Theme: Reunion
Pairing: Chwe Hansol x Boo Seungkwan
Rating: PG15
Warning: เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องจริงแต่อย่างใด โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
◍ ◍ แนะนำให้ฟังเพลง Warning Sign ของ Coldplay
I
ผมมองคนตรงหน้าด้วยสายตาไม่เข้าใจ
ริมฝีปากที่ผ่าวร้อนพอ ๆ กับใบหน้ายังคงหลงเหลือสัมผัสหน่วงตึงจากจูบของคนที่ผมคิดมาตลอดว่าเป็นคนสุดท้ายที่จะทำแบบนี้กับผม
สายตาที่จ้องมองกันคมกริบไม่ต่างกับใบมีดที่ค่อย ๆ กรีดบาดแผลที่ปิดสนิทมาตลอดสองปีอีกครั้ง
ผมถอยหลังออกมา หมายจะออกจากห้องนี้ หากแต่ใครอีกคนที่อยู่ในห้องนี้เช่นกันรั้งร่างผมไว้ ก่อนจะดันตัวผมเข้ามาในห้องจนหลังกระแทกกับผนังด้วยแรงที่ไม่เบานัก
ไม่ทันได้อ้าปากตอบโต้ ริมฝีปากของอดีตเพื่อนสนิทบดเบียดปิดทุกเสียงของผมไว้ ผมใช้เรี่ยวแรงที่มีทั้งหมดผลักร่างของเขาออกไป นอกจากจะไม่ขยับแม้แต่นิดแล้ว มือของเขาขยับฉวยข้อมือและหยุดทุกการกระทำของผม
รสเย็นของบุหรี่กลิ่นเมนทอลแทรกผ่านพร้อมเรียวลิ้นที่รุกล้ำอย่างชำนาญจนผมอยากดิ้นตาย เกลียดร่างกายที่โอนอ่อนอย่างง่ายดายนี้ เกลียดความโหยหาในส่วนลึกของจิตใจที่ค่อย ๆ เผยกายออกมาอย่างเริงร่า
เกลียดตัวเองที่ทำเหมือนว่าลืมทุกคำพูดที่คน ๆ นี้พูดกับผมในวันนั้น
‘นายมันน่าสมเพช ซึงกวาน นายหลอกให้ฉันเชื่อใจมาตลอดเพราะแบบนี้อย่างนั้นเหรอ’
‘ฉันรับไม่ได้หรอกนะ’
จู่ ๆ จูบแสนเอาแต่ใจก็ผละออกไป ผมค่อย ๆ ลืมตาที่หนักอึ้งด้วยหยาดน้ำตาและพยายามข่มเสียงสะอื้นไห้ ยิ่งเห็นดวงตาสีน้ำตาลที่จ้องมองผมอยู่ ยิ่งยากที่จะฝืนอีกต่อไป เช่นเดียวกับเขาที่โน้มกายลงมาวางหน้าผากบนไหล่ของผม คล้ายว่าจะปกปิดแววตาเมื่อครู่นี้
แววตาที่เศร้าโศกของเขา
“...ทำแบบนี้ทำไม?”
ผมเอ่ยถามถึงสิ่งที่สงสัย
“ต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ?”
ผมมองคนยังคงซบไหล่ของผมอยู่ด้วยความรู้สึกที่หลายหลาก จนอีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมา สายตาของเราสบประสานกัน
ความรู้สึกที่ผมโหยหามาเนิ่นนานอยู่ใกล้เพียงลมหายใจ
ผมคิดถึงเขา
“ซึงกวาน...”
เขากระซิบ
ผมเอนหัวกับผนังและหลับตาลงเมื่อรู้สึกริมฝีปากบางกดจูบแผ่วเบาที่ช่วงลำคอ
“อยู่กับฉันได้ไหม?”
ผมเกลียดมุมนี้ของชเว ฮันซล เหลือเกิน
.
.
.
ผมปิดประตูห้องพักของผม
ความมืดมิดที่เงียบงันภายในห้อง ทำให้ร่างกายที่รุ่มร้อนสงบลงได้บ้าง ผมทิ้งตัวลงบนเตียงนอนเรียบตึง ปล่อยให้น้ำตาชะล้างกลิ่นบุหรี่และกลิ่นกายที่ไม่เคยเปลี่ยนไปของเขา
แค่คืนนี้เท่านั้น
แค่คืนนี้...
