การที่เพิ่งมารู้จักกับบังทันได้ไม่ได้นาน(ไม่ถึงปีด้วยซ้ำ) ทำให้เราฟังเพลงในแต่ละอัลบัมในระยะเวลาที่ทิ้งห่างกันไม่มากนัก ฟังเรียงไปแต่ละอัลบัม ได้เห็นถึงพัฒนาการและตัวตนของวงชัดเจนขึ้น 

WINGS เป็นอัลบัมที่หลายคนอาจมองว่าแตกต่างจากอัลบัมก่อนหน้าอย่างชัดเจน สำหรับเราแล้ว มองว่าอัลบัมนี้ไม่ได้แหก หรือแหวกความเป็นบังทันมากขนาดนั้น ยังมีลายเซ็นของน้องๆอยู่ แต่สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่าBighit มีทีมงานคุณภาพอยู่ในมือก็คือรายชื่อคนทำเพลงตั้งแต่อัลบัมแรก จนมาถึงอัลบัมล่าสุด แทบจะใช้ทีมงานเดิมทั้งหมด แต่สามารถสร้างงานที่เป็นเอกลักษณ์ และพัฒนาวัตถุดิบที่ทั้งBighitและบังทันมี ให้ดียิ่งขึ้น และกลมกล่อมยิ่งขึ้น

สิ่งที่เห็นได้ชัดในอัลบัมนี้ก็คือแนวเพลงที่ฟังครั้งแรกทั้งอัลบัมก็รู้เลยว่า ครั้งนี้ Bighit คงเอาจริงแล้วที่จะให้น้องๆออกสู่ตลาดที่กว้างขึ้น กลุ่มคนฟังที่กว้างขึ้น แนวเพลงส่วนใหญ่อาจไม่ได้เอาใจตลาดคนฟังเพลงในบ้านเกิด แต่เอาใจแฟนต่างชาติอย่างเต็มๆ การที่น้องๆมีฐานแฟนคลับเป็นต่างชาติค่อนข้างเยอะอยู่แล้วนั้น ทำให้อัลบัมนี้ประสบความสำเร็จมาก ทั้งยอดขาย และการนำเสนอข่าวของสื่อต่างๆเทียบกับที่ผ่านมา

ถ้าให้เปรียบเทียบกับอัลบัมก่อนหน้า อย่างฮวายังPt.1 และ Pt.2 (ขอยกมาเทียบแค่2อัลบัมนี้นะคะ เพราะรู้สึกว่าเป็นจุดเปลี่ยนเรื่องความหลากหลายของเพลงที่ค่อนข้างเห็นได้ชัด) เรากลับรู้สึกว่าแต่ละเพลงในฮวายัง ให้ความรู้สึกที่ตื่นเต้น โลดโผน ความสดชื่นที่ได้ฟังแต่ละเพลงในแทร็กลิสต์ไล่ๆกันมา เพลงที่1 ไปเพลงที่2 ไปเรื่อยๆจนหมดอัลบัม ให้ความรู้สึกที่ไม่ซ้ำกันเลย ถ้าพูดถึงความหลากหลายของแนวเพลง เราว่าซีรีย์ฮวายังนี่แหละค่ะ ที่พูดได้อย่างเต็มปากว่า บังทันทำเพลงได้หลากหลายแนว
กลับมาที่ WINGS กันบ้าง ฟังรวดเดียวแบบเร็วๆไม่ได้เจาะรายละเอียดของแต่ละเพลงครั้งแรก ถึงกับ หืมมม เพลงดูโตขึ้นเยอะเลย ฟังสบายด้วย เป็นอัลบัมที่ให้ความรู้สึกว่าเราสามารถฟังได้เรื่อยๆ ไม่เบื่อ กราฟความแตกต่างของแต่ละเพลงอาจไม่หวือหวามากเท่าฮวายัง แต่เราว่านี่แหละ คือบาลานซ์ของ อัลบัมที่เหมาะกับฟังในระยะยาว เสน่ห์ของการทำเพลงแบบนี้คือ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี เราก็สามารถหยิบซีดีออกมาฟังได้เสมอ

