ชื่อเรื่อง ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ
ผู้เขียน Keigo Higashino
ผู้แปล กนกวรรณ เกตุชัยมาศ
สำนักพิมพ์ น้ำพุ
ราคา 290 บาท
ถึง คุณผู้อ่าน
ในที่สุดก็มีโอกาสอ่านหนังสือเล่มนี้ซักที ต้องบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งเล่มที่วางไม่ลง ถึงกับต้องพกติดรถไว้อ่านเลยทีเดียว ซึ่งหลังจากอ่านจบ มันเหมือนมีแรงขับเคลื่อนบางอย่างที่ทำให้เราอยากจะมาส่งต่อความรู้สึกที่มีต่อเรื่องราวของคุณนามิยะ และสำหรับใครที่ยังไม่เคยอ่าน หรือ ลังเลว่าเล่มนี้น่าสนใจมากน้อยแค่ไหน ลองอ่านเรื่องย่อคร่าวๆดูก่อน..
ท่ามกลางยามราตรีคืนหนึ่ง หัวขโมยสามคนได้ก่อเหตุและเข้าไปหลบซ่อนที่บ้านร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งก็คือ "ร้านชำนามิยะ" จู่ๆก็มีจดหมายลึกลับสอดเข้ามาทางช่องประตู มันดูเป็นจดหมายขอคำปรึกษาจากเจ้าของร้านชำธรรมดาๆ หัวขโมยทั้งสามจึงนึกสนุกและสวมรอยเขียนจดหมายตอบซะเอง แต่แล้ว จู่ๆจดหมายที่พวกเขาเขียนตอบก็หายไป และ แทนที่ด้วยจดหมายฉบับใหม่ ไปๆมาๆจดหมายที่ว่านั้น เป็นจดหมายที่ถูกส่งมาจากอดีตเมื่อ 40 ปีก่อน ทุกครั้งที่พวกเขาเขียนตอบกลับไป ก็จะมีจดหมายฉบับใหม่เข้ามาที่ช่องหน้าประตูทันที ดูเหมือนครั้งหนึ่งร้านชำแห่งนี้เคยมีชื่อเสียงเรื่องรับปรึกษาปัญหาทุกรูปแบบ และ ที่แห่งนี้น่าจะมี "กลไกบางอย่าง" ที่สามารถเชื่อมโยงมิติกาลเวลาและติดต่อบุคคลในอดีตได้ และคนที่น่าจะรู้ความลับของกลไกนี้ก็คือ คุณนามิยะ เจ้าของร้าน แต่ปัญหาคือ เขาจากโลกนี้ไปหลายสิบปีแล้ว! พวกเขาจึงพยายามค้นหาสาเหตุที่ทำให้ร้านชำแห่งนี้สามารถเชื่อมโยงกับอดีตเมื่อ 40 ปีที่แล้วได้นั่นเอง
เรียกได้ว่าเป็นพล็อตเรื่องที่น่าสนใจเลยหละ ผู้เขียนได้แบ่งเนื้อเรื่องไว้ 5 ตอนใหญ่ และ มีตอนย่อยๆอีก ในแต่ละตอนพูดถึงปัญหาของตัวละครนั้นๆ ซึ่งช่วงแรกของเรื่องจะดำเนินไปอย่างเนิบๆ แต่พออ่านผ่านซักสองบท เราจะถลำลึกไปกับเรื่องราวแบบไม่รู้ตัวเลย เนื้อเรื่องจะค่อยๆผูกปมทีละนิด และคลายปมแต่ละปมของเรื่องตามลำดับในตอนท้าย ซึ่งจุดนี้ ต้องขอชมผู้เขียนที่สามารถเชื่อมต่อเรื่องราวและตัวละครทั้งในอดีตและปัจจุบันได้อย่างลื่นไหล
สิ่งที่เราประทับใจหลังอ่านจบ อย่างแรกคือ เราชอบที่ผู้เขียนได้ใช้จดหมายเป็นตัวกลางเชื่อมต่อระหว่างโลกอดีตและปัจจุบันในการเล่าเรื่อง มันให้ความรู้สึกคลาสสิคเอามากๆ การกลั่นกรองความคิด ความรู้สึกผ่านการเขียน ซึ่งเราคิดว่ามันเป็นอะไรที่ีแสดงถึงความจริงใจอย่างหนึ่งนะ
อีกเรื่องที่ต้องพูดถึง คือเรื่องนีี้สะท้อนความเป็นญี่ปุ่นค่อนข้างเยอะ ในเรื่องจะมีการพูดถึงการใช้ชีวิตในยุคอนาล็อก-ดิจิตอล, สังคม, เศรษฐกิจ รวมถึงเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นจริงในอดีตของญี่ปุ่น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้มันทำให้เนื้อเรื่องมีความเรียล(Real) และสนุกมากขึ้นนั่นเอง
ฉากจบของเรื่องเป็นตอนจบที่เราชอบมากๆ ตรงนี้ขอเตือนก่อนว่าจะมีการสปอยล์เนื้อหา มันจะมีฉากที่หัวขโมยทดลองหย่อนกระดาษเปล่าลงช่องประตู จดหมายหายไปทันที และ ถูกแทนที่ด้วยจดหมายฉบับใหม่ซึ่งเขียนโดยคุณนามิยะ และเนื้อหาในจดหมายคร่าวๆประมาณนี้
" การที่คุณส่งกระดาษเปล่ามา เป็นเพราะคุณยังไม่มีแผนที่ชีวิตนั่นเอง ในเมื่อคุณมีกระดาษเปล่าในมือ ก็แสดงว่าคุณสามารถจะวาดแผนที่อย่างไรก็ได้ ทั้งหมดล้วนขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง คุณมีอิสระเต็มที่และมีความเป็นไปได้อย่างไร้ขีดจำกัดรอคุณอยู่ สิ่งเหล่านั้นเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก ผมหวังจากใจว่าคุณจะเชื่อมั่นในตัวเองและใช้ชีวิตอย่างเต็มที่เพื่อจะไม่ต้องนึกเสียใจภายหลัง "
การคลายปมของเรื่องว่าไคลแมกซ์แล้ว เจอการตอบจดหมายของคุณนามิยะส่งจบเรื่องมันคือขั้นสุด ซึ่งเนื้อความจดหมายปลุกทั้งความคิดหัวขโมยและความคิดของตัวเราเองด้วย เป็นเหมือนแรงขับเคลื่อนให้เดินหน้าทำสิ่งที่อยากทำให้สำเร็จ ขอบคุณคุณฮิงาชิโนะ เคโงะ ที่สร้างสรรค์ผลงานที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ และ แรงผลักดัน
เอาหละ เราสบายใจแล้ว ได้แชร์ความรู้สึกและการรีวิวหนังสือครั้งแรก และขอขอบคุณสำหรับคนที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ หวังว่าการบอกเล่าเรื่องราวของเราจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย เชื่อว่าหากคุณอ่านจบ คุณจะอิ่มเอมกับเรื่องราวของคุณนามิยะเหมือนที่เรารู้สึกอยู่ตอนนี้ ใครอยากพูดคุยเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ ทิ้งข้อความไว้ได้เลยนะ ขอบคุณ และ สวัสดี..
จาก GEMinite
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in