ชื่อหนังสือ : จะไม่ทนเงียบอีกต่อไป
ผู้เขียน : เฉินเจี๋ยฮ่าว
ผู้แปล : อนุรักษ์ กิจไพบูลทวี
สำนักพิมพ์ : mangmoombook
**คำเตือน : มีการบรรยายเรื่องการถูกล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดขึ้นจริง**
"เป็นเวลาสามสิบปีที่เขาเฝ้ารอให้ใครสักคนมาบอกกับเขาว่า นี่ไม่ใช่ความผิดของเธอ ไม่มีเด็กคนไหนควรเจอเหตุการณ์เหล่านี้" - คำโปรยจากหน้าปก
เด็กชายคนหนึ่งในวัย 3 ขวบถูกสมาชิกในครอบครัวของแม่นม 4 คนล่วงละเมิดทางเพศซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นเวลานานถึง 3 ปีเต็ม คร่ำครวญและร้องไห้เสียงดังว่าเขาทนทุกข์ทรมานแค่ไหนกลับไม่มีใครสนใจฟัง แม้กระทั่งกับพ่อและแม่ของเขาเอง
เขาต้องเก็บเรื่องราวเหล่านี้ไว้กับตัวเองนานถึง 30 ปี เก็บมันไว้นานจนกระทั่งลืมไปว่าในอดีตเคยเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง เมื่อวันหนึ่งที่แง้มกล่องความทรงจำขึ้นมา เขาได้พบว่าความจริงแล้วแผลและความเจ็บปวดเหล่านั้นยังไม่เคยหายไปไหน
เด็กชายคนนั้นยังรอความช่วยเหลืออยู่ในมุมมืด รอให้ใครสักคนรับฟังและฉุดเขาขึ้นจากความทรมานนี้
เรายอมรับว่าก่อนหน้านี้ไม่ได้หันมามองเกี่ยวกับ "ประเด็นเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศในเด็ก" เท่าไรนัก เรารับรู้ รับทราบ แต่ไม่ได้ติดตามถึงรายละเอียด จนกระทั่งข่าวของนักดนตรีในวงการบันเทิงคนหนึ่งดังขึ้นมา บวกกับคนรอบข้าง (โดยเฉพาะในโซเชียลมีเดีย) พูดถึงเรื่องนี้มากขึ้น มันทำให้เราฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า ไม่ใช่แล้ว มันไม่ใช่เรื่องปกติ และไม่ควรให้ประเด็นอ่อนไหวนี้กลายเป็นแค่เรื่องในครอบครัว
นั่นเป็นเหตุผลหลักที่เราซื้อหนังสือเรื่อง "จะไม่ทนเงียบอีกต่อไป" เล่มนี้มาครับ
เราเตรียมใจมาระดับหนึ่งแล้วก่อนอ่านเล่มนี้ รู้อยู่ก่อนแล้วว่าเนื้อหาหนักแน่นอน เพราะเป็นเรื่องจริงที่ผู้เขียนพบเจอมาจริง ๆ แต่พอมาอ่านจริง ๆ ...เราพบว่าเราเตรียมใจมาไม่พอ
มันเลวร้ายกว่าที่คิด
เราไม่สามารถอ่านทุกตัวอักษรอย่างละเอียด บางพาร์ทที่เล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตอนที่โดนบังคับ หรือตอนที่คุยกับครอบครัว...เราอ่านเก็บอย่างละเอียดไม่ไหว มันหนักหนา เลวร้าย และเต็มไปด้วยความเจ็บปวดของผู้เขียน
ขนาดเราที่เป็นคนอ่านยังรู้สึกหดหู่ (บางจังหวะอยากร้องไห้ตามเลยครับ) แล้วเด็กชายวัย 3 ขวบคนนั้นจะรู้สึกแย่ขนาดไหนกัน แล้วเฉินเจี๋ยฮ่าวที่โดนกระทำแบบนั้น และทุกข์กับมันมาตลอด 30 ปีจะยิ่งทรมานมากขนาดไหน
แม้ว่าปัจจุบันเขาปลดล็อคตัวเองมาได้มากแล้ว แต่มันยังมีแผลเป็นในชีวิตของเขา และพูดได้ไม่เต็มปากว่าเขาหลุดพ้นจากมันแล้ว และทุกตัวอักษรในเล่มนี้แสดงออกมาเช่นนั้น สิ่งที่เขารู้สึก สิ่งที่ภรรยาของเขารับรู้ถึงอดีตและอาการของเขา มันสะเทือนใจมากจริง ๆ สิ่งที่เขาเจอเป็นบาดแผลที่ฝังลึกในวัยเด็กและถูกเพิกเฉยมาอย่างยาวนาน
นอกเหนือไปจากเรื่องราวในอดีตที่คุณเฉินเจี๋ยฮ่าวเล่ามาแล้ว เขายังสอดแทรกข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศในเด็กมาด้วย ซึ่งสอดคล้องกับหลาย ๆ สิ่งที่เขาเจอมาในตอนเด็ก ไม่ว่าจะเป็นการละเลยความรู้สึกของเด็ก ปล่อยให้เด็กเผชิญหน้ากับความรู้สึกโดดเดี่ยวและการถูกทารุณกรรม การไม่เชื่อในสิ่งที่เด็กเล่า และฝังความคิดที่ว่าจะทำให้ชีวิตวุ่นวาย สร้างความร้าวฉานให้กับครอบครัว
ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่เลย "คุณไม่ได้ทรยศหักหลังใครหรือคุณค่าใด ๆ ทั้งนั้น การบอกเล่าเหตุการณ์และความรู้สึกที่แท้จริงของคุณออกมาไม่ใช่การทรยศหักหลัง คนที่ทรยศหักหลังความเป็นมนุษย์จริง ๆ คือพวกผู้ใหญ่ที่ทำร้ายคุณ" - หน้า 162
การไม่รับฟัง การไม่สนใจ...คือสิ่งที่ทำให้เหยื่อ/ผู้รอดชีวิตเจ็บปวดที่สุดแล้ว
ดังนั้นเราเลยคิดว่าคุณเฉินเจี๋ยฮ่าวโชคดีจริง ๆ ที่ได้เจอภรรยาคนนี้ เพราะเธอรับฟังเขาจากใจจริง เธอทำให้เขากล้าปลดปล่อยความรู้สึกเจ็บปวดเหล่านั้นได้ ในขณะเดียวกัน เขาเองก็กล้าหาญและเก่งมากจริง ๆ
และมันคงดีมาก ๆ เลยครับถ้าหากไม่มีเด็กที่ต้องมาเจอชะตากรรมแบบเดียวกับที่คุณเฉินเจี๋ยฮ่าวเจอ
ดังนั้น สุดท้ายนี้หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้จบ เราเต็มใจที่จะเป็นประจักษ์พยานให้กับเด็กหรือผู้ใหญ่ที่ทนทุกข์ทรมานกับเรื่องนี้
"โปรดอย่าหันหน้าหนี โปรดมองที่ตาของเขาหรือเธอ และบอกเขาหรือเธอว่าโลกใบนี้ยังมีเจตนาที่ดี" - หน้าที่ 174
#สะอาดอ่านแล้ว
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in