17.30
กลิ่นหอมปนขมของกาแฟภายในร้านคละคลุ้ง เสียงเพลง JAZZ ที่ชอบเปิดกันในร้านกาแฟ ภายในร้านเงียบสงบแต่ก็ยังมีเสียงคุยกันของบางโต๊ะอยู่บ้างนอกจากเสียงของผู้คนบางโต๊ะที่สนทนากันก็ยังมีเสียงกรุ๊งกริ๊งของกระดิ่งหน้าประตูที่จะส่งเสียงเวลามีคนเปิดเข้าเปิดออกเวลานี้ใกล้จะตะวันลับขอบฟ้าแล้วแสงแดดที่ส่องผ่านลอดผ่านม่านเข้ามาทำให้ภาพในร้านรู้สึกอบอุ่นจากแสงแดดอ่อนๆของตะวันที่กำลังจะลับขอบฟ้า
วันนี้เป็นอีกวันที่เขามานั่งอยู่ร้านนี้เขาชอบทุกอย่างในร้านนี้ การตกแต่ง กลิ่นหอมๆนั้นของกาแฟ บรรยากาศที่อบอุ่นของร้านรวมไปถึงเจ้าของร้านที่เขาพยายามจะจีบมาหลายเดือน เขาเหมือนคนว่างงานที่เอาแต่มานั่งที่คาเฟ่แห่งนี้แต่ความจริงแล้วไม่ เขาชอบมานัดลูกค้าคุณงานที่นี่มากกว่าช่วงนี้เขายุ่งกับโปรเจคบ้านที่เขาพึ่งรับมาจากคุณนายลินดา ภรรยาของรุ่นพี่ของพ่อเขาเขานั่งกลุ้มใจกับงานมาหลายวันเพราะเอาไปให้ส่งให้คุณลินดากี่ครั้งเธอก็มีความต้องการที่อยากจะปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมบ้านเธอใหม่ตลอดและเขาก็ไม่สามารถที่จะตำนิเธอได้เพราะอาชีพของเขาเป็นแบบนี้เขาถอนหายใจเฮือกใจในขณะที่กำลังเช็คข้อมูลก่อนที่คุณลินดาจะมาหาเขาอีกไม่ถึงชั่วโมงนี้
“คุณลูกค้าครับรับน้ำชาเพิ่มมั้ยครับ เดียวผมจะเติมน้ำร้อนให้”
เขาเงยหน้าถึงตามเสียงเล็กๆ ของคนที่มาถามเขา เขาพยักหน้าให้เป็นคำตอบแล้วพิจารณาใบหน้าของคนที่มาถามไม่ใช่พนักงานแต่เป็นเจ้าของร้านที่เขาพยายามจีบ แต่จีบแบบไม่ให้เจ้าตัวได้รู้สึกเขาจะไม่รู้ได้ยังไงเล่า ก็เขาไม่ได้เคยคุยกับเจ้าของร้านนั้นเลยสักครั้งเดียวไม่นับที่มาถามเขาเมื่อกี้นะ นั้นไม่นับว่าคุยกันเขามองตามแผ่นหลังนั้นทุกฝีก้าวที่คนตัวเล็กขยับ มือเล็กบางทำทุกอย่างอย่างคล่องแคล่วเชียวชาญ เชียวชาญมากสะจนเขาลืมแก้งานเลย
“นี่ครับคุณลูกค้า”
“ขอบคุณครับ”
“คุณลูกค้าเป็นสถาปนิกหรอครับ”
“ใช่ครับ”
“งั้นผมขอปรึกษาหน่อยได้มั้ยครับ”
“ได้สิครับ”
“งั้นขอผมนั่งด้วยนะครับ..อ่ะ!เดียวผมไปเอาแก้วของตัวเองมาก่อนเดียวมานะครับคุณ”
เขาพยักหน้ารับให้กับคนตัวเล็กที่เขาพยายามจะคุยด้วยมาหลายรอบแล้วเจ้าของร้านตัวเล็กรีบวิ่งไปหลังเคาท์เตอร์แล้วจัดการเตรียมเครื่องดื่มสำหรับตัวเองและเขาก็ไม่ลืมที่จะบันทึกภาพเหล่านั้นไว้ในหัวสมองเขาคนตัวเล็กเดินกลับมาอีกครั้งพร้อมกับถาดที่มีกาน้ำชา แก้วใบเล็ก นมสด และน้ำผึ้งคนตัวเล็กส่งยิ้มหวานๆให้เขาอีกครั้งแล้วนั่งลงในเก้าอี้ข้างๆกันทำให้เขาได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆออกมาจากตัวคนนั่งข้างๆ
