เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวนิยายฉบับคนชอบดองChadang
รีวิว + สปอยล์ เริ่มใหม่กับนายคงไม่เลวร้ายนัก เล่ม 5-6 (จบแล้วค่ะ)


  • รีวิว + สปอยล์ เริ่มใหม่กับนายคงไม่เลวร้ายนัก เล่ม 5-6 (จบแล้วค่ะ)

    ผู้แต่ง WU ZHE

    ผู้แปล โหมวโหม่ว

    ผู้วาด Mocon

    สำนักพิมพ์ Lavender Publishing

    เรื่องย่อ

    --- ขอยกไปความเดิมค่ะ ---


    รีวิวเล่มสามนี้มีสปอยล์มากนะคะ

    ดูแนวแบบสปอยล์ไม่มาก >> รีวิว เริ่มใหม่กับนายคงไม่เลวร้ายนัก เล่ม 1

    >> รีวิว เริ่มใหม่กับนายคงไม่เลวร้ายนัก เล่ม 2

    >> รีวิว เริ่มใหม่กับนายคงไม่เลวร้ายนัก เล่ม 3

    >> รีวิว เริ่มใหม่กับนายคงไม่เลวร้ายนัก เล่ม 4


    ความเดิมเริ่มใหม่กับนายคงไม่เลวร้ายนัก เล่ม 4

    หลังเจี่ยงเฉิงและกู้เฟยตกลงคบกัน พวกเขาต่างเหมือนได้มีใครอีกคนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่พร้อมฝ่าฟันปัญหาไปด้วยกัน เจี่ยงเฉิงต้องเสียพ่อแท้ ๆ ไปกะทันหันด้วยการตัดสินใจคิดสั้นเพียงชั่วครู่ ถึงอย่างนั้นพี่ชายแท้ ๆ ที่พบหน้ากันนับครั้งได้กลับเริ่มตามรังควาน เพื่อขอเงินเจี่ยงเฉิงไปใช้จ่าย โดยอ้างเรื่องพ่อมาบังหน้า เจี่ยงเฉิงตัดสินใจทำตามคำแนะนำของกู้เฟยในการจัดการเรื่องนี้ ทว่าพี่ชายคนนี้ไม่ยอมเลิกราง่าย ๆ เรียกรวมนักเลงฝั่งโรงงานมาดักหาเรื่องเจี่ยงเฉิงถึงที่พัก เมื่อคนรักเกิดปัญหาและเป็นเรื่องที่อาจฉุดรั้งอนาคตของอีกฝ่าย ‘อันธพาลน้อยแห่งโรงงานโลหะ’ ก็พร้อมจะลงมาแก้สถานการณ์นี้ด้วยตัวเอง!

    อุปสรรคคนนอกก็วุ่นวาย ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับกู้เฟยพอนานวันเข้าก็ทำให้เริ่มมองเห็น ‘รอยแผล’ ที่พวกเขาต่างพร้อมใจกันไม่แตะต้องเพื่อรักษาช่วงเวลาแห่งความสุขในขณะนี้ไว้ให้นานที่สุด แต่เมื่อรักมากจนมองเห็นกระทั่งอนาคตที่อีกฝ่ายยืนเคียงข้าง ต่อให้เจี่ยงเฉิงระมัดระวังไม่แตะต้อง ‘รอยแผล’ นั้นของกู้เฟย ก็ยังมีหลุดบ้างอยู่ดี เพราะช่วยไม่ได้จริง ๆ ที่เขาอยากพาอีกฝ่ายเดินข้างกันต่อไปข้างหน้า ถึงพยายามคิดหาหนทางทุกอย่าง เพื่อให้ภาพเหล่านั้นเกิดขึ้นจริง ไม่ใช่เพียงแค่นึกฝัน…


    ความรู้สึกหลังอ่าน (สปอยล์มากกกนะคะ)

            เริ่มใหม่กับนายคงไม่เลวร้ายนัก เราได้อ่านจบมาสักพักแล้วล่ะค่ะ และก็ตั้งใจจะเขียนเล่าพร้อมพยักฆ์คาบแมวเลย แต่รู้ตัวว่าถ้าได้เขียนเล่าเรื่องนี้ คือยาวมากกกกก แน่ ๆ เพราะจนถึงวันนี้เรายังเหมือนเอาจิตใจออกจากเรื่องราวของ เริ่มใหม่กับนายคงไม่เลวร้ายนัก ไม่ได้ ยังพูดคุยเนื้อเรื่องอยู่ตลอดเลยค่ะ ซึ่งในเล่ม 5-6 (ที่จบแล้วววนั้นน) เป็นจุดพีคของเรื่องในแบบที่…จบเล่ม 5 แล้วต้องขึ้นเล่ม 6 เดี๋ยวนั้น! เราเว้นระยะไม่ด้ายยย ไม่ขอเวลาฮีลใจ อยากรู้จุดเคลียยยโดยเร็ว 5555+ ก่อนชวน Talk ขอพูดคุยแบบไม่สปอยล์มาก (?) ก่อนสักหน่อยนะคะ


