เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวนิยายฉบับคนชอบดองChadang
โพสต์นี้มีเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสมกับเยาวชน รีวิว Walk on Water เล่ม 1 (ยังไม่จบ)




  • Walk on Water เล่ม 1

    ผู้เขียน Jangmokdan

    ผู้แปล ณิชา

    ผู้วาด Pazran

    สำนักพิมพ์ Rose

    เรื่องย่อ

          เอ็ด ทัลบอต บอดี้การ์ดระดับทั่วไปที่เข้ากะไม่เป็นเวลา แต่ยังทำงานอย่างแข็งขันเพื่อใช้หนี้นอกระบบ ตัดสินใจส่งสมัครงานเพิ่มอีกหนึ่งอย่างที่บังเอิญได้ยินในบาร์ว่าได้เงินดี ...การแสดงหนังผู้ใหญ่ ในหนัง GV… อาจเป็นแรงผลักดันจากใบทวงหนี้ที่ซ้อนกันอยู่บนโต๊ะ ในเวลานี้เขาถึงได้มานั่งอยู่ที่บริษัทแม็คควีนเอนเตอร์เทนเมนต์ และสบดวงตาสีอำพันข้างกล้องที่คอยกำกับท่วงท่าต่าง ๆ อยู่ของ เกล็น แม็คควีน มีหลายครั้งเอ็ดรู้สึกย้อนกลับทบทวนการตัดสินใจของตัวเองในวันนั้น และยื้อยุดระหว่างก้าวเดินไปบนเส้นทางนี้ต่อด้วยความหวาดหวั่นและหวั่นไหว เพราะเขาเริ่มรู้สึกตัวแล้วว่าที่ยังไม่หันหลังกลับไปจากทางเส้นนี้ อาจไม่ใช่ปัจจัยเรื่องเงินเพียงอย่างเดียว...แต่เป็นเพราะ เกล็น แม็คควีน



    ความรู้สึกหลังอ่าน (สปอยล์ปานกลางถึงมาก)

           Walk on Water เล่มนี้ สำนักพิมพ์ได้ส่งมาให้เราอ่านค่ะ ต้องขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ และแน่นอนว่าเรายังคงเล่าและหวีดมาด้วยความอัดอั้นตันใจจากความรู้สึกเราจริง ๆ เหมือนเดิม ซึ่งต้องบอกก่อนว่า เรื่องนี้เราเล็งไว้อยู่แล้ว ตั้งแต่ประกาศ LC เลยค่ะ ... เพราะคนข้างตัวเก็บแบบการ์ตูนแล้วมาป้ายยาให้ฟัง พอรู้ว่ามีแบบนิยายเลยไม่รอช้าที่จะอาสาจดลงลิสต์เพื่อเก็บเล่ม ซึ่งหลังจากมีการปล่อยทางรายตอนและน่าจะอีบุ๊คด้วย? ในที่สุดรูปเล่มก็มาค่ะ! เล่มค่อนข้างหนากว่าที่เราคิด ยังแอบสับสนเล็ก ๆ ว่ามี 4 หรือ 6 เล่มจบ แต่ส่วนตัวถ้าเป็นคนที่ชอบแนวดรามา ติดตามชีวิตของใครสักคนที่มีเรื่องราวฝ่าฟัน ทั้งอุปสรรคชีวิตตัวเอง ยังมีมุมมองแนวคิดของตัวเอง และสังคมที่เริ่มไม่สอดคล้องกัน จนกลายเป็นปมที่ถึงจะหน่วง แต่ก็ลุ้นและเอาใจช่วย บางทีเรื่องนี้อาจจะใช่แนวก็ได้นะคะ แต่ว่า


    **แจ้งเตือน TW เรื่องนี้มีที่หน้านิยายทดลองอ่าน และในตัวเล่ม เท่าที่ดูมีทั้งบังคับ ภาวะจำยอม ความรุนแรง ข่มขืน การมีเพศสัมพันธ์อย่างโจ่งแจ้ง ความบีบคั้นทางอารมณ์ และความสัมพันธ์ รวมถึงหลักการที่อาจเป็นปัญหา ผู้อ่านที่อายุไม่ถึง 25 ปี ไม่ควรอ่านนะคะ**


