เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวนิยายฉบับคนชอบดองChadang
รีวิว เหรียญทองแดงปราบพิภพ (จบ)

  • เหรียญทองแดงปราบพิภพ
    ผู้เขียน มู่ซูหลี่
    ผู้แปล ใบไม้แดง
    ภาพ ซานหุน
    สำนักพิมพ์ มิเนอร์วา บุ๊ค

    เรื่องย่อ 

    เซวียเสียน เทพมังกรผู้ยิ่งใหญ่ดันประสบเคราะห์กรรมถูก ‘ ใคร ’ บางคนกระชากกระดูกสันหลัง และเอ็นออกจากร่างจนต้องระหกระเหินตามหาคนคนนั้นเพื่อเอาของ ๆ เขาคืน ระหว่างทางฟื้นฟูร่างกายก็หย่อนร่างลงยึดบ้านหลังหนึ่งเป็นที่อาศัย จากนั้นไม่นานเมือง ๆ นั้นก็มีเหตุการณ์ประหลาด ทุก ๆ ช่วงเวลาตีห้า ต้องมีชายหน้าซีดขาวมาสั่งอาหารเหมือนเดิมในทุก ๆ วัน จวบจนกระทั่ง เสวียนหมิ่น หลวงจีนชุดขาวพร้อมเหรียญทองแดงห้าเหรียญมาเยือน...


    ความรู้สึกหลังอ่าน (มีสปอยล์เล็กน้อยถึงปานกลาง)

             เรื่องของแท็กร้อน เหรียญทองแดงปราบพิภพ จำนวน 3 เล่มจบ (และเล่มพิเศษ 1 เล่ม// เสียงกระซิบ) เราเรียกว่าเกาะติดสถานการณ์อยู่ระดับหนึ่ง เพราะเป็นหนึ่งในคนที่ไม่ได้กดรอบพรี เนื่องจากตอนนั้นเห็นคนออกมาทักเรื่องการแปลเลยกลายเป็นคนตกขบวน คิดแบบใจเย็นว่ารอซื้อทีหลังละกัน แต่สุดท้าย 55555 

    ให้พูดความรู้สึกตรงนี้เลยคือ คุ้มที่ได้อ่าน ดีที่ซื้อมา 

               ตอนมีคนรีวิวว่าเนื้อหาถ้าชอบแนวลิ่วเหยา ไม่ได้หวาน หรือเน้นอะไรกับ NC เป็นเนื้อ (เกือบ) ล้วน คุณอ่านได้ ...มือข้าพเจ้า //คลิ๊ก//


    ท่านมังกรผู้ยิ่งใหญ่ ช่วยซนให้น้อยหน่อยได้หรือไม่

             เซวียเสียน มังกรที่มีอายุมานานมาก ๆ และแข็งแกร่งจนไม่มีใครแตะต้องได้ กลับโดนใคร บางคนกระชากกระดูกและเอ็นของเขาไปจนพิการ ร่างและวิญญาณก็ต้องแยกจากกัน ทำให้เขาต้องหากระดาษวาดยันต์พาวิญญาณบริสุทธิ์ที่คงของตนอาศัยในนั้นชั่วคราว ผ่านระหกระเหินมาครึ่งปี ก็พาร่างกระดาษที่บาดเจ็บของตนมาถึง บ้านสกุล ‘เจียง’ ที่ถูกไฟไหม้จนคลอกคนตายทั้งบ้าน หลงเหลือเพียงวิญญาณของคนเป็นลูกชาย เจียงซื่อหนิง ที่ยังมีห่วงสถิตติดที่อยู่เท่านั้น วิญญาณเจ้าของบ้านแม้ได้ร่างกายเป็นกระดาษ แต่นอกจากบ้านถูกยึด ตัวยังต้องออกไปซื้ออาหารกลับมาให้ท่านมังกรทุกเช้ามืด ราบรื่นมาหลายคืนจนหลวงจีนชุดขาวนาม เสวียนหมิ่น ปรากฏตัว และแซะพวกเขาทั้งคู่จากดงตะไคร่น้ำหย่อนใส่กระเป๋าติดตัวไปด้วย

          ทว่าจนแล้วจนรอด ท่านมังกร เซวียเสียน ก็ไม่อยู่เฉย ส่งร่างกระดาษบาง ๆ ของตนตามติดความวุ่นวายไปยังบ้านหลังหนึ่ง ลากพาทั้ง เสวียนหมิ่น และเจียงซื่อหนิง เขาสู่เส้นทางชะตากรรมที่บรรจบกันโดยบังเอิญนี้ไปด้วยกัน


    งานเลี้ยงมีวันเลิกรา ชาติหน้าใช่ว่าไม่มีวันพบเจอ

            หลัก ๆ แล้วความวุ่นวาย หรือเรื่องราว หรือจะเรียกคดีวิญญาณดี เอาเป็นว่ามีประมาณ 5 คดีวิญญาณ (ถ้าจำไม่ผิด) ที่ เซวียเสียนกับเสวียนหมิ่นเข้าไปเกี่ยวข้อง และคดีเหล่านั้นก็เชื่อมกับปัญหาใหญ่อย่างกระดูกมังกรของเซวียเสียน โดยมีคณะเดินทางเป็น หนึ่งหลวงจีน (ที่ต้องอุ้มมังกร) หนึ่งมังกร (พิการครึ่งร่าง) หนึ่งวิญญาณ (ที่มีร่างเป็นกระดาษ) หนึ่งลุง (ที่จำใจมา) และหนึ่งเด็กหนุ่ม (ที่ตาบอด) 5 คน (?) ไม่ปกติออกเดินทางร่วมกันโดยมีจุดหมายเป็นของตนเอง แต่พอผ่านเรื่องราวด้วยกันมาก ๆ เข้า ถึงการบรรยายจะดูไม่ได้ลงลึกในความรู้สึกของแต่ละคน (ตามนิสัยพระเอกนายเอก) แต่ก็รู้ว่าผูกพันกันมาก
                เวลาอ่านในแต่ละคดีหลัก ๆ ของวิญญาณแต่ละตอนจบลง เราจะรู้สึกแอบปลง และถอนใจตามไปด้วย อารมณ์ว่า...ชีวิตก็แบบนี้ละนะ เลยค่ะ (55555) เพราะสิ่งที่แต่ละตอนนี้ให้ และน่าจะเป็นสิ่งหลัก ๆ ที่ทั้งเรื่องต้องการสื่อ คือ

