เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
สาวน้อยชั้นสองlokasander2
วันนี้มันวันอะไรกันนะ
  • สิ่งแรกที่อลิซทำหลังจากที่ตะวันลอยพ้นขอบฟ้า คือการแต่งตัวอย่างรวดเร็วแต่ยังไม่ลืมชงชาและทานแซนด์วิชอันเป็นอาหารเช้าที่เธอกินทุกวันเป็นกิจวัตร แม้จะแทบไม่ได้นอนเลยทั้งคืนทว่าใบหน้าปราศจากความอิดโรย ซะเมื่อไหร่ ขอบตาเธอคล้ำเหมือนซอมบี้ ใบหน้าที่ภาคภูมิใจนักว่าเรียบเนียนผุดผ่อง ตอนนี้มีสิวเจ้ากรรมนายเวรผุดขึ้นมาหนึ่งเม็ดถ้วน เพราะนอนไม่หลับเลยหาของกินฆ่าเวลา วันนี้เธอสวมเดรสยาวระดับเข่าสีเหลืองอ่อนขับผิวให้ดูมีออร่า ทับด้วยเสื้อโค้ตสีเบจความยาวระดับเดียวกัน เนื่องจากตอนนี้อากาศที่พาเทนยังไม่หนาวมากนักเพราะอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ สวมรองเท้าส้นสูงที่ให้วิกเตอร์ส่งมาจากบ้านลงลิฟต์ออกไปข้างนอก ระหว่างทางเดินไปร้านขายอุปกรณ์เอวี่ วันนี้เธอเดินเรื่อยเปื่อยกว่าเมื่อวานเพราะไม่รีบมากนัก ผ่านร้านดอกไม้ที่เธอชอบแวะมาเป็นประจำ

    “อรุณสวัสดิ์อลิซ ท่าทางสดใสมาแต่ไกลเชียว มีเรื่องน่ายินดีอะไรหรือ” คอรี่ หนุ่มหน้ามนเจ้าของร้านดอกไม้กล่าวทักขณะที่นั่งฉีกยิ้มเริงร่าอยู่บนเก้าอี้หน้าร้านดอกไม้ของเขา ที่ดูจะเหมือนสวนดอกไม้ย่อส่วนมากกว่า ผนังหน้าตึกถูกปกคลุมไปด้วยไม้เลื้อย เพดานด้านในเต็มไปด้วยวิสทีเรียสีม่วงห้อยระย้าลงมาดูคล้ายอุโมงค์ดอกไม้ กลิ่นหอมของไลแลคด้านหน้าประตูลอยอบอวลไปทั่วทั้งบริเวณ

    “มีความสามารถมากนะคอรี่ที่กล้าทักว่าฉันท่าทางสดใสนะ” อลิซหยุดตอบกลับคอรี่ ท่าทางของเธอตอนนี้บอกว่าเพิ่งไปออกรบมาดูจะเข้าเค้ากว่า แต่รู้ว่าพูดไปสิ่งที่ได้กลับมาจากเจ้าของร้านดอกไม้นี่ก็คงเป็นรอยยิ้มโกลเด้นอยู่ดี จึงเมินเฉยเปลี่ยนเรื่องคุย

    “วันนี้มีดอกไม้ใหม่มาด้วยนี่นา” อลิซเปรยพลางเดินไปที่กระถางดอกไม้

    “เดซี่สีแดงนี่หรอ? ใช่แล้ว พยายามปลูกอยู่ตั้งนาน ไม่นึกว่ามันจะรอดเหมือนกัน สนใจมั้ย?” คอรี่ถาม ลุกขึ้นเดินไปนั่งยองๆ ข้างกระถางดอกเดซี่

    “ลิมิเต็ดนะอันนี้ ผมปลูกดอกไม้สีอื่นนอกจากสีม่วงขึ้นที่ไหน คุณก็รู้” เจ้าของร้านดอกไม้ขี้เล่นว่า หันไปทำหน้าตาน่าสงสารใส่อลิซ ที่เธอก็คงเอ็นดูอยู่หรอกถ้ามันไม่อยู่บนหน้าของผู้ชายตัวเต็มวัยที่ตัวไม่เล็กเลย ซึ่งเรื่องดอกไม้ที่เขาพูดก็เป็นเรื่องจริง ในร้านนี้เต็มไปด้วยดอกไม้หลากชนิดจริงแต่มันมีแค่สีม่วง

    “น่ารักดี เอาก็ได้” ไม่ได้ซื้อเพราะหน้าหมาหงอยของเจ้าของร้านหรอกนะ จะด้วยอะไรก็แล้วแต่เจ้าของร้านดอกไม้กลับมาทำหน้ายิ้มร่าเริงเหมือนเดิมแล้ว

    “ให้ส่งที่เดิมไหมครับ” คอรี่ถามพลางยื่นบิลค่าดอกไม้ให้

    “ไม่ละ วันนี้ฉันจะเอามันไปเดินเล่นด้วย” อลิซรับบิลมาก็ยกกระถางเดซี่สีแดงเดินออกมามุ่งหน้าไปร้านขายอุปกรณ์เอวี่โดยลืมบางอย่างไปสนิท