WINGS กับการฉายสปอตไลท์ให้กับสมาชิกทุกคน...
รู้สึกอย่างนั้นจริงๆนะคะ สปอตไลท์ฉายให้แต่ละคนมากๆ ถ้าเป็นอัลบัมก่อนหน้า เราจะรู้สึกว่าแร๊พเปอร์ของวงมีบทบาทและเด่นออกมาเลย อาจด้วยการแบ่งเนื้อร้อง หรืออะไรก็แล้วแต่ พอมาอัลบัมนี้ รู้สึกถึงความกลมกล่อมของสายร้องและสายแรป แถมยังมีโซโล่ครบทุกคนเลย 7 เพลง แปลกใหม่สำหรับเรามาก ยังไม่เคยฟังอัลบัมที่มอบโซโล่ให้ครบทุกคนแบบนี้ นับว่าBighitใจป๋าและกล้าเสี่ยง แต่นั่นแหละค่ะ ทำให้เราเกินคาดกับสมาชิกทุกคนมากจริงๆ สายแร็พคงไม่ต้องพูดถึงแล้ว ทุกคนคงรับรู้ว่างานดีมาตั้งแต่ต้น แต่สายร้องนี่สิคะ ฉายแสงมากเลย เสียงและเทคนิคการร้องของแต่ละคนไม่ซ้ำกัน น่าสนใจมาก เราเคยเขียนไปก่อนหน้านี้ว่าสนใจน้ำเสียงของจิน แต่เสียดายที่ได้ร้องน้อย จนมาได้ฟัง Awake ก็ได้อย่างที่เราหวังเลยค่ะ รวมถึงStigmaของวีด้วย พูดตรงๆว่า2คนนี้ดูวิชวลมากกกกก มากจนเรารู้สึกว่าเห้ย แบ่งท่อนร้องให้เค้าเยอะๆหน่อย หล่อก็ร้องเพลงได้นะ แบ่งท่อนมา!!! อัลบัมนี้รู้สึกว่า2คนนี้ท่อนร้องขึ้นกว่าเดิมอยู่นะคะ ดีใจ T^T
ต่อไปพูดถึงเพลงที่เราสนใจในอัลบัมนี้นะคะ เลือกมา 6 เพลง.....(เลือกอยากมาก แต่ละเพลงศีลเสมอกันสุดๆ)