“คือชั้นสองของร้านนี้เคยเป็นห้องเก็บของทางร้านแต่ทีนี้ผมได้เก็บของออกแล้วตั้งใจว่าจะปรับปรุงเพื่อให้เป็นห้องนอนบวกกับห้องทำงานไปด้วยนะครับเพราะช่วงนี้ที่ร้านผมทำบาร์ด้วยตอนกลางคืนผมเลยอยากย้ายออกมาอยู่ที่นี้เลยแต่ปัญหามันติดอยู่ที่ผมจะจัดวางทุกอย่างยังไงดีผมไม่ค่อยมีหัวทางด้านพวกนี้เท่าไร ”
“แต่คุณก็จัดร้านได้ดีนี้ครับ”
“ผมไม่รู้จะแบ่งโซนยังไงคุณสถาปนิกพอจะว่างมั้ยครับช่วงนี้ ผมจ้างคุณก็ได้”
คำถามของเจ้าของร้านตัวเล็กทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นกับความกล้าที่จะถามเขามองใบหน้าที่จริงจังของคนตัวเล็กก่อนจะพิจารณางานของตัวเองในหัวไปด้วย renovateชั้นสองของร้านกาแฟคงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากหรอกมั้ง แถมได้อยู่ใกล้กับคนตัวเล็กด้วยยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลย แถมของคุณลินดาก็คงไม่ได้แก้อะไรอีกแล้วละถ้าวันนี้ถูกใจเธออะนะ
“งั้นผมของดูข้างบนก่อนได้รึป่าว”
“ได้สิครับเชิญทางนี้เลย”
เขาต้องดูพื้นที่ที่จะทำงานก่อนที่จะตอบปากรับคำว่าความยากอยู่ที่ตรงไหน เขาเดินตามคนตัวเล็กจนไปเจอบันไดทางขึ้นไปชั้นสองพอขึ้นมาสิ่งแรกที่เจอเลยคือพื้นที่หน้าห้องเล็กๆขนาดพอดีที่จะสามารถวางกระถางต้นไม้ได้สักต้น ติดชั้นวางหนังสือหรือวางของสักอย่างที่ผนัง เขาเดินตามคนเล็กที่อธิบายราวกับเป็นไกด์นำเที่ยวจนเปิดเข้าไปในห้อง เขาพิจารณาห้องสี่เหลี่ยมที่มีห้องน้ำในตัวห้องยังไม่ได้มีอะไรตกแต่งสักเท่าไร เป็นห้องโล่งๆที่คงจะพึ่งทาสีขาวเสร็จเพื่อรองพื้นที่จะทาสีใหม่ของห้องทับสุดทางของห้องมีประตูเลื่อนกระจกที่สามารถออกไปรับลมของระเบียงได้ ก็เป็นห้องโล่งๆเบสิกห้องหนึ่งละน่ะคงไม่ได้ยากอะไร แถมคนตัวเล็กนี่ก็คงไม่ได้มีความต้องการอะไรเยอะหรอกดูจากการที่แต่งร้านกาแฟแล้วก็คงจะชอบอะไรประมาณนี้ สีเอิร์ธโทน สีน้ำตาล สีแทนสีเทา สีเขียว สีครีม สีเลียนแบบธรรมชาติพวกนี้ทำให้ดูสบายตา
“โอเคครับผมรับงาน แต่วันนี้ผมไม่ว่างคุยงานกับคุณเพราะผมมีนัดลูกค้าแล้ว”
“แล้วคุณว่างตอนไหนครับ”
“งั้นตอนเย็นที่คุณทำบาร์ผมจะกลับมาอีกทีสัก21.00 ”
“ได้สิครับขอบคุณนะครับคุณ ...”
