจรดกับขมับที่ปรากฏบาดแผลจากการต่อสู้ก่อนหน้านั้น มนุษย์หนุ่มหลับตาลงพลางหลบหนีจากสัมผัสอุกอาจ สติที่เลือนลางทำให้เขาเผยโอกาสปล่อยให้อีกฝ่ายเล่นสนุกกับร่างกายของเขาเต็มที่ "ที่ทำให้คนหัวดื้ออย่างเจ้า... กลับมาหาข้าอย่างเต็มใจ"
เสียงตะโกนกร้าวจากด้านนอกค่อยๆแผ่วเบาลงเรื่อยๆ
เช่นเดียวกับความตายที่ส่งเสียงกระซิบทักทาย หยอกล้อ และบดเบียดจุมพิตลึกล้ำบนริมฝีปากเยียบเย็น ช่างจาบจ้วง รุกเร้า คล้ายจะกลืนกินทุกลมหายใจ
"เจ้าจะเป็นของข้า... ชั่วนิรันดร์"
เฮือก!
ดวงตากลมโตเบิกกว้าง นัยน์เนตรงามสีรัตติกาลพร่างพราวด้วยหมู่ดาวสั่นไหว ความเจ็บปวดแล่นริ้วจนใบหน้าน่ารักเหยเกยามขยับกาย
ก่อนที่จะรู้สึกได้ว่า ในห้องสีขาวพิสุทธิ์แสนคุ้นเคยนี้ ไม่ได้มีแค่เขาคนเดียว...
เมื่อหันไปมองตามสัญชาตญาณจึงพบว่า ตัวเขาถูกจ้องมองด้วยสายตามิอาจอ่านความได้ของชายหนุ่มอีกคน เจ้าของเรือนผมสีสว่างซึ่งถูกจัดทรงอย่างเป็นระเบียบ บุตรแห่งสรวงสวรรค์ผู้ยิ่งใหญ่...
"ตกใจรึที่เป็นข้า"
ดวงตาเรียวคมกริบคล้ายใบมีดล้อมกรอบลูกแก้วสีนภา... กำลังสร้างความอึดอัดแก่เขาไม่น้อย
มนุษย์หนุ่มส่ายหน้า ราวกับถูกริดรอนลมหายใจ พลันนั้นเองร่างกายเขารู้สึกเหนื่อยจนต้องหอบหายใจ พร้อมกันกับอาการเจ็บแทบบ้าตรงแขนทั้งสองข้าง... ตำแหน่งเดียวกับบาดแผลก่อนหน้านั้น แม้ว่าตอนนี้จะไม่มีบาดแผลใดๆปรากฏให้ระคายตาก็ตาม
ดวงตาคู่สวยช้อนมองเจ้าของร่างสูงที่เขาแสนรักอีกครั้ง
"ช่วยดะ--"
"เจ้ากำลังเจ็บปวดงั้นรึ" เสียงทุ้มนุ่มที่แม้จะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉกเช่นปกติ แต่เขากลับสัมผัสได้ถึงความโกรธาที่น่ากลัวแฝงอยู่ "รักตัวกลัวตายเป็นแล้วสินะ"
หยดน้ำตาเอ่อคลอนัยน์ตาใสด้วยความหวั่นกลัวระคนเจ็บปวด
ทุกขณะที่ขายาวในกางเกงสีขาวก้าวมายังตัวเขา ความอึดอัดและทรมานค่อยๆไต่ระดับขึ้นจนร่างบอบบางนอนขดพลางหอบหายใจอย่างน่าสงสาร
มือเล็กที่กุมหน้าอกอยู่ถูกกระชากเต็มแรงจนร่างทั้งร่างประทะกับแผ่นอกกว้าง
"หะ หาย...ใจ...มะ-"
ริมฝีปากบางของมนุษย์ตัวน้อยถูกทาบทับบดเบียดด้วยอวัยวะเดียวกันของชายร่างสูง เก็บเกี่ยวเอาเปรียบร่างเล็กในอ้อมแขนอย่างไม่นึกจะใส่ใจว่าอีกฝ่ายกำลังทรมานแสนสาหัสเพียงใดเพราะความเอาแต่ใจของตน
รู้แต่มิใคร่จะสนใจ
แม้กระทั่งคำสั่งของผู้เป็นบิดาที่มอบไว้
เทวทูตรูปงามได้ทำให้มนุษย์ถือดียอมสยบใต้ร่างคราแล้ว... คราเล่า... ฝังสัมผัสเร่าร้อนให้ประทับบนเรือนกายนุ่มนวล เผื่อจะเตือนสติคนอวดดีให้รู้ตัวเสียบ้างว่าตนนั้นเป็นของใคร
ชายหนุ่มกำข้อมือผอมบางแน่นยามนึกถึงภาพของชายผู้นั้นที่มีใบหน้าเฉกเช่นกับเขาทุกอย่าง เว้นแต่สีผมและนัยน์ตา กำลังตะโบมจูบร่างไร้วิญญาณของมนุษย์หน้าโง่ ที่ตอนนี้กำลังสะอื้นไห้ในอ้อมอกของเขา
โกรธ แต่มิอาจทำสิ่งใดได้
ดวงตาเรียวคล้ายจิ้งจอกร้ายตวัดมองมายังเขา ราวกับเย้ยเยาะ
'น่าประทับใจเสียจริง น้องข้า'
เหยียดยิ้มยั่วโทสะ ชายเจ้าของนัยน์ตาสีชาดยกแขนปวกเปียกที่เปรอะไปด้วยหยาดโลหิตของร่างในอ้อมแขน กระชับมือเล็กของมนุษย์หนุ่มแล้วก้มลงจุมพิตอย่างแผ่วเบา
'จงฮยอน... จะเป็นของข้าตลอดไป...'