            เรื่องราวของ Walk on Water ไม่ได้มีเพียงฉากเซ็กซ์ซีนที่ลงรายละเอียด เนื่องจากหัวใจหลักของเรื่องเกิดขึ้นจากการถ่ายหนังผู้ใหญ่เท่านั้น ยังมีการลงรายละเอียดอารมณ์ความรู้สึก เนื้อหาชีวิต ความจำเป็นต่าง ๆ รวมถึงสถานการณ์ของตัวละคร ค่อนข้างมีมิติและต้องขบคิด ดังนั้นอาจจะต้องพิจารณาแนวทางกันดี ๆ นะคะ อีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะ พ้อยไว้ให้ก่อนเล่า คือ เรื่องนี้เอ็ดต้องทำงานเป็นนักแสดง GV ดังนั้นการเข้าคู่รุกและรับ ไม่ได้มีแค่กับแม็คควีนเท่านั้นค่ะ (แต่ไม่มีสลับรุกหรือรับกับพระเอกค่ะ)


    เส้นทางชีวิตแห่งความบ้าบิ่น

            หลังท่องเว็บเพื่อหางานที่ได้ยินที่บาร์โดยบังเอิญ เอ็ด ก็พบกับบริษัทของ เกล็น แม็คควีน ที่รับนักแสดงสเตรทในหนัง GV ซึ่งก่อนเข้าเว็บมีการแจ้งเตือนต่าง ๆ ไว้ก่อนเข้ามากมาย แต่สุดท้ายด้วยความจำเป็นทางการเงิน เอ็ดก็ตัดสินใจส่งใบสมัครไป และเขาถูกเรียกตัวจริง ๆ การพบกันครั้งแรกกับ เกล็น แม็คควีน เราค่อนข้างเห็นได้ชัดค่ะว่าเอ็ดเกร็ง เขาพูดความรู้สึกกับคนอ่านว่าอีกฝ่ายทำให้รู้สึกอึดอัดแปลก ๆ แต่ก็มักจะละสายตาไปไม่ได้ ในการถ่ายทำแรกเป็นการโซโล่ตัวเอง ซึ่งค่อนข้างเปิดโลกของเอ็ดมาก เพราะคำพูดของคุณแม็คควีน รวมถึงการเรียกร้องท่วงท่าต่าง ๆ ทำให้เขารู้สึกอาย แต่เอ็ดเป็นคนที่อายหน้านิ่งมาก และพยายามแสดงออกว่าตัวเองไม่รู้สึกอะไร ชายหนุ่มคนนี้ทำงานหน้ากล้องได้ดีมาก ๆ ไม่ใช่แค่คุณแม็คควีนเท่านั้นที่หลุดยิ้มว่าเซ็กซี่ แต่คนอ่านก็รู้สึกว่า เอ็ดเป็นคนมีเสน่ห์ในแบบที่เจ้าตัวอาจจะไม่รู้ ซึ่งมันจะยิ่งร้อนนนมากกก ค่ะ เมื่อถึงงานที่ต้องเข้าคู่!


