- ทำไมไข่มุกในชานมไข่มุกถึงไม่ยอมหมดไปพร้อมกับชานมสักที -
ช่วงนี้ฉันโหยของหวานเป็นพิเศษ วันนี้ก็เลยซื้อชานมมัชฉะมาหนึ่งแก้ว เปลี่ยนจากมุกธรรมดาเป็นเยลลี่บราวชูการ์ มัชฉะเข้มข้นจนฉันรู้สึกเฝื่อนๆคอ แต่มันมีกลิ่นหอมมากจนทำให้ข้ามๆเรื่องนั้นไปได้
ก็เหมือนเดิมทุกที น้ำมันหมดก่อนตลอดเลย และฉันเสียดายเยลลี่บราวชูการ์มากๆเลยจะว่าจะดูดๆขึ้นมาเคี้ยวเล่นอีกสักหน่อย
อ๊า สุดท้ายฉันก็สำลัก ยังไงอ่ะ ภาษาเหนือเขาเรียกว่า มันหลุบเข้าไปในหลอดลมอ่ะ มันทำให้ฉันไอและแสบๆคอนิดหน่อย แต่สักพักก็หาย และฉันเสียดายเยลลี่มากๆ แต่ไม่กล้าดูดกินเพียวๆต่อแล้ว ก็เลยจำใจทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย
วันหลังพกน้ำเปล่าด้วยดีกว่า TT
แต่การพกน้ำตอนไปโรงเรียนหรือตอนกลับบ้านมันหนักมากเลยค่ะ ฉันก็เลยทิ้งขวดน้ำไว้ที่โรงเรียนบ่อยๆ ฮือ ตอนนี้ฉันเริ่มรู้สึกไม่สบายท้องแปลกๆ ดื่มชาเขียวนมทีไรก็ไม่สบายท้อง รู้สึกจะอ้วกทุกที จริงๆอยากดื่มชาเขียว ที่ไม่ใส่นมนะคะ แต่ร้านนั้นมันดูเหมือนจะมีแต่ชานม ก็เลยสั่งไป แต่พอสั่งเสร็จฉันก็เหลือบเห็นป้ายเล็กๆมันเขียนว่ามีชามะลิด้วย
...
เจ็บปวดใจมากเลยนะ วินาทีนั้น
กลับมาที่เรื่องกระเป๋าหนักเบากันต่อ ฉันเคยชั่งน้ำหนักระเป๋าด้วย มันมีน้ำหนักอยู่ที่สามถึงสี่กิโลค่ะ หนักมาก เหมือนแบกแมวอ้วนหนึ่งตัวไว้บนหลัง (แมวฉันเองค่ะ)
ฉันมีส่วนสูงอยู่ที่ 157 มาตั้งแต่มอหนึ่ง ตอนปอหกสูง155 แล้วมันก็พุ่งขึ้นมาสองเซ็นต์ ฉันดีใจมาก ถ้าพุ่งพรวดเรื่อยๆคงเป็นแอร์ได้สบาย แต่มาจนถึงตอนนี้ฉันยัง157เหมือนเดิมอยู่เลยค่ะ อยากสูงสัก160แต่ฉันพยายามแล้วมันก็ไม่ได้เลยค่ะ
ฉันคิดว่าการแบกกระเป๋าหนักๆไปโรงเรียนและกลับบ้านเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้การเจริญเติบโตทางด้านส่วนสูงของฉันมันลดประสิทธิภาพลงด้วยค่ะ
ตอนประถมฉันมีตู้เก็บของเป็นของตัวเองที่โรงเรียนนะคะก็เลยไม่ได้แบกอะไรไปโรงเรียน ณ ตอนนั้นฉันสูงเป็นอันดับสองในห้องด้วยค่ะ ก็ภูมิใจนิดๆนะ คิก (กระซิบว่าเป็นโรงเรียนประถมเล็กๆแบบเล็กมาก ให้ฟีลลิ่งโรงเรียนใกล้บ้าน และไม่ได้เรียนกับครูจริงๆทุกวิชาค่ะ เรียนกับครูตู้ (ว้าว ยิ่งเขียนยิ่งตื่นเต้น ไว้ฉันจะเขียนเล่าเรื่องนี้เเยกออกมานะคะ ))
แต่พอเข้าโรงเรียนประจำจังหวัดฉันก็ต้องจัดตารางสอนใส่กระเป๋ามาเองเพราะโรงเรียนชอบใช้ห้องเรียนเป็นสถานที่สอบให้กับหน่วยงานอื่นๆตลอดเลยค่ะ ทำให้ต้องขนหนังสือกลับบ้านกันตลอด