    ไปกับฉันเถอะ ฟ้าสว่างก็ออกเดินทาง

           หลังจากเล่ม 4 เราต้องลุ้นจนเกือบบทสุดท้าย ว่าการที่ชื่อกู้เฟยหลุดออกมาจนเจ้าตัวหนีหายไปนั้น สองคนจะจัดการปัญหากันในเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งแน่นอนว่าผลจากการคุยกันเพื่อเคลียร์เรื่องนี้ ก็ทำให้เราได้รู้ปัญหาของตัวละคร และอบอุ่นใจกับความรักของเขาทั้งคู่มากยิ่งขึ้น ทว่าความอบอุ่นทิ้งท้ายก็ยังไม่วายมีเรื่องราวให้ได้ลุ้นต่อในเล่ม 5 ด้วยการปิดแบบกำลังเปิดฉาก ‘บู๊’ กันเลยทีเดียว

       เพื่อปกเจี่ยงเฉิงจากพี่ชายที่ไปรวบรวมอันธพาลฝั่งโรงงานโลหะ กู้เฟยจำเป็นต้องเป็นคนจัดการปัญหานี้เอง เพราะอย่างไรเขาก็เป็น ‘อันธพาลน้องแห่งโรงงานโลหะ’ ที่ทุกคนต่างรู้แก่ใจดีว่า แม้กู้เฟยจะแพ้การแข่งให้กับหัวหน้าลิงคนนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่ากู้เฟยไม่มีฝีมือ และหากกู้เฟยเป็นคนออกหน้า นั่นก็หมายความว่าเจี่ยงเฉิงจะไม่ถูกพัวพันด้วยอำนาจมืดของเมืองนี้ คนรักของเขาสามารถเดินไปยังเส้นทางอนาคตได้อย่างตัวเบาสบายเช่นเดิม …เราประทับใจมากตั้งแต่ต้นเล่มเลยล่ะค่ะ (ความจริงก็กรีดร้องตั้งแต่คำพูดความในใจของเจี่ยงเฉิงที่ดึงมาเป็นชื่อพาร์ทแล้วค่ะ ฮือออ) กู้เฟยน่ะ ถ้าเพื่อส่ง    เจี่ยงเฉิงออกไปในที่ที่ดีกว่าแล้ว เขาพร้อมทำทุกอย่างสนับสนุนอีกฝ่ายอยู่เสมอเลย อย่างเรื่องรีบวิ่งมาช่วงเฮียเฉิงนี้ ก็ลืมแม้กระทั่งใส่เสื้อ มาตีคนทั้งที่พึ่งตื่นนอนไม่ทันล้างหน้า แบบบบบ ละถ้าทุกคนได้จับเล่ม 5 แล้ว ได้อ่านตอนช่วงที่พวกเขาเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยกันจะยิ่งรักคู่นี้ค่ะ กู้เฟยนี่คือ ดูแลทุกอย่าง ตั้งแต่เรื่องปลุกตื่นนอน อาหารการกิน ของบำรุงสมอง การทบทวนบทเรียนของเจี่ยงเฉิง จนถึงเข้านอน เขาจัดการทุกอย่างได้ดีมากกกก แถมระหว่างนี้ยังกลับไปดูแลแม่กับกู้เหมี่ยวได้โดยไม่บกพร่องเลย ยอมเขามากจริง ๆ ค่ะ และเอ็นดูสุด ๆ ด้วย เวลาเที่ยวหาของบำรุงให้เจี่ยงเฉิงกิน เพราะกลัวอีกฝ่ายป่วย เล่นเสียเรานึกถึงสมัยเตรียมสอบเข้าที่โดนอัดน้ำบำรุงสมองมาให้รัว ๆ …กู้เฟยกับเจี่ยงเฉิงพาเรากลับไปนึกถึงช่วงเวลานั้นเลยค่ะ เข้าใจความรู้สึกมากกก ยิ่งกู้เฟยไปร้านยาบ่อย ๆ แล้วเจออาจารย์ประจำชั้นป่วย เพราะคอยพะวงเรื่องเด็ก ๆ ยิ่งอบอุ่น …แต่ว่านะต้าเฟย อย่าลืมดูแลตัวเองด้วยยย