    หากมณฑลไร้ราตรียังมีอยู่

            ชีวิตของ เอ็ด ที่ต้องมีอีกชื่อหนึ่งในการแสดงว่า ทอมมี่ เกิดขึ้น เพราะเขาค่อนข้างยากจน วัยเด็กเขาอยู่กับคุณตาที่ต้องทำงานกลับมาดึก ๆ ทุกค่ำคืน และคุณยายมักจะเปิดไฟรอเสมอ จนกว่าคุณตาจะกลับมา ไฟดวงนั้นจะไม่มีทางดับลง นั่นทำให้เอ็ดจะนอนไม่หลับเลยถ้ามีแสงไฟอยู่ในห้อง ...เพราะเขายังรู้สึกว่าต้องรอใครสักคนกลับมา ... สิ่งที่คุณตาเหลือไว้ให้เขา คือห้องเช่าและแมวหนึ่งตัว เอ็ดต้องเป็นหนี้นอกระบบจาก ‘เฉิน’ ชายหนุ่มที่ดูเหมือนจะเป็นมาเฟีย คุณยายของเฉินเคยอยู่ข้างบ้าน เธอเอ็นดูเอ็ดมาก เอ็ดเองก็รักท่านมาก ถ้าท่านไม่ถูกพาตัวไปบ้านพักคนชราก่อน เขาคงไม่รู้สึกโดดเดี่ยวมากนัก และก็อาจจะเพราะคุณยายของเฉินเอ็นดูเอ็ดมากนี่เอง เป็นหนี้อยู่มากมาย ก็ยังไม่ถึงกับโดนข่มขู่ แต่ถ้าเบี้ยวหนี้ก็คงไม่พ้นถูกใช้ความรุนแรงแน่ ๆ นี่เลยเป็นสาเหตุหลัก ๆ ที่เราพอจะจับเค้าความจำเป็นได้ว่า ทำไมเขาถึงเลือกที่จะทำงานเส้นนี้เพิ่ม... งานที่เหมือนเอ็ดจะต้องต่อสู้ทัศนคติ ความรู้สึกของตัวเอง และมุมมอง ทัศนคติของคนรอบตัว รวมถึงสังคม ที่เริ่มไม่สอดคล้องกัน


    อยากขอถามสักหน่อย...คอนเซ็ปต์วันนี้คืออะไร ?

            สำหรับใน Walk on Water เล่มแรก ขอยกเป็นเล่มสำรวจความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงไปของเอ็ดเลยค่ะ แรกพบสบตา เกล็น แม็คควีน เราแอบรู้สึกว่าทั้งสองคนสปาคกันแต่แรกเลยค่ะ ทางเอ็ดจะยากหน่อย เพราะเขารู้สึกว่าตนเป็นสเตรท และด้วยมุมมองการเล่าที่เราตัวติดกับความรู้สึกนึกคิดของเขา เราถึงเห็นอคติและกำแพงมากมายที่เขาต้องข้ามมันไป จุดที่เราชอบตัวละครเอ็ดคือ เขาเป็นคนวิ่งชนกำแพงเหล่านั้นตลอด ไม่ว่าจะหาคำตอบของความรู้สึกตัวเองได้หรือไม่ แต่เมื่อใจบอกว่ามีความสุข บอกว่าอยากเจอ เขาก็ก้าวเท้าออกไปเสมอ ในตอนที่เขาคิดมาจนถึงจุดเปลี่ยน อดไม่ได้ที่จะตื้อ ๆ หน่วง ๆ ตาม อยากวิ่งทะลุส่งกำลังใจให้เอ็ดในทุกเรื่องเลยค่ะ ส่วนทางคุณแม็คควีน ด้วยมุมมองที่เราเห็นเฉพาะด้านของเอ็ด เราไม่มั่นใจว่าคุณเขารู้สึกยังไง แต่คิดว่าเอ็ดต้องพิเศษสำหรับเขาไม่น้อยเลยค่ะ ดูจากการพบกันครั้งแรกดวงตาเป็นประกายและการหลุดยิ้ม ความเอาใจใส่หลังถ่ายทำ การยื้อเวลาให้อยู่ด้วยกันในหลาย ๆ ครั้ง ...เราอดคิดไม่ได้จริง ๆ ว่าคุณเขาก็สนใจเอ็ดมาก ๆ รู้สึกลุ้นความสัมพันธ์คู่นี้มาก ๆ เลยค่ะ จะว่ายังไงดี ต่อให้รู้ว่าเขาจะรักกัน แต่อดไม่ได้จะกัดฟัน หรือกัดเล็บลุ้นว่ามันจะไปถึงจุดนั้นได้ยังไงค่ะ!