“ผมอลัน”
“ผมวอร์มครับยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”
21.09
เหมือนเป็นสถานที่ใหม่เมื่อเขากลับมาเขามองร้านกาแฟที่เขามานั่งในตอนเช้าแปรผันกลายเป็นมินิบาร์แบบร่วมสมัยไฟสลัวๆของร้านดูเหมือนจงใจยิ่งเสริมบรรยากาศให้น่านั่งยิ่งขึ้นเขามองซ้ายมองขวาหาคนที่เขานัดไว้ และก็สะดุดตาที่หน้าบาร์คนตัวเล็กที่มีรอยยิ้มโดดเด่นตลอดเวลา ดีเยี่ยมจริง ๆเหมือนคนตัวเล็กจะเห็นเขาแล้วเช่นกันเลยโบกทักทายแล้วผายมือให้เขานั่งก่อนเหมือนมีมนต์สะกดเมื่อเขายอมทำตามอย่างเลี่ยงไม่ได้เสียงเพลงที่เป็นจังหวะคุ้นหูของเขาดี เพราะเป็นเพลงที่เขาชอบเลยทีเดียวJeff Bernat ศิลปินที่เขาชื่นชอบมานานเขาหลับตาฟังเพลงที่กำลังเปิดอย่างใจเย็นสักพักจนได้ยินเสียงของแก้วกระทบลงกับโต๊ะ
“ง่วงหรอครับคุณอลัน”
“ป่าวหรอกครับ”
“เครื่องดื่มครับผมไม่รู้ว่าคุณชอบแบบไหนเลยเอาคราฟท์เบียร์ตัวใหม่ของร้านมาให้ลอง”
“ผมเป็นหนูทดลอง?”
“ฮ่า ๆ ไม่หรอกครับ ผมลองแล้วใช้ได้เลยครับ”
“ขอบคุณครับ”
“งั้นเราเริ่มเลยมั้ยครับคุณเดียวจะเสียเวลาคุณ”
“ครับได้”
เนินนานที่เขาพูดคุยกับคนตัวเล็กเรื่องชั้นสองของร้านและดูเหมือนว่าคราฟท์เบียร์ตัวใหม่ที่คนตัวเล็กเอามาให้ลองจะมีรสชาติเข้มสะจนสามารถปั่นสติของเขาได้ เขาเริ่มรู้ตัวสักพักแล้วว่า หลายๆอย่าง เริ่มมอมเมาเขาทั้งเพลง Jeff Bernat - Just Vibeที่เปิดจะจงใจเปิดใส่เขาตอนนี้ เขายอมรับเลยว่าหยุดมองคนตัวเล็กข้างหน้าไม่ได้แก้มขาวเริ่มแดงระเรื่ออันเนื่องมาจากไวน์รสชาติดีในแก้วใส
There’s something about ya
From the way you move those sexy lips when you talk to me.
ถ้าย้อนเวลาไปได้เขาอยากจะรู้จักกับคนตัวเล็กเร็วกว่านี้ตอนแรกที่มาร้านนี้ เขาเห็นแค่ภายนอกของคนตัวเล็กแต่พอตอนนี้ได้พูดคุยได้ทำความรู้จักกัน มันยิ่งทำให้เขาชอบมากขึ้นไปใหญ่เขาชอบเสียงหัวเราะของคนนี้สะจริง สดใส ร่าเริง เหมือนดอกไม้ที่ได้รับน้ำฝนพรางทำให้คนที่อยู่ใกล้สดชื่นตามกันไปด้วย เขาชอบที่มือเล็กนั้นเวลาถือแก้วแม้แต่ทรงผมที่ดูเหมือนจะไม่ได้ตั้งใจเซ็ตเขาก็ยังชอบ
I like how you take your pictures.
I like how you sip your wine.
