เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวนิยายฉบับคนชอบดองChadang
รีวิว My Five Elements are short of You – ชีวิตนี้ขาดเธอไม่ได้ ~ (1-2 ยังไม่จบ)

  • My Five Elements are short of You – ชีวิตนี้ขาดเธอไม่ได้ ~

    ผู้เขียน ซีจื่อซวี่

    ผู้แปล Rear

    ผู้วาด Mind*creator

    สำนักพิมพ์ IRIS BOOK


    เรื่องย่อ

              โจวเจียอวี๋ หนุ่มโสด วัย 28 ปี ถูกรถชนเสียชีวิตแล้วฟื้นคืนชีพมาในร่างเด็กหนุ่มนักต้มตุ๋นวัย 18 ปี ที่โดนซ้อมจนสะบักสะบอมแล้วถูกลากไปพบกับ หลินจู๋สุ่ย เจ้าสำนักเฟิงสุ่ยชื่อดัง ในสภาพที่ยังมึนงงไม่เข้าใจดีว่าตัวเองอยู่ที่ไหน เขาตอบคำถามของท่านหลินออกไปท่ามกลางความสับสนและไม่เข้าใจ แต่คำตอบนั้นเองทำให้โจวเจียอวี๋รอดชีวิตจากการโบกปูนมาได้ และถูกรับเข้ามาฝึกฝนด้านเฟิงสุ่ยภายใต้การดูแลของหลินจู๋สุ่ย ...แต่ว่านะครับท่านหลิน...ท่านจะโยนปลาตัวน้อยอย่างเขาไปเข้าทดสอบระดับโลกเลยแบบนั้นไม่ได้ ท่านยังไม่ได้สอนอะไรโถน้อยดวงกุดคนนี้สักอย่างเลยนะครับบบบ



    ความรู้สึกหลังอ่าน (สปอยล์ปานกลางถึงมาก)

              My Five Elements are short of You หรือที่ทางสำนักพิมพ์ได้เคาะชื่อไทยออกมาว่า ชีวิตนี้ขาดเธอไม่ได้ อ่านที่คำนำแล้วชอบมากเลยค่ะ ความจริงแปลตามตรงว่า ปัญจธาตุที่ต้องมีเธอ ก็ดีงามมากเลยนะคะ รู้สึกหวานไปอีกแบบ แต่ต้องยอมว่าชื่อที่เคาะสุดท้ายจำง่ายมากเลยค่ะ เราในตอนแรกคือเรียก Five Element เฉย ๆ รู้สึกแฟนตาซีมากเลยค่ะ ซึ่งเรื่องนี้ 5 เล่มจบ เป็นแนวเฟิงสุ่ย หรือส่วนตัวของจัดไปอยู่แนวไสยศาสตร์ ปราบผี ปราบมาร และมีแนวสืบสวนอยู่ในนั้นด้วย เราเลยเรียกแนวนี้เองสั้น ๆ ว่า แนวสืบผีค่ะ (55555) มาค่ะทุกคนนนนคะ เราขอหวีดเรื่องนี้หน่อยนะคะ รบกวนนั่งลงกับเราสักครู่ คว้าขนมสักหน่อย แล้วมาลองอ่านเรื่องนี้กันค่ะ