- MAMA : J-Hope สนใจเพลงนี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ฟังตอนเป็นหนังสั้น จนมาได้ฟังเพลงเต็มๆ กลายเป็นเพลงที่เราชอบสุดในอัลบัมนี้ ชอบจังหวะ เครื่องดนตรี และหลายๆอย่างในเพลงนี้ ให้ความรู้สึก old school จากเครื่องเป่าในเพลง บวกกับทำนองที่สนุกสนาน ฟังแล้วสดชื่น ต้องโยกตัวทุกครั้งที่ได้ฟัง เข้ากับเจโฮปได้อย่างดี
- Blood Sweat & Tears ปกติเพลงโปรโมทของบังทันจะเป็นเพลงที่เราชอบน้อยสุดในอัลบัมเลย แต่มาเพลงนี้ชอบดนตรีตั้งแต่ครั้งแรกที่ฟัง สนุกมาก ซัมเมอร์สุดไรสุด มีความสเปน แล้วเสียงแหบนิดๆของจีมินตอนขึ้นต้นมานี่คือเกินต้านทาน แต่นิดนึงจริงๆ คือท่อนฮุคที่ร้อง มานี มานี อันนี้เรารู้สึกว่ามันเป็นจุดสะดุดของเพลงเล็กน้อย แต่โดยรวมเพลงสนุก และสดใหม่สำหรับตลาด K-pop ที่เลือกใช้เพลงนี้เป็นเพลงโปรโมท
- Lie : Jimin เสียงของจีมินมีเสน่ห์สำหรับเรามาก ขอใช้คำว่า eargasm กับเสียงนี้นะคะ เสียงจีมินในเพลงนี้ เหมือนเสียงจะบางก็ไม่เชิง มีความแหบนิดๆ แต่ก็มีพลังอยู่ภายใต้เสียงบางๆนั้น เทคนิคแพรวพราวเหลือเกิน มันเป็นเสียงที่ทิ่มแทงความรู้สึกได้จริงๆนะ บวกกับดนตรีในเพลง ที่แสนจะdramatic เข้ากันกับเสียงจีมินดี 
- Stigma : V เป็นเพลงที่เราอยากฟังเขาร้องสดในคอนเสิร์ตมากเลย ฟังแบบตั้งใจ โดยปราศจากเสียงกรี๊ด เรารู้ว่าวีเป็นคนที่เรนจ์เสียงกว้าง แต่ก็ยังไม่เคยได้เห็นเขาโชว์แบบจังๆ จนมาเพลงนี้ โห เป็นคนมีของจริงๆนะ สามารถเปลี่ยนคีย์จากต่ำสุด ไปสูงได้อย่างไหลลื่น และเป็นธรรมชาติมาก ฟังแล้วไม่ได้รู้สึกลุ้นหรือเหนื่อยที่จะฟังเขาขึ้นเสียงสูงหรือลงต่ำ เนียนมาก ในแง่ของเทคนิคอาจไม่หวือหวาเท่าของจีมินและจองกุก แต่การเก็บลม และพลังยังเหลือ ตอนฟังเพลงนี้เรารู้สึกว่า วียังมีพลังอยู่อีกในตัว สามารถโชว์ได้มากกว่านี้อีก แล้วก็ขอชมการเรียงลำดับเพลงของBighitในอัลบัม มันทำให้เพลงนี้โดดเด้งขึ้นมา เพราะเพลงก่อนหน้านั้นจะค่อนข้างที่จะใช้ดนตรีสังเคราะห์ แต่พอมาเพลงของวี ดนตรีฟังสบาย บวกกับเสียงทุ้มต่ำตอนขึ้นต้นเพลง เข้ากันดีมาก
- Lost เพลงนี้ที่ชอบเพราะเหมือนได้หวนกลับไปช่วงฮวายัง ได้กลิ่นอายของอัลบัมนั้น ชอบการเลือกที่จะใช้เสียงลมในการร้องเพลงนี้ของโวคอลทั้ง4คน ส่วนพาร์ทดนตรีเราชอบจังหวะของเพลง มีการค่อยๆสร้างอารมณ์ของเพลงด้วยเสียงรัวกลองสแนร์ ส่วนตัวเราชอบเสียงของสแนร์อยู่แล้ว อัลบัมนี้บังทันใช้กับหลายเพลงเลย ที่จะเห็นได้ชัดๆก็คือ 2!3!
- Wings เหมาะที่จะใช้เป็นเพลงปิดอัลบัม ถึงเพลงจะสั้น แต่เรารู้สึกว่ามันเป็นการปิดที่ดี ลงตัว ดนตรีมีความกังวาล รู้สึกเลยว่าเพลงนี้ส่งพลังบางอย่างมาให้ ยิ่งท่อน Spread Spread Spread my wings รู้สึกเหมือนจะมีปีกงอกขึ้นมากจริงๆอ่า5555 รู้สึกอยากบินเลย
แถม 2!3! อีกเพลงค่ะ เพิ่งรู้ว่าเป็น Fan song เลยไปฟังความหมายมาฟัง ฮืออออ ชอบจัง ปกติfan song ที่เราฟังมาความหมายจะค่อนข้างสวยงาม เดินบนทุ่งดอกไม้เล็กน้อย แต่อันนี้ชอบประเด็นที่บังทันหยิบขึ้นมาใช้เล่าเรื่องผ่านเพลงนี้มาก มันคือความจริงที่เกิดขึ้นที่เราเห็นอยู่ทุกวัน เป็นเพลงที่เนื้อหาตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงกับยุคที่อินเตอร์เน็ตมีผลต่อการใช้ชีวิต การโจมตีกันต่างๆนานาเป็นเรื่องที่ใครจะหยิบยกขึ้นมาก็ได้ ชอบแทบจะทุกประโยคที่เกิดขึ้นในเพลงนี้เลย แต่ถ้าให้เลือก เราชอบสิ่งที่นัมจุนพูดถึงท่อนแรกของเพลง ยังไงก็ลองไปหาคำแปลกันดูได้นะคะ

บังทันเป็นวงที่ไม่หยุดนิ่ง สร้างสรรค์สิ่งใหม่ตลอดเวลา แต่ภายใต้สิ่งใหม่ๆ พวกเขาก็ยังใช้วัตถุดิบเดิมที่มีอยู่ในตัวถ่ายทอดออกมา มันจึงคงความเป็นตัวของพวกเขาอยู่ การรู้จักปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย บนพื้นฐานความเป็นตัวเองเป็นเรื่องที่ดี เพราะปัจจุบันต้องยอมรับว่า มีนักร้องใหม่ๆ และแนวเพลงใหม่ๆเข้ามาเยอะขึ้น มีทางเลือกให้คนฟังเยอะขึ้น ทั้งค่ายเล็กค่ายใหญ่ แต่การจะทำอย่างไรที่จะรักษาแฟนคลับดั้งเดิม และเพิ่มแฟนเพลงใหม่ๆเข้ามา เป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับตลาดเพลงตอนนี้ หวังว่าน้องๆจะส่องแสงไปอย่างนี้มากขึ้นเรื่อยๆ และมีพลังที่จะขับเคลื่อนตัวเองไปตลอดอย่างทุกวันนี้นะคะ  

ปล.เนื้อหานี้เขียนเมื่อ 19 ตุลาคม 2559 ค่ะ เลยดูเหมือนดีเลย์ไปนิด เพราะย้ายมากจากบ้านเก่าค่ะ