              ในช่วงเวลาเตรียมสอบที่เข้มข้น ท่ามกลางการดูแลอย่างดีของกู้เฟย เจี่ยงเฉิงที่เงยหน้านึกข้อสอบ หางตามองคนรัก ก้มหน้าท่องหนังสือ หางตามองคนรัก เหม่อลอยจดจำศัพท์ ตื่นจากพะวัง ก็เพราะเสียงคนรัก (แหมะ) เขาก็ยังไม่ลืมสังเกตความสามารถด้านการท่องหนังสือของกู้เฟย พร้อมทั้งมองหาหนทางที่พวกเขาทั้งสองคนและกู้เหมี่ยวจะออกไปจากเมืองนี้ไปด้วยกันได้ในอนาคต เจี่ยงเฉิงรู้ว่ากู้เฟยเป็นคนเก่งมีความสามารถ แค่ทบทวนเนื้อหาเป็นเพื่อนเขา อีกฝ่ายก็เริ่มจดจำคำตอบวิชาต่าง ๆ ได้มากขึ้นเรื่อย ๆ เฮียเฉิงจึงปรับแผนการเรียนตัวเองเงียบ ๆ เนียน ๆ (?) เพิ่มเวลาท่องหนังสือกับอีกฝ่าย หวังว่าอย่างน้อยวิธีการนี้ จะทำให้กู้เฟยสามารถทำคะแนนสอบ เข้าวิทยาลัยมาตรฐาน เพื่อมีเส้นทางในอนาคตเพิ่มบ้าง …เราแบบ ประทับใจมากจริง ๆ เฮียเฉิงไม่เคยหยุดคิดถึงความเป็นไปได้ต่าง ๆ เลย ไม่เคยยอมแพ้ แม้ว่าจะรู้ว่าหนทางข้างหน้าที่พวกเขาจะได้อยู่ด้วยกันจะยากลำบากสักเท่าไหน เขายังคิดเสมอ และเชื่อเสมอ ว่าภาพที่วาดไว้ว่ากู้เฟยจะอยู่เคียงข้างในวันข้างหน้าไม่ว่าจะอีกกี่สิบปี มันจะเกิดขึ้น …แม้ว่าในช่วงแรกนี้อย่างไรพวกเขาก็ยังจำไปจะต้องห่างกันไปก็ตาม


