เรื่องของบุรุษไปรษณีย์หนุ่มวัย 30 ปี ที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อย ไม่มีอะไรหวือหวา แต่แล้วจู่ๆ ก็รู้ว่าตนเองป่วยเป็นโรคร้ายกำลังจะตายภายในเวลาไม่กี่เดือน เขาสิ้นหวัง ท้อแท้ แต่อย่างน้อยเมื่อกลับถึงบ้าน ก็ยังมีแมวอย่างเจ้า ‘กะหล่ำ’ ที่เหมือนจะเป็นเพื่อนในชีวิตจริงเพียงคนเดียวของเขานั้นรอคอยอยู่
และเรื่องสุดเหลือเชื่อก็บังเกิด เมื่อ ‘ปิศาจ’ ตนหนึ่งปรากฎตัวขึ้นด้วยรูปลักษณ์ที่ธรรมดาๆ เหมือนตัวเขาเอง โดยปิศาจได้ยื่นข้อเสนอให้เขายอมแลกสิ่งต่างๆ ในชีวิตทีละอย่างที่จะหายจากโลกนี้ไปอย่างถาวร กับการต่อลมหายใจให้กับเขาเพิ่มไปทีละวัน แม้จะเป็นข้อเสนอที่สุดเพี้ยน แต่เพื่อการมีชีวิตอยู่ต่อ หนุ่มไปรษณีย์จึงยอมตกลง
แต่เหมือนเขาจะลืมนึกไปว่า สิ่งสุดท้ายที่เขาอาจต้องยอมสูญเสียเพื่อที่จะอยู่รอดต่อบนโลกใบนี้ ก็คือเจ้า ‘กะหล่ำ’ นั่นเอง…
โลกที่ปราศจากแมวจะเป็นเช่นใด?
ชีวิตจะเหลืออะไรถ้าสิ่งต่างๆ ที่สำคัญล้วนสูญสลายไปหมดแล้ว?
นี่คือเรื่องราวที่บอกเล่าถึงคุณค่าของการมีชีวิตอย่างเรียบง่าย แต่ส่งแรงสั่นสะเทือนถึงหัวใจของผู้คน คุณอาจจะเสียน้ำตาให้กับนิยายเล็กๆ เล่มนี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่รักแมวหรือไม่ก็ตาม
____________________
จริงๆ อ่านเรื่องนี้มานานแล้วค่ะ แต่ไม่มีโอกาสมารีวิวจริง ๆ สักที จำได้ว่าพออ่านเสร็จแมวที่บ้านคลอดลูกมาใหม่ ตั้งชื่อให้ว่ากะหล่ำ ตามชื่อเจ้ากะหล่ำเลยค่ะ เหมือนจะก้อปปี้ชื่อไป แต่จริง ๆ อาจเพราะเรื่องราวมันน่าประทับใจล่ะมั้ง
นั่นสิ...พออ่านประโยคนี่เสร็จก็คิดกับตัวเองแบบนี้ค่ะ ถ้าไม่มีแมวโลกก็คงเปลี่ยนอยู่หรอก แต่ถ้าไม่มีเราล่ะ? โลกจะเปลี่ยนไปแค่ไหน ในเมื่อเราเป็นมนุษย์คนหนึ่ง แต่พอคิดได้ว่าเราเป็นคนเดียวในโลกก็คิดว่าน่าจะเปลี่ยนบ้าง
ถ้าโลกนี้ไม่มีแมว ไม่ได้พูดถึงแมวอย่างเดียว แต่เรามองว่าแมวเป็นตัวเดินเรื่องมากกว่าพระเอกด้วยซ้ำ เป็นตัวแปรของเรื่อง เป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ของตัวละคร ความคิดเห็นส่วนตัวของคนเลี้ยงแมวแล้ว แมวเป็นสัตว์ที่เชื่อมความสัมพันธ์ในครอบครัวนะ และบางทีสิ่งที่ทำก่อนตายของตัวละครก็มีไม่กี่อย่าง พระเอกคิดถึงว่าเขายังไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้เลย แต้มบัตรสะสมอีกล่ะ ซึ่งอันนี้รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งธรรมดา ๆ ที่คนเราคิดถึงอันดับแรก เป็นบทบรรยายเล็ก ๆ แต่รู้สึกว่ามันจริงมาก เรียลดี
ส่วนสิ่งที่ไม่อยากให้พลาดคือ บทวิเคราะห์ อาคิโอะนาคาโมริ ตอนแรกว่าจะอ่านสั้น ๆ แต่กลับกลายเป็นว่าอ่านไม่หยุดเลย เป็นบทวิเคราะห์ที่ทำให้รู้ในมุมมองและสิ่งที่แทรกเข้ามาในเรื่องที่เราไม่ได้สังเกต
ถ้าโลกนี้ไม่มีแมว พาเรากลับไปคิดและตระหนักถึงคุณค่าที่มีที่ไม่เคยตระหนักว่ามันมีคุณค่า จนเมื่อมานั่งพิจารณาแล้วถึงรู้ว่า อื้ม นี่สินะคุณค่าของมัน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in