“หน้าผมมีอะไรติดรึป่าวคุณอลัน คุณเอาแต่จ้องหน้าผม”
“น่ารัก ... เอ่อ คือ ร้านของคุณน่ารัก”
“อ่อ คุณบอกผมหลายรอบแล้วครับ แต่ผมดีใจนะถ้าคุณชอบ”
“ครับ ชอบมากๆเลย”
“ผมดีใจนะเนี่ยที่เข้าตาสถาปนิกอย่างคุณอลัน” อ่ารอยยิ้มนั้น เหมือนมนต์สะกดจริง ๆ ชักจะแย่แล้วสิทำไมถึงได้ยิ้มได้น่ารักขนาดนี้นะคุณวอร์ม ริมฝีปากเล็กสีเชอร์รี่นั้นเขาไม่อยากคิดเลยถ้าเขาได้ครอบครองหรือได้ ... บ้าจริงๆ
“อ่า ผมขอออกไปสูบบุหรี่หน่อยได้มั้ยครับ”
“ได้สิครับ”
นี่เขาคิดกับคนตัวเล็กนั้นไปถึงไหนกันแล้วเชียว ถ้าคนตัวเล็กนั้นมารู้เขาคงโดนเกลียดแหง แค่คิดเขาก็แห้วสะแล้วจนเผลออัดบุหรี่เข้าทั่วปอด แต่แย่หน่อยที่การกระทำที่ไร้เหตุไร้ผล สับสนกระวนกระวายของเขาดันอยู่ในสายตาของใครบางคนตลอดเวลา ตั้งแต่ที่เดินออกมาหน้าร้าน
“ขอผมด้วยได้รึป่าว”
เสียงหวานเล็กนั้นถามทำให้เขาต้องหันไปมองอย่างงง ก่อนจะรีบพยักหน้าให้คนตัวเล็กที่ยิ้มอยู่ เขายื่นซองบุหรี่ให้ก่อนจะยื่นไฟแช็คตามแต่ยังไม่ทันที่จะจุดให้คนตัวเล็ก มือนิ่มนั้นก็รั้งท้ายทอยของเขาให้ก้มลงมาให้เสมอกับตัวเองและคาบบุหรี่ไว้ เพื่อต่อบุหรี่ที่จากเขา ถามว่าตกใจมั้ยกับการกระทำนี่ ตกใจแหละไม่คิดว่าจะโดนเหตุการณ์ที่เหมือนซี่รีย์ฝรั่งเรื่องหนึ่งที่เขาเคยดูเมื่อเดือนที่แล้วขนาดนี้
กลิ่นนิโคตินของบุหรี่ที่ชวนให้เมาไม่ได้ช่วยให้ดับกลิ่นหอมที่ลอยมาจากคนตรงหน้าเลยเขาหยุดนิ่งมองเข้าไปในดวงตานั้นเหมือนพยายามค้นหาอะไรบ้างอย่างที่คนตรงหน้าพยายามสื่อและถ้าสิ่งที่เขาเจอถูกต้องจริงๆ เขาคงไม่ต้องแห้วสะแล้ว
“ปกติสูบด้วยหรอครับ ผมนึกว่าคุณจะไม่ชอบสะอีก”
“ไม่สูบนานแล้วครับ แต่เพราะเป็นคุณผมเลยอยากออกมา”
“อ่า ”
คำตอบของคนตัวเล็กข้างๆเขาทำให้ใจของคนวัย 27 เต้นราวกับเด็กอายุ 16 ตื่นเต้นกับคำตอบคาดหวังกับสิ่งที่ตามมานอกจากนี้
“ฝนรินสะแล้ว”
“จริงด้วย งั้นเราเข้าข้างในร้านดีกว่ามั้ยครับ”
“ครับ เดียวผมตามเข้าไป ขอหมดม้วนนี้ก่อนนะครับ”
“ครับ ผมรอคุณข้างในนะ รีบเข้ามานะ”
อ่า... แย่แล้ว ใจเต้นไม่หยุดเลย
“ครับเดียวผมรีบเข้าไปหา”
เขาไม่รู้หรอก ว่าถ้าก้าวเดินเข้าไปตามจะเป็นเช่นไร แต่เขารู้เพียงแค่ว่าคำเชิญชวนของคนตัวเล็กที่เขาถูกใจมาหลายเดือนคนนี้มันช่างน่าหลงใหลเหมือนน้ำหวานที่มีเขาเป็นแมลง ส่งกลิ่นหอมเย้ายวนชวนให้เขาเข้าไปลิ้มลองแล้วเขาก็ไม่รู้ด้วยว่า ถ้าก้าวมากกว่านี้ไปเรื่อย ๆ เขาจะต้องพบเจออะไรหรือต้องเสียใจมั้ย หรือผิดหวัง เขาไม่ได้เตรียมการสำหรับเรื่องแบบนั้น ตอนนี้ เวลานี้เขาแค่อยากได้รอยยิ้มนั้นอีก อย่างฟังเสียงหวานๆนั้นเรียกชื่อเขาอีกเท่านั้น .
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in