    แม้แต่ตอนที่นายลืมตาขึ้น ฉันต้องได้ยินแน่

    เล่ม 6 …นั่นสินะคะ พูดถึงเล่ม 6 ยังไงก็ต้องต่อเนื่องจากเล่ม 5 เนอะ

             รักทางไกล …สำหรับคู่นี้ ความจริงมีอุปสรรคเดียวที่น่ากังวล คือพวกเขาคิดถึงกันมากเกินไป รักและพะวงถึงอีกฝ่ายตลอดเวลา ทำให้ทุกครั้งที่กลับมาเจอกันและต้องแยกกันไปสถานที่เรียน ถึงมีความยากลำบากเหลือเกิน เราทั้งสงสาร ทั้งชอบ ฉากเวลาบอกลากันที่สถานีรถไฟ เจี่ยงเฉิงจะบอกให้กู้เฟยอย่าหันกลับมา เพราะเขารู้ตัวว่าตัวเองน่าจะกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ขณะเดียวกัน ในใจกลับร่ำร้องว่าไม่หันกลับมามองเขาสักหน่อยจริง ๆ เหรอ ส่วนกู้เฟยรู้จักเจี่ยงเฉิงดีมาก เขารู้ว่าคนรักของเขาอ่อนไหวง่าย จึงทำใจแข็งไม่หันกลับไปมอง เพราะกลัวอีกฝ่ายปล่อยโฮกลางสถานีแล้วตัวเองจะไม่อยากกลับบ้าน พานจะให้แยกกันไม่ได้เปล่า ๆ เราบอกได้เลยว่า คู่นี้เป็นคู่ที่รักและเข้ากันมาก ถ้าไม่ติดอุปสรรค อื่น ๆ พวกเขาคงไม่มีปัญหากับคำว่ารักทางไกล …ทว่าด้วยปมที่ เรา ๆ นักอ่าน ต่างก็รู้แก่ใจว่าทรงมาตั้งแต่เล่ม 3 และปมนี้เป็นปมที่ปะทุเล็ก ๆ เรียกน้ำย่อยมาแล้วในเล่ม 4 พอมันมาระเบิดลงในเล่ม 5 ส่วนตัวเรามีอาการ จุกอก ค่ะ คือ …มันเศร้า มันหน่วง มันพูดไม่ออก รู้สึกอย่างร้องไห้ตามตัวละคร แต่มันหน่วงใจมากจนร้องไม่ออก ทั้ง ๆ ที่เราเป็นคนที่อ่อนไหวมากเนื้อหาทำนองนี้มาก (จากเรื่องอื่น ๆ สภาพเราชอบบอกว่าร้องไห้ ด้วยอะไรแบบนี้บ่อยเนอะคะ แต่เรื่องนี้แบบ…) เอาจริง ๆ เราไม่รู้สึกโกรธ หรืออะไรกับสิ่งที่ตัวละครเลือกเลย เราเข้าใจทุกอย่าง เหมือนที่เจี่ยงเฉิงเข้าใจกู้เฟย ในเวลาเดียวกัน เพราะเข้าใจทุกอย่างถึงได้ทุกข์มาก ด้วยคำคำเดียวที่เจ็บปวดตามเจี่ยงเฉิง…ทำไมถึงพอแล้ว T-T …ซึ่งเรื่องนี้เราชอบนะคะ ที่ดึงนักจิตวิทยาเข้ามามีส่วนร่วมในการเยียวยา และเป็นคีย์แมนสำคัญในเล่ม 6 ที่คลายปัญหาให้เฮียเฉิง กู้เฟย และกู้เหมี่ยว แน่นอนว่าบทสรุปในเล่มหก อบอุ่นมากกกกกกกกกกกก สมกับการที่เราไม่คายความขมไว้จนจบค่ะ


    ฉันจะกล้าหาญให้ได้อย่างนาย

              ความรักของเจี่ยงเฉิงและกู้เฟย ปมปัญหาทั้งหมด มันเกิดจากการที่พวกเขาเข้าใจกันมากและรักลึกซึ้งต่อกันมากค่ะ พวกเขาต่างเป็นทั้งเพื่อน ที่พึ่งทางใจ คนรัก และคู่ชีวิต ที่หากขาดกันไปก็ไม่เหลือตัวตนอะไรของตัวเองอีกแล้ว ในวันที่คำว่า ‘ห่างไกล’ มาถึง ปัญหาเดียวที่เกิดขึ้น คือในวันที่ปมในใจถูกขยี้ และรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังลำบากเพื่อตนขนาดไหน เขาเจ็บปวดเกิดกว่าจะแบกรับและให้คนรักแบกรับความทุกข์นี้ไปด้วยได้ เลยเลือกที่จะขอ ปล่อยเขาไป โดยการหักดิบชีวิตและจิตใจของตัวเองและอีกฝ่ายในทันที …มันเจ็บมาก เข้าใจมาก แต่ก็เจ็บมากกก …ถามว่าคนโดนบอกเลิกเข้าใจไหม เราบอกเลยว่ายิ่งกว่าเข้าใจ และเพราะเข้าใจถึงยิ่งทุกข์ และเราก็ประทับใจสุด ๆ ที่เฮียเขาเลือกเดินหน้าหาหนทางรักษากู้เหมี่ยวต่อ แบบบบ โอ๊ย เด็กคนนี้จิตใจเป็นพระอาทิตย์สำหรับบ้านกู้จริง ๆ สาดแสงส่องหล้าอย่างที่สุด จะเหลือลุ้นก็คือทางกู้เฟยเท่านั้นแหละค่ะ เหลือรอให้เขาพร้อมคว้าคำว่า ‘กล้าหาญ’ กลับมาเคียงข้างเฮียเฉิงอีกครั้ง ซึ่งถ้าทุกคนได้อ่านจนถึงเวลานั้น น่าจะปลื้มปริ่มประทับใจกันเหมือนกะเราแน่ ๆ เลยค่ะ ;;---;;