           เราถามตัวเองระหว่างอ่าน Walk on Water ตลอด ว่าทำไมรู้สึกอ่านแบบค่อยเป็นค่อยไปมาก ๆ เหมือนต้องคิดตลอดเวลา ทั้ง ๆ ที่ฉากต่าง ๆ หลายครั้งเป็นเซ็กซ์ซีนที่กำลังถ่ายทำ (พลิกผ่านทำความเร็วได้แท้ ๆ) แต่เรามักจะต้องไล่บรรทัดที่ความรู้สึก ปฏิกิริยาตัวละคร และค่อย ๆ อ่านมันอยู่ตลอด อาจจะเพราะ เราตัวติดกับความรู้สึกเอ็ด ความรู้เวลาอ่านจะติดบรรยากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน เป็นบรรยากาศสีเทา ๆ หม่น ๆ ที่ทำให้หน่วง ตึงและลุ้นทุกก้าวที่เอ็ดเดินเสมอ เราเหมือนจะกลายร่างเป็นเพื่อนสาวอย่างเจนีน ที่ห่วงเขาอยู่ตลอดเวลาเลยค่ะ หลังจากถ่ายโซโล่ ได้รู้จักกับเอ็ดมากขึ้น พอเริ่มงานรุกงานแรกก็ลุ้นว่าเขาจะเป็นยังไง จะทำได้ไหม พอเข้างานรับงานแรกก็เป็นห่วงอีก เอ็ดจะโอเคไหม จะเจ็บตัวไหม เรื่องจะไปถึงจุดไหน ...แบบนี้ตลอดเวลาเลยค่ะ 55555 นี่คงเป็นเหตุผลที่เราไม่วางจนกระทั่งจบเล่ม ...และค้างค่ะ ฮืออออ

           อนึ่งในส่วนของงานแปล ส่วนตัวแล้วปกติเราเป็นคนไม่ค่อยติดขัดเท่าไร ครั้งนี้ก็อ่านรอด มีบางจุดที่สะดุดอาจจะเพราะเป็นช่วงเครื่องติดเลยพลิกเร็ว เลยเบรกบางครั้งด้วยความมึน ๆ ว่าเขาเปลี่ยนสถานที่กันแล้วเหรอ ส่วนการบรรยายประโยคต่าง ๆ ถ้าเกลาอีกสักหน่อยให้กระชับขึ้นในเล่มถัดไปน่าจะดีค่ะ อย่างไรก็ตามถ้าเป็นแนวใครทางใครลองหาทดลองอ่านกันก่อนได้ค่ะ ^^


    มุมเพ้อเจ้อตัวประกอบ (สปอยล์มาก)

           หวีดตัวละครนี้ไว้ตั้งแต่ #รีวิวyคร่าวๆ เลยค่ะ เจนีนนนน 5555555 ตัวประกอบหลัก ๆ ในกองที่ออกตอนนี้นะคะ มีเทย์เลอร์ พ่อหนุ่มผมแดง (แพ้คนผมแดงงง) พ่อหนุ่มผมดำที่เราจำชื่อไม่ได้ เจน ที่เป็นคนถ่ายทำคู่กับแม็คควีน และเจนีน ผู้จัดการสาวหนึ่งเดียวของบริษัทค่ะ

    ในเรื่องเราขำความกัดกันของเจนกับแม็คควีนในเรื่องการทำงานมาก มีความแย่งกันตัดต่อ 555555

          ส่วนที่เราชอบเจนีนมาก นั่นเพราะว่าเธอเป็นคนที่มีพัฒนาการความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนกับเอ็ดได้ดี และจริงใจมาก ๆ เลยค่ะ ในฉากแรก เจนีนทำหน้าที่รับเอ็ดที่มาทำงาน พวกเขาพูดคุยกันในฐานะคนที่คั่นด้วยผลประโยชน์ของหน้าที่ ดังนั้นคำแนะนำของเจนีนในช่วงแรกจึงไม่ได้นึกถึงเอ็ดจริง ๆ แต่เอียงไปทางงานค่ะ