ฉันปวดไหล่มากๆ เลยในช่วงนี้ ตอนมอต้นยังสบายอยู่ค่ะ แต่มามอปลายมันก็เริ่มที่จะปวดหลังด้วย ขนาดพ่อกับแม่เองยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเด็กแค่นี้จะปวดหลังแล้ว
ค่ะ ฉันก็ไม่เชื่อเหมือนกัน แต่ฉันคิดว่าพอผ่านพ้นมัธยมไป ฉันจะดีขึ้นค่ะ
กรี้ด นี่ฉันเขียนอะไรไม่รู้ไปเยอะแยะเลย ก็มันอยากจะเมาท์มอยนี่นา
เข้าเรื่องวันนี้ดีกว่า
วันนี้ไม่ใช่วันที่แย่เลยค่ะ อากาศดี อาหารอร่อย และรู้สึกดี
มีสอบเขียนตามคำบอกและฉันคิดว่าฉันน่าจะเขียนถูกหมด ถ้าไม่ลืมอะไรนะคะ มันเป็นความจำระยะสั้น เพราะฉันพึ่งมาจำเมื่อคืนและมาจำต่อตอนเช้า และสอบตอนบ่าย ความจำแบบนี้มักไม่ยั่งยืนค่ะ แต่ด้วยเวลาที่จำกัดและงานรัดตัว ฉันไม่มีเวลาที่จะทบทวนอะไรเลย
พรุ่งนี้ต้องส่งงานค่ะ ไม่มีสอบ รู้สึกแฮปปี้มาก ฉันติดหนังของเน็ตฟลิกซ์เรื่องนึง- ไม่ คืนนี้ไม่ดูดีกว่า คืนนี้จะเก็บคอร์สเรียนภาษาอังกฤษค่ะ ห่างหายไปนานมากๆ
ครูภาษาอังกฤษจำหน้าและเลขทีี่ของฉันได้ด้วย ขอคิดเข้าข้างตัวเองสักหน่อย ฉันคิดว่าครูชอบวิธีการนำเสนองานของฉันจนต้องไปหาว่าฉันเลขที่อะไรแน่ๆ เพราะวันนี้ในตอนที่ฟังเพื่อนคนอื่นพรีเซนต์งาน ครูได้มานั่งข้างหลังฉันและคอยถามว่า เธอเข้าใจที่เพื่อนแปลหรือเปล่าเลขที่14 เธอคิดว่าประโยคนี้ควรจะแปลว่าอะไร ประโยคนี้เธอเข้าใจมันยังไงบ้าง บลาๆๆๆๆ ฉันยินดีตอบค่ะ ถึงแม้มันอาจจะไม่ถูกร้อยเปอร์เซ็น รู้สึกดีที่ครูอยากจะรู้ว่าฉันมีความคิดเห็นยังไง มันเยี่ยมมากเลย ไม่บ่อยค่ะที่จะมีคนถามอะไรแบบนี้กับฉัน
ฉันชอบที่จะแปลภาษามากๆ เพราะถ้าแปลได้ เท่ากับว่าเราเข้าใจ และการที่เราสามารถทำความเข้าใจในภาษาอื่นๆได้ที่มันเป็นความรู้สึกที่น่าตื่นเต้น เหมือนเข้าไปในโลกใหม่ ดูเวอร์มากๆแต่ฉันคิดแบบนั้นจริงๆค่ะ คิกคัก
(อยากจะพิมพ์ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ แต่ว่ามันดูแปลกๆ เบียวๆเหมือนหนุ่มน้อยผู้กล้าหาญกำลังเขียนอวยตัวเองอยู่ กี้ด แต่แบบนี้ก็เหมือนกำลังเขียนนิยายอยู่แหละเนาะ อันที่จริงฉันชอบเขียนมากๆเลยค่ะ การจะพัฒนาการเขียนก็คือต้องเขียนบ่อยๆ เพราะฉะนั้นฉันถึงได้มาเขียนไดอารี่ลงในนี้ จะเขียนใส่สมุดมันก็น่าเบื่อ เพราะตัวหนังสือของฉันมันไม่น่ามองเท่าไหร่ แถมยังไม่มีคนอ่านด้วย เขียนในนี้แหละ เพื่อให้ใครที่ไหนไม่รู้มาอ่านและก็อาจจะหน้านิ่วคิ้วขมวดว่า เอ ยัยผู้หญิงคนนี้มันเป็นอะไรของมัน แต่ก็นั่นแหละค่ะ การได้เห็นยอดวิวที่เพิ่มขึ้น จะมากหรือน้อย ฉันก็รู้สึกว่า สิ่งที่ฉันอยากจะระบายมันได้ถูกใครสักคนรับฟังแล้ว มันรู้สึกดีมากๆค่ะ)
