อาจารย์สั่งให้ศิษย์สองคนถือแจกันไปให้แขกที่ห้องรับรอง
ศิษย์พี่เลือกถือแจกันใบใหญ่ ส่วนศิษย์น้องจึงได้ถือแจกันใบเล็ก
พอถึงกลางทาง ศิษย์น้องก็ขอหยุดพักแล้ววางแจกันลงกับพื้น
ศิษย์พี่เห็นดังนั้น ก็ต่อว่าศิษย์น้อง ว่าทำไมจึงสำออยนัก แต่ศิษย์น้องไม่โต้ตอบอะไร
พอเดินมาอีกครู่หนึ่ง ศิษย์น้องก็ขอพักวางแจกันลงอีก
ศิษย์พี่ก็ไม่วายที่จะตำหนิศิษย์น้องอีก จนกระทั่งทั้งสองถือแจกันมาถึงห้องของอาจารย์
ศิษย์พี่ก็พูดขึ้นว่า ศิษย์น้องของเขาอ่อนแอนัก ยกแจกันใบเล็ก ๆ เดินไม่นานก็เหนื่อย ต้องหยุดพักบ่อย ๆ ทำให้เขาต้องหยุดรอเป็นเพื่อน และทำให้เอาแจกันมาส่งอาจารย์ช้ากว่าที่ควรจะเป็น
เมื่ออาจารย์ได้ยินเช่นนั้นก็ถอนใจ แล้วเรียกศิษย์คนโตเข้ามาใกล้แล้วถามว่า
ทำไมจึงเลือกยกแจกันใบใหญ่ ศิษย์คนโตบอกอาจารย์ว่า
แจกันใบใหญ่ย่อมหนักกว่า เขาจึงยอมเสียสละยกใบใหญ่แทนศิษย์ผู้น้อง
อาจารย์ได้ฟังดังนั้นก็หันมาทางศิษย์ผู้น้องแล้วถามว่า
ทำไมจึงไปบอกความจริงต่อศิษย์พี่ของตน ว่าแจกันใบเล็กนั้นหนักกว่าแจกันใบใหญ่ถึงสามเท่า
ศิษย์น้องชี้ไปที่ผ้าพันแผลบนมือของศิษย์พี่ แล้วตอบว่า
"ข้ากังวลว่าหากศิษย์พี่ยกแจกันใบเล็ก บาดแผลบนมือของเขาจะเจ็บหนักขึ้น ข้าจึงไม่กล้าบอก"
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in