           เริ่มใหม่กับนายคงไม่เลวร้ายนัก เป็นนิยายที่เราขอบคุณสำนักพิมพ์มาก ๆ ที่หยิบผลงานนี้ของคุณนักเขียนมาให้ได้อ่านกัน เพราะก่อนหน้านี้คือรอและลุ้นมากเลยค่ะว่าจะมีใครหยิบมาไหม เนื่องจากส่วนตัวแล้วเรามองว่า แนวค่อย ๆ เติบโตทั้งช่วงวัย จิตใจ ความสัมพันธ์ และปมปัญหานี้ ไม่ค่อยใช่แนวที่แมสเท่าไร (อย่างเรื่องเกิดใหม่เหมือนเดิม ฉันไม่จีบนายเอง สหายของเราก็ไม่ได้หยิบเพราะรู้สึกเรื่องเดินช้าและรายละเอียดเยอะ ขณะที่เราชอบมากกกกกกกกกก) ดังนั้นในวันที่รู้ข่าวว่าเรื่องนี้มีสำนักพิมพ์ LC เราดีใจมากจริง ๆ ค่ะ ถึงช่วงเล่ม 1-2 ในมุมของเราจะติดขัดเรื่องสำนวนการแปลจนอดเสียดายไม่ได้ แต่ในเล่ม 3 เป็นต้นไปคือดีมาก ๆ เลยค่ะ อ่านไหลลื่นสำหรับเรามาก และแน่นอนว่าขาดไม่ได้เลยคือคุณนักวาดที่ถ่ายทอดเรื่องราวเนื้อหาเรื่องนี้ผ่านปก เติบโตกันไปตามเนื้อเรื่องอย่างสวยงาม ดีงามมากจริง ๆ

           ถ้าให้พูดถึงนิยายเรื่องนี้เพิ่มเติม เด็กสองคนนี้เป็นความบังเอิญของเราในหลาย ๆ อย่างอยู่นะคะ ต้องบอกว่า เรื่องราวของนิยายไม่ใช่ทุกข์เรื่องที่นักอ่านอย่างเรา ๆ จะใช่ทางและอินไปเสียทั้งหมด แน่นอนว่าเนื้อหาของเรื่องราวทั้งใช่ทางและไม่ใช่ทางมีคุณค่า และมีจุดดึงดูดนักอ่านของนิยายเรื่องนั้น ๆ เองอยู่ ซึ่ง เริ่มใหม่กับนายคงไม่เลวร้ายนัก สำหรับเราจัดว่าเป็นเนื้อหาดราม่า ที่สายแฟนตาซีอย่างเราแต่ก่อนไม่ค่อยเคยจับค่ะ จนกระทั่งพบกับ Out of Tune จำได้ว่า ตอนอ่านเรื่องย่อเกี่ยวกับซีซี แอบรู้สึกกังวลว่ามันจะขมไหม จะใช่แนวใช่ไหม สุดท้ายเลยไปทดลองอ่าน และพบว่า อ่า เราโอเคกับแนวนี้ แถมยังชื่นชอบมาก ๆ ด้วย ดังนั้นตอนเห็นภาพของ Free Run หรือก็คือ เริ่มใหม่กับนายคงไม่เลวร้ายนัก จึงค่อนข้างสะดุดใจค่ะ ยิ่งได้มารู้ว่าเป็นใครเขียน ยิ่งรอคอยและรอลุ้นอยู่เสมอ จนในวันนี้ได้อ่านเรื่องนี้จบลง ยังขอใช้คำเดิม ซึ่งไม่รู้ว่ารอบที่เท่าไรแล้วว่าประทับใจมาก หากบางท่านติดตามในทวิตเตอร์เราอาจได้เห็นภาพเจี่ยงเฉิงกับกู้เฟยที่เราคอมมิชชั่นมาตั้งแต่ตอนอ่านเล่ม 3 เรากรี๊ดจริง ๆ ค่ะ ขอบคุณ คุณนักวาดมาก ๆ ที่ถ่ายทอดอารมณ์ตัวละครได้ขนาดนี้ ทุกอย่างตรงตามเนื้อเรื่องหมดเลย ยิ่งอ่านจนจบแล้วแบบว้าวกับตัวเองมาก รักคู่นี้ รักแบบไม่ขอป้ายยาเนียน ๆ แต่ขอขายตรงเลยค่ะ สำหรับใครมองหาแนว หรือกำลังอยากลอง ไป ลุยยย กะเรื่องนี้ได้นะคะ!

            ยังไม่ทันชวน Talk หมดไปแล้วกี่หน้ากันนะ 5555+ กลัวว่าจะเริ่มเยอะเกิดไป ยังไงเดี๋ยวมีไป       รีวิวฉบับเต็ม นะคะ << ยังจะมีเรื่องให้เล่าอีกเหรอออออ >> ใด ๆ ขอทิ้งไว้ที่ …


    >> ชวน Talk ตัวประกอบแบบหลายหน้ากระดาษ (สปอยล์มากกกกกกกกกกกกกกกก)

    Chadang


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in