เรื่องดีๆก็มีแค่นี้ เดี๋ยวฉันก็จะไปทำงานที่เหลือต่อ อาบน้ำแต่หัววัน เพื่อที่จะได้เรียนออนไลน์ต่อ ฉันรู้ว่าการที่ยังเรียนอยู่ตอนนี้มันไม่ใช่ มันควรทำข้อสอบได้แล้วบลาๆ แต่อย่าลืมนะคะ แต่ละคนมีเส้นทางแห่งการประสบความสำเร็จไม่เหมือนกัน กี้ด ฉันกล้าพิมพ์แบบนี้ได้ยังไงในเมื่อฉันไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าตัวเองจะประสบความสำเร็จไหม
ฉันได้ดูเอมิลี่อินปารีสด้วยนะคะ ฉันได้ข้อคิดมาอย่างหนึ่งว่า การประสบความสำเร็จอาจจะไม่ใช่เป้าหมายเสมอไป แต่การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขต่างหาก คือเป้าหมายที่เราควรจะมี
แต่เอาจริงประโยคนี้ฉันรู้สึกว่ามันค่อนข้างที่จะเป็นประโยคที่คนมีฐานะเท่านั้นที่จะพูดได้ แต่ฉันก็ลืมไปอย่างนึงว่าสาเหตุที่ทำให้คิดแบบนี้ก็เพราะสภาพความเป็นอยู่ในประเทศเราเอง ฝรั่งเศสเขาเป็นประเทศที่สวย ค่าครองชีพสูงและสวัสดิการที่ดี คนธรรมดาๆยังสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ในปารีส เห็นแล้วอยากมีชีวิตแบบนั้นบ้าง
ต่างกับประเทศไทยแบบฟ้ากับเหวเลย เพราะขณะที่กรุงเทพนั้นเจริญแบบกระท่อนกระเเท่น ฟุตบาทก็ไม่ได้ดี ระบบขนส่งมวลชนก็เข้าขั้นห่วยและไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ใช้ รถติดด้วยอีก จังหวัดนอกๆรอบไปก็คือชนบทดีๆ มีป่ามีเขา มีทุ่งนา ว้าว โรแมนติกจัง
หึ
ฉันเป็นเด็กตจว. ฉันก็อยากมีรถเมล์ รถไฟฟ้า และร้านหนังสือใหญ่ๆบ้าง จังหวัดของฉันมีร้านหนังสือเล็กๆอยู่ในตัวห้าง และแพงด้วย ตอนนี้ฉันหันมาซื้อกับช้อปปี้เเทนแล้วค่ะ
แอพช้อปปี้ก็ยังมีประเด็นในเรื่องความไม่ยุติธรรมต่อพ่อค้าแม่ค้าไทยบางรายอยู่ ซึ่งมันแย่ที่ตัวแอพอนุญาตให้คนจีนมาขายของตัดหน้าในราคาที่ถูกกว่า
พอค่ะ ฉันปวดหัวมาก พูดเรื่องไหนก็โยงถึงปัญหาได้หมดเลย ปัญหาทุกอย่างในประเทศไทยตอนนี้เหมือนใยแมงมุมเลยค่ะ พอพุเรื่องนี้ ก็สามารถโยงไปเรื่องนั้น โยงๆๆๆไปได้จนถึงตัวแมงมุมเลยค่ะ การจะกำจัดใยแมงมุมแค่เอาไม้กวาดปาดลวกๆมันก็ไม่หายไปอยู่แล้ว เพราะเดี๋ยวแมงมุมตัวเดิมก็สร้างมันใหม่
เพราะฉะนั้นฆ่าแมงมุมทิ้งไปซะก็สิ้นเรื่องค่ะ
ขอบคุณที่รับฟังค่ะ เพราะมันไม่ใช่วันนรกแบบที่ฉันคิด ฉันก็เลยพูดแต่อะไรไร้สาระเต็มไปหมด
ขอให้พรุ่งนี้เป็นวันที่ดีค่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in