         ทว่าในเวลาถัดมาหลังทั้งสองพบว่าเป็นเพื่อนเก่าโรงเรียนเดียวกัน ท่าทีเจนีนเปลี่ยนไปมาก เธอนับเอ็ดเป็นเพื่อนจริง ๆ และด้วยเอ็ดเป็นคนฟังความคิดแปลก ๆ ของเธอโดยไม่บ่น ทำให้ทั้งสองนัดเจอกันนอกเวลางานบ่อย ๆ ซึ่งน่ารักมากกกก เราอยากมีเพื่อนที่ให้โมเมนต์แบบนี้ จะควงแขน จะเกาะหนึบยังไงก็ได้ โดยไม่คิดมาก ความสัมพันธ์ของทั้งสอง คือดีมากจริง ๆ ค่ะ แม้แต่ช่วงหลังที่เอ็ดมีชื่อเสียงและโดนมองบ่อย ๆ เจนีนก็เสมือนมัมมี้ที่เกาะแขนปกป้อง พร้อมถามเสียงเข้มว่า โดนมองแบบนี้บ่อยรึเปล่า (เท่มากกก) นอกจากนี้หลังสนิทกันเจนีนจะคิดถึงตัวเอ็ดก่อนเสมอ เห็นได้ชัดที่สุด คือตอนเอ็ดรับงานเป็นฝ่ายรองรับครั้งแรก เราจะเห็นว่าเพื่อนร่วมงานคนอื่นไม่คิดมากที่จะโทรตามฝ่ายรุกคนไหนก็ได้มาทำงาน ถ้าหากเอ็ดโอเค แต่เจนีนไม่ยอม เพราะเธอรู้จักทุกคนที่ถูกเสนอรายชื่อมา และไม่มีสักคนที่เจนีนมองว่าจะอ่อนโยนกับเอ็ดได้ในการทำงานฝ่ายรองรับครั้งแรก

    หัวใจคนอ่านอ่อนยวบยาบตอนเจนีนปกป้องเอ็ดค่ะ เธอเป็นเพื่อนที่จริงใจมากจริง ๆ

         ขนาดหลังเข้าคู่กับแม็คควีนไปแล้ว เจนีนยังเหมือนมีเซ้นส์ สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่างของเอ็ด (และน่าจะแม็คควีนด้วย) เธอเลยกังวลที่จะฝากเอ็ดที่ล้ามาก ๆ ให้อยู่กับแม็คควีนสองคน ประทับใจตอนบอกว่าห้ามปิดโทรศัพท์มากค่ะ ความหมายง่ายมาก ว่าเธอห่วง และถ้าเกิดอะไรขึ้นที่ทำให้เอ็ดไม่สบายใจ เธอพร้อมวิ่งมาช่วย แบบ...ประทับใจมิตรภาพนี้มากเลยค่ะ

           หวีดเจนีนไปครึ่งหน้ากระดาษ...เราขอยก ไปเมาท์เรื่องอื่นใน 

         >> ชวน Talk ค่ะ 

          แต่เป็นช่วงสปอยล์เนื้อเรื่องมากกกกเลยนะคะ ใครอ่านแล้วค่อยแวะมาเมาท์ด้วยกันได้ค่ะ


    By Chadang


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Qián Lì (@fb2065340366972)
ต้องบอกเลยว่าตอนหน่วงก็หน่วงอยู่ จบดีแต่ช่วงก่อนจบคือจุกหลายรอบเหมือนกัน เพราะว่านายเอก.......ไม่บอกดีกว่าเดี๋ยวโดนแบน(อันนี้เราพูดถึงใน"มันฮวา"นะเป็นเวอร์ชั่น eng ) อ่านไปขมวดคิ้วไป ในมันฮวาจะมีคำพูดความคิดเยอะ(ยาวไปไม่อ่าน ถึงอ่านก็อ่านผ่านๆ)มาเจอเวอร์ชั่นนิยายกะว่าจะดองรอซื้อทีเดียว มาเจอรีวิวนี้ปุ๊บ ไปกดสั่งซื้อเลยจ้า
Chadang (@kalafina57)
@fb2065340366972 เดี๋ยวขอลุ้นกับเนื้อเรื่องถัด ๆ ไปแล้วจะขอจับเข่าหวีดความหวานอมขมกลืน (?) ด้วยคนนะคะ >< เรากำลังแพลนว่าหลังอ่านนิยายจบจะไปอ่านการ์ตูนอยู่ค่ะ ถ้ามีโอกาสอ่านเวอร์นิยายแล้ว แวะกลับมาแลกเปลี่ยนความเห็นกันได้นะคะ ^^