ผมย้ำกับตัวเอง
II
ผมมองเจ้าของนัยน์ตารั้นกำลังหัวเราะกับมุกฝืด ๆ ของเพื่อนรุ่นเดียวกันอยู่อีกโต๊ะหนึ่ง แม้จะเหลือเค้าจากเหตุการณ์เมื่อคืนวานบ้าง แต่ก็น้อยมากจนแทบไม่มีใครสังเกตเห็น
นอกจากผม
เสียงหัวเราะกับท่าทางทโมนไม่ได้เปลี่ยนไปจากอดีตมากนัก รอยยิ้มของเขายังคงสดใสและน่ามองเสมอ
ผมเจ็บปวดทุกครั้งที่เคยโกหกตัวเองว่าไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับสิ่งเหล่านี้
จนกระทั่งรู้ว่าสายเกินไปเมื่อได้รับความเฉยชาที่ไม่คาดคิดมาก่อน
ผมยังจำใบหน้าที่อาบไปด้วยน้ำตาของเขาได้ดี ดวงตากลมคู่นั้นเศร้าแต่ไม่เคยนิ่งขนาดนี้ แววตาของเขาที่มองผมไม่เคยเรียบเฉย
บู ซึงกวาน เป็นคนสุดท้ายที่ผมจะนึกถึงหากเอ่ยคำว่า ‘เย็นชา’ ขึ้นมา โดยเฉพาะกับผม
‘ฉันรักนาย รักมานานแล้ว’
‘แค่อยากอยู่ข้าง ๆ นายแบบนี้’
แม้แต่ตอนที่ผมปฏิเสธเขาด้วยคำพูดร้ายกาจ เขาเพียงแค่... ฝืนยิ้มทั้งน้ำตาให้ผมเท่านั้น
เพราะคำว่า ‘รัก’ นะเหรอ
บางทีคำว่า ‘รัก’ อาจเป็นแค่หนึ่งในคำโกหกของเขาก็เป็นได้
เขาคงไม่ได้รู้สึกถึงคำ ๆ นั้นเลยยามที่เอ่ยมันออกมา หรือไม่ก็เกลียดผมมาก... อดทนรออย่างใจเย็นจนวันที่คำ ๆ นั้นมีอิทธิพลกับผม และปล่อยให้มันทำลายผมอย่างช้า ๆ
แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ผมก็ไม่แปลกใจเท่าไรนัก
เพราะคนอย่างผมไม่ควรได้คำว่า ‘รัก’ จากเขาเสียด้วยซ้ำ
ผมยกกาแฟดำขึ้นดื่ม รับรสขมปร่าไม่น่าอภิรมย์อย่างขุ่นมัว ลอบมองคนที่ชอบความขมของอเมริกาโน่นักหนาขยับริมฝีปากอิ่มที่แดงช้ำพูดคุยกับคนโน้นคนนู้นทีอย่างเป็นธรรมชาติ
เหมือนตกอยู่ในห้วงความทรงจำเก่า ๆ วันที่รอยยิ้มนั้นเคยเป็นของผม และเสียงหัวเราะนั้นเกิดขึ้นเพราะผม
ผมคิดถึงเขาเหลือเกิน
“ฮันซล โอเคไหมวะ?”
ผมหันไปมองเพื่อนที่เอ่ยถาม พยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด “แค่ฉันไม่ค่อยชอบกาแฟเฉย ๆ ไม่มีอะไรหรอก”
“เฮ้ย ลืมไปเลย ซึงกวานก็บอกฉันแล้วนะว่านายไม่ดื่มกาแฟ ขอโทษนะเว้ยฮันซล”
“ไม่เป็นไร” ผมยิ้มออกมา ก่อนจะหันไปมองคนที่ถูกอ้างชื่อเมื่อครู่อีกครั้ง
ช่วงเวลาสองปีที่เขาหายไปอาจทำให้เขาหลงลืมหลาย ๆ อย่างไป แต่ก็ไม่ทุกอย่าง
เขายังคงรู้จักผมดีกว่าใคร
เพราะอย่างนี้ คนเห็นแก่ตัวอย่างผมถึงไม่มีทางปล่อยให้เขาหนีไปไหนอีกเป็นหนที่สอง
และต่อให้เขาจะแสร้งย้ำนักหนาว่าไม่รักผมอย่างไร ผมก็ไม่มีวันปล่อยมือไปจากเขา
เว้นเสียแต่ เขาจะไม่รักผมแล้วจริง ๆ
End.
◍ ◍ talk with me free wifi :
- ชอบโทนของเรื่องนี้มาก เราอยากเขียนอะไรแบบนี้มานานมากแล้ว ความสัมพันธ์ของเพื่อนรักคิกคักที่มีบรรยากาศสีเทาหม่นๆ
- ไม่มีเพลงไหนจะเหมาะกับเรื่องนี้เท่ากับ warning sign ของ coldplay อีกแล้ว มันใช่มากๆ
- ฉากที่เราวางไว้คืองานแต่งของใครซักคนที่สนิทกับน้องทั้งสองและถูกเชิญมาให้เป็นเพื่อนเจ้าบ่าว น้องบูที่หนีมาตลอดเลยเลี่ยงไม่ได้ จำใจต้องมา ฉาก I คือหลังปาร์ตี้สละโสด ส่วนฉาก II คือบรรยากาศก่อนงานแต่งนะคะ
- แอบหยอดประเด็น homophobia มานิดหน่อย ถ้าเล่นมากเกรงว่าน้องบูของแม่จะช้ำไปกว่านี้
- มีอะไรติชมกันได้ที่ #kurofics ในทวิตภพหรือจะคอมเมนต์ตรงนี้ก็ได้นะคะ น้อมรับฟังเสมอ
- enjoy reading ♡
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in