    ชีวิตใหม่ทั้งที...เหมือนโลกนี้จะไม่เหมือนเดิม

             เล่าเรื่องของ โจวเจียอวี๋ ในช่วงแรก เราต้องบอกเลยว่าทั้งขำ ทั้งสงสาร ด้วยความที่นายเอกของเราอายุจริงของเขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว ทำงานรับราชการ เป็นเด็กกำพร้าตัวคนเดียวที่ดูแลตนเองมาโดยตลอด อ้อ...เขาเป็นเกย์และโสดเสมอมาด้วยค่ะ (อวี๋อวี๋: จะย้ำตรงนี้ทำไมเนี่ยยย) เมื่อพบว่าตัวเองอยู่ในร่างนักต้มตุ๋นและรอดตายหวุดหวิดจากการถูกลงโทษที่เจ้าของร่างเดิมไปหลอกคนจากความเชื่อจนเกือบมีคนตายมากมาย โจวเจียอวี๋ สงบสติอารมณ์ยอมรับชะตากรรมอย่างเข้าอกเข้าใจที่เขาโดนคนในสำนักไม่ชอบหน้า เขาทำตัวสงบเสงี่ยมเหมือนตัวเองเป็นเพียงอากาศในสำนัก แต่ด้วยฝีมือการทำอาหารที่แทบรับประทานไม่ได้ของสองศิษย์พระเอก โจวเจียอวี๋เลยต้องรับหน้าที่พ่อครัวจำเป็น ใช้ความอร่อยของอาหารแต่ละมื้อผูกมิตรกับทุกคน

             ....แน่นอนค่ะ แม้แต่พระเอก หลินจู๋สุ่ยที่ไม่ค่อยมากินข้าวกับลูกศิษย์ (เจ้าตัวน่าจะรู้ฝีมือลูกศิษย์ดีว่ามันกินไม่ได้ 55555) ยังมากินข้าวด้วยอย่างเอร็ดอร่อย ช่วงแรกเลยผ่านไปประมาณนี้ค่ะ นายเอกปรับตัวได้เร็วมาก คนอ่านยังกังวล ๆ แทนอยู่ แต่นายเอกปรับตัวรับมือเรียบร้อยแล้ว ยิ่งมีจี้ปากับอี้ฉยงตบมุกต่าง ๆ ให้คนอ่านได้ผ่อนคลาย ฮา ๆ อยู่ตลอด เนื้อเรื่องเลยผ่านจุดอึดอัดนิด ๆ ไปได้ชิล ๆ ค่ะ (ประมาณ 3 ตอนเท่านั้นเองค่ะ) พอขึ้นตอนที่ 4 นายเอกและคนอ่านจะได้เข้าสู่โลกของเฟิงสุ่ยอย่างแท้จริงค่ะ และพวกเราเองก็จะเริ่มเห็นถึงความสามารถพิเศษของนายเอกที่แม้แต่คนเล่าเรียนด้านนี้มานานอาจจะสู้เขาไม่ได้ค่ะ!


    …บอสโปรดรักผมอีกสักครั้งเถอะ ;---;

             นายเอกของพวกเราค่อนข้างพิเศษที่สามารถเห็นวิญญาณ หรือปราณต่าง ๆ ได้ด้วยตาเปล่าค่ะ เขาแทบไม่ต้องใช้เครื่องมืออะไรแบบคนอื่นเลย จี้ปาบอกกับคนอ่านว่าจริง ๆ แล้วนายเอกเก่งได้มากกว่านี้ เพียงแต่เขายังใช้ไม่เป็น ดังนั้นคนที่สามารถฝึกฝนดึงนายเอกให้ใช้พรสวรรค์เหล่านี้ได้อย่างถูกต้องก็ไม่พ้นพระเอกของพวกเรา หลินจู๋สุ่ย หรือ ท่านหลินค่ะ ท่านหลินทราบถึงความพิเศษของนายเอก ถึงเขาจะไม่ได้รับนายเอกเป็นศิษย์คนที่ 5 แต่เขาก็เตรียมฝึกฝนให้นายเอกทุกทางเลยค่ะ ทั้งลงมือสักลายมัจฉาและดอกบัวบนก้นกบนายเอกให้ด้วยตัวเอง (พออ่านเล่มสองแล้ววกกลับมาคิดถึงฉากนี้...เขินทุบหมอน ท่านหลินนนนน) ลงมือแกะสลักหยกให้เป็นของติดตัว เพื่อคอยดูแลปกป้องอีก 