      สักวันหนึ่ง ชีวิตไม่สั้นไม่ยาวนี้ต่างต้องจากลา ชาติหน้าอาจได้พบเจอ เพียงแต่ชาตินี้อย่าให้อะไรได้รู้สึกติดค้างเสียใจ


    ด้ายแดงหนึ่งเส้นบาง ๆ ไม่สู้ใช้เชือกแดงหนา ๆ มาผูกข้อมือเสียเองล่ะ

               สำหรับความรักของทั้งสอง...เหมือนที่บอกข้างบนเลยค่ะ ไม่ได้หวาน แต่อบอุ่นเสมอที่มีคนคนนี้อยู่ข้าง ๆ ไม่รู้ว่ามันเริ่มตั้งแต่ตอนไหนเหมือนกันค่ะ คล้าย ๆ เป็นความเคยชินของทั้งสองคนโดยไม่รู้ตัว 

    เซวียเสียน เป็นมังกร ใช้ชีวิตมาหลายปี เป็นคนเปิดเผยตรงไปตรงมา และห่วงหน้าตาเป็นที่สุด ชอบแหย่คนตามอารมณ์ โดยเฉพาะแหย่พระเอกได้จะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ออกจะซน ๆ ทำอะไรตามใจตัวเอง แต่กลับเป็นมังกรที่ใจดีมาก ๆ ตนหนึ่ง เขาอยู่คนเดียว ไม่เคยคิดผูกสัมพันธ์กับใคร ส่วนหนึ่งเราคิดว่าเป็นเพราะเขาหลีกเลี่ยงความเสียใจหากสูญเสียตามสัญชาตญาณ นั่นทำให้พอมาร่วมเดินทางกับกลุ่มเล็ก ๆ นี้ ไปสะกิดความรู้สึกผูกพัน ที่ไม่เคยสัมผัสของเขาออกมาโดยที่เจ้าตัวยังไม่รู้ตัวเลย

    เสวียนหมิ่น สูญเสียความทรงจำ จนต้องเขียนเตือนตนเองไว้ว่าที่เขาออกเดินทางครั้งนี้ เพื่อ ‘ตามหาคน’ แต่ด้วยนิสัยเดิมก็ชอบอยู่คนเดียว ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร สีหน้าไม่แสดงออก ชอบอดทนเก็บความรู้สึก แต่กลับไม่ใช่คนเย็นชา เขาเป็นคนใจดีมากเช่นกัน ไม่ใช่แค่กับนายเอก แต่เขายื่นมือช่วยวิญญาณทุกตน และไม่ได้ปฏิเสธคำขอร้องของใครเลย

         ดังนั้นเมื่อนายเอกมีปัญหาทุกครั้งที่รู้สึกยุ่งยากเกินรับมือ ก็จะมีพระเอกมายืนอยู่ข้าง ๆ อย่างถูกจังหวะและเวลาเสมอ จากนั้นคนสองคนที่มักจะปลีกตัวอยู่คนเดียว คงเริ่มหวั่นไหวขึ้นมา ว่ามีอีกคนที่อยู่ด้วยกันได้ เข้าใจกันได้แบบนี้ก็ไม่เลวเลย

    เป็นเหตุให้...ผู้เฒ่าบางคนเลยคิดจะขอคนหนุ่มมาอยู่กับตัวเองอยู่หลายหนทีเดียว (55555)


              เรื่องนี้บทบาทชาวคณะอาจจะไม่โดดเด่น แต่ด้วยตัวตนที่มีอยู่รอบ ๆ พระเอก นายเอกเสมอ ทำให้เราผูกพันธ์ไปด้วย พอถึงคราวต้องจาก บางทีก็แอบน้ำตาซึมไปเหมือนกันค่ะ แต่จบสุดท้ายถือว่าดีมาก ๆ และทุกคนก็ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง ปิดสวยสำหรับเราเลยจริง ๆ และด้วยมี 3 เล่มจบ รวมทั้งการบรรยายที่ไม่ได้เจาะนัยอารมณ์ลึก ๆ เลยทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของความรักที่ลึกซึ้งมาก ๆ ของพระเอกนายเอกค่อนข้างยาก แต่พออ่านจบสุดท้ายก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกแปลกใจที่พวกเขารักกันขนาดนี้...ก็น่าแปลกใจดีค่ะ ความรู้สึกเราประมาณนี้ทางใครแนวใครจับจองกับสำนักพิมพ์ได้เลยย


    เพ้อเจ้อนกดำ

                นกที่ทำเป็นขี้อ้อนตัวนั้นช่างน่าสงสาร 555555 เอ็นดูเป็นพิเศษ ผูกคอตายก็ไม่ได้ บินหนีก็ไม่มีแรงพอชีวิตตต 55555


    ภาพปกจากเพจสำนักพิมพ์ มิเนอร์วา บุ๊ค
    By Chadang 

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in