เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
100 writing prompts challengehashine_miharu
1. Dance
  •        หลังจากเราดูภาพยนตร์เสร็จก็เป็นเวลาค่อนข้างดึกแล้ว ห้างสรรพสินค้าอันเป็นที่ตั้งของโรงภาพยนตร์ก็ใกล้จะถึงเวลาปิดทำการ บางร้านภายในห้างเริ่มดับไฟ บางร้านพนักงานยังคงสาละวนอยู่กับการเก็บของและทำความสะอาดร้านอย่างรีบเร่งเพื่อที่ตนเองจะได้รีบกลับบ้านไปพักผ่อนเสียที

           เราเดินออกจากโรงภาพยนตร์ ผมก้าวเท้ามุ่งตรงไปที่ทางไปลานจอดรถ แต่เธอจับแขนผม ออกแรงดึงเบาๆ

           "ไปเดินเล่นกันหน่อยได้มั้ย ไม่ได้มาแถวนี้นานแล้วนะ" เธอเอียงคอเล็กน้อย มุมปากประดับด้วยรอยยิ้มละไม ผมยิ้มตอบก่อนจะพยักหน้า

           ภายนอกห้างยังมีร้านที่ยังเปิดอยู่ ถนนยังเต็มไปด้วยแสงไฟทั้งจากรถยนต์ที่ยังคงแล่นสวนกันขวักไขว่ และจากร้านรวงต่างๆ เธอเดินชี้ชวนให้ดูของที่ขายในร้าน พูดคุยเรื่อยเปื่อยถึงสิ่งต่างๆ ที่เปลี่ยนไป บางร้านที่เคยมาเป็นประจำในอดีตก็ไม่มีแล้ว มีร้านใหม่ตั้งขึ้นแทน จนกระทั่งมาหยุดอยู่หน้าห้างสรรพสินค้าอีกแห่งหนึ่ง

           "ตรงนี้เคยเป็นโรงหนังที่เรามาดูกันเมื่อก่อนใช่มั้ย"
           "เปลี่ยนไปเยอะเลยเนอะ"
           "จำได้ๆ เธอมายืนรอเราตรงนี้ตลอดเลย มีวันนึงที่เราติดงานมาช้าป่ะ เธอเลยงอนไม่รอแล้ว แต่ตอนนั้นไม่ต้องไปวุ่นวายตามหาที่ไหนเลย เจอได้ที่ร้านขนม" 

           เธอค้อนวงใหญ่ใส่ผม ก่อนจะต่อยแขนผมเบาๆ เมื่อได้ยินคำพูดเชิงล้อเลียนแบบนั้น ผมมองว่ากิริยาแบบนั้นมันช่างน่ารัก

           เราเดินกันมาจนถึงสวนสาธารณะ มันยังไม่ถูกแทนที่ด้วยอย่างอื่นก็จริง แต่ก็ถูกปรับภูมิทัศน์ใหม่หมดจนจำแทบไม่ได้ ทางเดินปูอิฐเรียงเป็นระเบียบสวยงาม มีต้นไม้ที่ไม่คุ้นเคยเพิ่มเข้ามา ซุ้มม้านั่งก็เปลี่ยนไป ม้านั่งที่เราเคยนั่งด้วยกันไม่มีอยู่อีกแล้ว เรานั่งลงบนม้านั่งตัวใหม่ที่เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกนั้นเอง เรายังคุยกันเรื่องสัพเพเหระ พูดถึงเรื่องราวในความทรงจำ ดูเหมือนเราสองคนจะเริ่มอายุมากแล้วกระมัง ถึงได้มานั่งคุยเรื่องความหลังแบบนี้

           บทสนทนาหยุดลง ความเงียบโรยตัวลงมาปกคลุมระหว่างเรา จู่ๆ เธอก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเสียบหูฟัง แบ่งหูฟังอีกข้างให้ผม เธอลุกขึ้นยืน จับมือผมดึงให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้

           ผมหัวเราะเบาๆ มองหน้าเธอ เลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่าเอาจริงหรือ เธอยิ้มจนตาปิด พยักหน้ารัวๆ ผมจึงลุกขึ้น ขยับไปใกล้เธอ กุมมือเล็กๆของเธอไว้ข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างเอื้อมไปแตะบนแผ่นหลัง

           ใต้แสงจันทร์ทอประกายสีเงินยวง เราเต้นรำกันไปตามจังหวะเพลงที่ได้ยินกันเพียงสองคน ประสานสายตากัน ผมจ้องมองลึกลงไปในดวงตาสีน้ำตาลเข้ม เห็นประกายงดงามในดวงตาคู่นั้น ใบหน้างดงามเปี่ยมสุขแต่งแต้มรอยยิ้มพริ้มเพรา 

           เธอยังคงเหมือนเดิม แม้ในวันนี้ที่สิ่งต่าง ๆ รอบกายเปลี่ยนแปลงไป แต่เธอยังเหมือนวันแรกที่เราพบกัน 
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in