    ...อ๊ากกกก ไว้ไปหวีดกันช่วงความรักค่ะ 

            ... กลับมาที่เนื้อเรื่อง ในช่วงแรก พระเอกยังไม่ลงมือสอนเท่าไร เขาก็โยนนายเอกไปแข่งขันเฟิงสุ่ยระดับโลกเลย 555555 พูดได้ว่า สิงโตน้อยจะแข็งแกร่งเมื่อคนรักโยนลงหน้าผา แค่ก (และคนรักก็โดนตามลงไปด้วยคอยปกป้องห่าง ๆ คริคริ) ท่านหลินผู้งดงามบอกกับนายเอกว่า อย่าคิดมากกับการแข่ง จำไว้ว่ามิตรภาพเป็นเรื่องรอง การแข่งขันเป็นอันดับแรก ถ้าตกรอบกลับมาจะให้กินเห็ดหนึ่งกระสอบ ! แค่ก ๆ ๆ


    อินหยาง มิอาจขาดจากกันได้

    หลินจู๋สุ่ย พระเอกของเรื่องนี้เราเล่าบุคลิกเขาได้ยากมากเลยค่ะ เขาเป็นปรมาจารย์เฟิงสุ่ยที่อายุน้อยที่สุด นอกจากดวงตาที่มืดบอด บอกได้เลยว่าเรื่องอื่น ๆ เขาแข็งแกร่งแบบที่ใครก็สู้ไม่ได้ ตอนแรกเราคิดว่าเขาจะออกมาเป็นคนเย็นชา แต่ไม่เลยค่ะ อบอุ่น อ่อนโยน และขี้แกล้งแบบหน้าตายมาก ๆ กับนายเอกจะมีความใกล้ชิดกว่าลูกศิษย์นิดหนึ่งเพราะ... (ไปหาคำตอบกันในเล่มนะคะ ><) แต่โดยรวมแล้วเวลาเขาอยู่กับนายเอกและลูกศิษย์จะมีความอ่อนโยนและเอ็นดูอยู่เสมอค่ะ แต่เมื่อไรก็ตามที่เจอคนมาแตะต้องคนของเขา จากคนอารมณ์เย็นจะร้อนแรงได้ในแบบที่คาดไม่ถึงเลยค่ะ

    โจวเจียอวี๋ นายเอกของเรา ไม่หลุดคาแรคเตอร์ ที่ชาติก่อนอายุ 28 ปีแล้วเลยค่ะ ถึงฝีมือด้านเฟิงสุ่ยจะไม่มี แต่เรื่องเชื่อมโยงคดีและรายละเอียดต่าง ๆ ไม่เป็นสองรองใคร เขาเป็นคนน่าคบมากนะคะ จากที่เราอ่าน มีความฮาในตัวเอง ดีที่มีจี้ปาและฉยงฉยง ศิษย์คนสุดท้องของพระเอกคอยโยนมุก ตบมุกต่าง ๆ ให้ค่ะ ฮามาก เข้าขากันมาก แต่จะเห็นได้ว่าเวลาเข้าช่วงจริงจังในเคส นายเอกจะนิ่งมาก นิ่งในแบบที่รู้สึกว่าพึ่งพาได้เลยค่ะ (ยกเว้นเวลาอยู่กับฉยงฉยงอีกตามเคย)

             ความรักของพวกเขา ความจริงทางฝั่งพระเอกเราอยากให้ลองอ่านกันดูค่ะ แต่ฝั่งนายเอก เรารู้สึกว่าเขาปลื้มตั้งแต่พบกันครั้งแรกแล้วค่ะ (หมายถึงหลังจากรับตัวกันมาดูแลนะคะ ไม่ใช่ช่วงเข้าร่างใหม่ ๆ) เรารู้สึกนายเอกอ้อนพระเอกในแบบของเขาเก่งมากเลยค่ะ คือ นายเอกคงไม่ได้ตั้งใจ แต่เวลากลัวทำอะไรพลาด เขาจะกลัวพระเอกดุมาก ๆ เจ้าตัวจะแอบเหลือบมองแบบกล้า ๆ กลัว ๆ ทั้งที่ความจริงพระเอกไม่ได้อะไรเลยค่ะ แค่นายเอกทำเต็มที่ก็พอ หรือไม่ก็เวลาเจอเรื่องประหลาด สิ่งที่นายเอกทำอย่างแรกคือวิ่งไปเคาะห้องพระเอก หรือถ้าเจอเรื่องร้ายหลังจากอยู่ด้วยกันไปสักพัก นายเอกคือไม่สนอะไรแล้วค่ะ เห็นพระเอกปุ๊บน้ำตาแทบร่วงง 555555