    เดินไม่นานก็ถึงร้านของเอวี่ ประตูไม้โอ้คบานใหญ่ปิดสนิทดูไม่ต้อนรับแขกเหมือนเดิม เนื่องจากมือไม่ว่างเพราะถือกระถางดอกไม้อยู่ อลิซจึงใช้เท้าเคาะประตูหนักๆ ไปสองที

    “เอวี่ เปิดประตูให้หน่อย ฉันรู้เธอยังไม่ได้นอน เปิดเดี๋ยวนี้ เปิดทันที ฉันหนัก” อลิซตะโกนเรียกเสียงไม่เบานัก แต่ไม่เป็นปัญหาว่าจะมีใครมาว่า เพราะร้านเพื่อนเธอตั้งอยู่ในหลืบอย่างแท้จริง รอบข้างก็เป็นตึกร้างที่ไม่มีใครอยู่ ตอนกลางคืนบรรยากาศก็วังเวงน่ากลัว ไม่เหมาะกับผู้หญิงธรรมดาอยู่ตัวคนเดียวเลยสักนิด แต่เผอิญเพื่อนเธอเลยคำว่า ‘ธรรมดา’ ไปไกลลิบ

    สิ้นเสียงประตูก็ถูกเปิดออกโดยเพื่อนรัก ที่วันนี้ก็ใส่ชุดเดรสสีฟ้าแบบเดิม เอวี่มีชุดเดรสสีฟ้าแบบเดียวกันเป็นสิบตัว เธอให้เหตุผลง่ายๆ ว่ามันประหยัดเวลาคิดเรื่องเสื้อผ้าและก็แน่นอนประหยัดเงินในกระเป๋าเธอด้วย เพราะไม่ต้องคอยซื้อชุดใหม่

    “มาส่งเสียงดังอะไรแต่เช้าฮึ ถือว่าจ้างกันแล้วจะมาทำเสียงดังตอนกี่โมงก็ได้หรอ” อลิซเดินเข้าด้านในไม่สนสายตามาดร้ายจากเพื่อนสนิท ทำทีเป็นไม่รู้เรื่องว่าเอวี่พูดถึงอะไร

    “กินอะไรหรือยัง ฉันทำอะไรให้กินไหม” อลิซถามเพื่อนตาใส พยายามทำตัวไม่ให้ตัวเองโดนเตะออกไปข้างนอกทั้งๆ ที่เพิ่งได้เข้ามา เพื่อนเธอเป็นมนุษย์กลางคืน นอนหกโมงเช้าตื่นสี่โมงเย็น แต่หากมีงานต้องทำก็จะอยู่ยันเช้าขึ้นไปอีก เช่นวันนี้ และสิ่งที่เอวี่เกลียดเป็นอันดับต้นๆ ก็คือการถูกรบกวนแต่เช้า เช่นวันนี้อีกเช่นกัน

    “ฉันชงชาให้ไหม ชาละกันเนอะ” หันไปถามคนที่นั่งขมวดคิ้วกับกองเอกสารบนโต๊ะยาวตัวใหญ่กลางห้อง แต่เจ้าของห้องไม่ตอบ อลิซจึงเชิญตัวเองไปชงชาให้เพื่อนรัก ข้าวของที่เคยวางเต็มโต๊ะถูกเจ้าของเอาลงมาวางบนพื้น ทางเดินที่แคบอยู่แล้วยิ่งแคบไปอีก เหลือแค่ที่ว่างเล็กๆ ให้วางเท้าเดินได้ เอวี่ถอนหายใจ หลังพิงพนักเก้าอี้ ตาสองข้างหลับลง เอ่ยถามคนที่กำลังต้มน้ำร้อนในครัว

    “แล้วมีเรื่องอะไรละ มาถึงที่นี่แต่เช้า วันนี้เธอต้องทำงานไม่ใช่?” ได้ยินคำถามท้ายประโยคของเอวี่ อลิซที่กำลังง่วนกับการชงชาเงยหน้าขึ้น ตาสองข้างเบิกกว้าง ลืมเรื่องที่ตั้งใจมาเล่าให้เพื่อนสาวฟังสนิท ตะโกนคำหนึ่งขึ้นมา

    “ทำงาน!?!” เผลอวางกาต้มน้ำอย่างแรงทำให้น้ำเดือดกระฉอกออกมาจากกาต้มน้ำโดนแขน อลิซสะดุ้งโหยงแต่ด้วยความตกใจมันจึงไม่ได้รู้สึกร้อนเท่าที่ควรจะเป็น เธอก้าวเร็วๆ ออกครัวหยิบของที่วางไว้ ใช้ปลายเท้าเขี่ยของที่วางเกะกะบนพื้น เดินไปที่ประตู กระชากมันออกอย่างแรง หันมาพูดกลับเจ้าของร้านขายอุปกรณ์เอวี่ก่อนจะรีบออกไปดั่งพายุว่า

    “จะกลับมาเล่าตอนเย็น! ฝากชงชาต่อด้วย” แล้วประตูก็ปิดลง เหลือไว้แต่เสียงหวีดของกาน้ำร้อนในครัวด้านใน กอปรกับเสียงหัวเราะขำขันที่แฝงไปด้วยความสะใจของเจ้าของร้านขายอุปกรณ์ที่ร้านรกมาก


    -------------------------------------------------------- 

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in