เขาเกลียดที่ความมั่นใจถูกทำลายอย่างไม่เหลือชิ้นดี เกลียดที่ความอ่อนแอของเขาผลักดันให้มนุษย์คนนี้กระทำในสิ่งที่โง่งมที่สุด
ยอมทำบาปอันใหญ่หลวง ยอมสละวิญญาณของตนให้ถูกจองจำในนรกชั่วกัปชั่วกัลป์ เรียกชายผู้นั้นขึ้นมาจากอเวจี
เพื่อช่วยเขา...
ถ้าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่การสละชีวิต... ความเสียสละที่บิดาชอบนักหนา คนๆนี้คงต้องถูกพรากไปจากเขาตลอดกาล...
"อย่า...โกรธข้า..."
สุรเสียงผะแผ่วดังลอดมาจากร่างในอ้อมกอดของเขา ผิวกายอุ่นต่างจากสองวันก่อนเบียดเสียดเข้าหาเขาคล้ายจะเอาใจ เอนใบหน้าหมดจดซบกับอกแกร่ง อาศัยเช็ดดวงตาที่เปียกปอนด้วยหยาดน้ำตา
"ข้าขอโทษ..."
บุตรแห่งสวรรค์ไม่เอ่ยคำใดตอบกลับ เขาเพียงแต่กระชับวงแขนตระกองกอดอีกฝ่ายเท่านั้น
"ข้ารักท่านนะ มินฮยอน"
นัยน์ตาสีท้องนภาวูบไหว หลุบต่ำมองกลุ่มผมสีเข้มของมนุษย์หนุ่ม ไม่รู้แม้แต่น้อยว่าตนแสดงสีหน้าเช่นไรออกไป
รู้แต่เพียงว่าตราบใดที่ลมหายใจเปราะบางของมนุษย์น่าสมเพชผู้นี้เป็นของสรวงสวรรค์ ไม่มีใครจะพรากมันไปจากเขาได้
ไม่มีวัน
End
? เลือกเรื่องนี้มาเปิดตัวในฐานะมินเจชิปเปอร์ค่ะ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ ?
? ถ้าใครเคยดูหนังเรื่อง Constantine จะคุ้นๆฉากนี้ ศาสนาคริสต์มีความเชื่อว่าคนที่ฆ่าตัวตายคือคนบาปหนัก จะต้องตกนรกเท่านั้น เลยยืมตอนนี้ของเรื่องมาและกลายเป็น os เรื่องนี้
? เราอยากลองเขียนเน้นพรรณนาโวหารแบบ(พยายาม)ไม่ใส่ชื่อตัวละครดู น่าจะจินตนาการไม่ยากว่าคนไหนมินฮยอน คนไหนจงฮยอนนะคะ (ถ้ายาก ขออภัยมา ณ ที่นี่)
? มันคือความกาวของเราเอง เราอยากแต่งฝาแฝดมินฮยอนมานานแล้ว แบบเป็นร่างนรกและร่างสวรรค์ ปกติจะเห็นแฝดนิสัยต่างกันในฟิค แต่นี่... ? น้องเจควรกุมขมับ
? ส่วนน้องเจสุดที่รัก เราชอบความแข็งแกร่งแต่ดูเปราะบางอะไรแบบนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยได้มนุษย์ตัวน้อยแต่ใจเด็ดคนนี้มา
❤️ สุดท้ายนี้มีอะไรติชมได้ที่ #anonymfics นะคะ ขอให้สนุกกับการอ่านค่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in