    “ท่านหลินครับบบ ผมคิดถึงคุณจังเลยย ฮือออ”

    “เด็กโง่” // ท่านหลินที่ยืนยิ้มขำมองนายเอกนอนแหมะบนพื้นหลังหนีผี



              สรุปแล้วความรักในเล่มนี้มีให้หนุบหนิบ เขิน ๆ ไปได้ตลอดค่ะ โดยเฉพาะหลังจบบททดสอบในช่วงแรกของเล่มสอง แต่ว่าสองเล่มแรก เนื้อหาของปมคดีเข้มข้นน่าติดตามมากเลยค่ะ เรายังเดาอะไรไม่ค่อยได้ เพราะเขาไม่ค่อยเผยหลักฐานอะไรให้เราเก็บตามทางก่อนตัวละคร นักอ่านเจอพร้อมนายเอกล้วน ๆ ทำให้ลุ้นจนแทบจะฉีดหมอนขาด อยากอ่านเล่ม 3 มากเลยค่ะตอนนี้ ลุ้นนนนมากกกกก

            ส่วนตัวเราคิดถึงบรรยากาศประมาณนี้มาก ๆ หวังใจว่าครึ่งหลังจะยังเข้มข้นแบบนี้ ตั้งแต่อ่าน คู่ป่วนสืบคดีพิศวง กับดู Ghost hunt มาก็แอบมองหาแนวสืบผีดี ๆ มาตลอด พอมาเจอแนวนี้ที่เป็นความรักเป็นวายแล้วยังคงความเข้มของเคสไว้ได้เราดีใจมากเลยค่ะ ยอมรับว่าอ่านจบแล้วอยากหาแนวนี้เพิ่มอีก เดี๋ยวคงได้เวลาทุบไหดองเหล่าเรื่องคฤหาสน์สยองขวัญต่าง ๆ ออกมาอ่านแล้วค่ะ ! ถ้าสนใจเรื่อง ชีวิตนี้ขาดเธอไม่ได้ ตัวอย่างสำนักพิมพ์ลงไว้เกินครึ่งเล่มแรกเลยค่ะ ทดลองอ่านโลดดดด

    >> เราที่ท้าทายอ่านแต่ช่วงกลางคืนตลอดขอบอกว่า...บรรยากาศได้มากจริง ๆ ค่ะ //ยกนิ้วโป้ง


    ช่วงเพ้อเจ้อตัวละคร (สปอยล์มาก)

    1. เสิ่นอี้ฉยง ไม่ให้คนนี้ขึ้นก่อนไม่ได้ค่ะ บทเยอะสุด ๆ เป็นศิษย์คนเล็กของพระเอกที่โดนเด่นเรื่องอารมณ์ขัน พูดเก่ง เข้ากับคนง่าย แต่ก็มีความใจร้อนในตัว เขาเป็นคนแรกที่เปิดใจรับนายเอกค่ะ ไม่ใช่อะไร...นายเอกทำอาหารอร่อย (55555) อี้ฉยงอยู่กับนายเอกตลอด ทำให้เริ่มรู้ใจกัน แถมด้วยร่างปัจจุบันนายเอกอายุห่างจากอี้ฉยงไม่มาก เขาเลยเข้ากันได้ดี เพียงแต่น่าเสียดายที่อี้ฉยงหัวช้า...นายเอกหลุดพูดเรื่องชีวิตก่อนออกมา เจ้าตัวกลับโยนออกจากสมองไปก่อน...น่าสนใจปมนี้มากเลยค่ะ
    2. เสิ่นเออร์ไป๋ เราคิดว่าคนนี้จะมีบทเยอะ เขาออกช่วงแรกพร้อมอี้ฉยงและหายไปช่วงพวกนายเอกเดินทางไปแข่งขันที่อวิ๋นหนานค่ะ เขาเป็นคนในแบบที่ตรงกันข้ามกับอี้ฉยง แต่ก็ไม่ถึงกับต่อต้านนายเอก (เพราะอาหารอร่อยเช่นเดิม 555555) ต้องมาดูว่า พระเอกให้เขาไปไหนนะคะ
    3. เสิ่นมู่ซื่อ พี่ใหญ่ของน้อง ๆ มีความคล้ายพระเอกนิด ๆ เฉลียวฉลาดมากค่ะ กลายเป็นครึ่งเล่มสองเขามีบทบาทเยอะมาก ตอนแรกระแวงนายเอก แต่พอสอบถามพระเอก บวกกับอาหารแสนอร่อย เขาก็ยอมรับนายเอกได้ภายในเวลาไม่นานค่ะ (555555)
    4. สวีรู่วั่ง พ่อหนุ่มออกมาตอนแรกนึกว่าจะเป็นศัตรู ที่ไหนได้ ...นี่อีกหนึ่งเพื่อนโบ๊ะบ๊ะนี่นา (5555) ความจริงคนนี้โผล่มาสนใจนายเอก เพราะปลาน้อยของเราตรงสเป็คเขามาก ต่างคนต่างรู้ว่าเป็นเกย์ รู่วั่งก็ถามตามตรงตลอดนะ ว่านายเอกไม่รับพิจารณาเขาจริง ๆ เหรอ แอบเห็นใจ พ่อหนุ่มเขาเหมือนจะจริงจังภายใต้หน้ากากยิ้มกวน แต่รู่วั่งเอ๋ย เราน่ะ ไม่น่าลวนลามน้องโจวตอนเปิดตัวเลย นักอ่านเลยติดลบคะแนนลูกไปหลายแต้ม กว่าจะตีตื้นคะแนน คดีบททดสอบนั่นแล
    5. ถานอิ้งเสวี่ย สาวแกร่งที่มีบทช่วงสองคดีหลังของบททดสอบ ชอบตัวละครนี้มากค่ะ ใช้กู่ พี่สาวแข็งแกร่งจนหนุ่ม ๆ ต้องซูฮก


    เหลือ เจาซาน ศิษย์รองของพระเอกแล้วค่ะที่ยังไม่ออก ลุ้น ๆ ๆ ว่าจะเป็นคนยังไง

            เอาจริง ๆ ตอนปลาน้อยบ้านหลินจับคู่กับรู่วั่ง พวกเขาเข้าขากันได้ดีมากค่ะ ต่างก็รู้จุดแข็งจุดอ่อน นายเอกประสาทไวเรื่องสิ่งลี้ลับ มองเห็นและได้ยินเสียงต่าง ๆ ได้ชัดเจนกว่าคนอื่นโดยไม่ใช้เครื่องมือ แต่เขาไม่มีฝีมือด้านเฟิงสุ่ย รู่วั่งจะเป็นคนออกหน้าค่ะ ทฤษฎีต่าง ๆ เขาจะอธิบายให้ฟัง ตอนสู้คู่กันก็วางใจกันมาก ๆ นายเอกนิ่ง ๆ เชื่อมโยงปัญหาเก่ง ยิ่งมีถานอิ้งมาเป็นสายแกร่งและสอดแนม แก๊งนี้ยิ่งลงตัวค่ะ เราแอบรู้สึกว่าความเข้าขากันตอนออกคดีนายเอกยังไปได้ดีกับรู่วั่งกว่าฉยงฉยงอีกค่ะ อยู่กะฉยงฉยงนายเอกได้แต่วิ่งหนี 5555555555


    Chadang

    >> รีวิวชีวิตนี้ขาดเธอไม่ได้ เล่ม 1-2 (ฉบับ //หวีด//เต็ม)


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in