เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ประสบกันในมหาลัย.Onenightz.
(คงจะ)ประสบกันก่อนเข้ามหาลัย
  • ม.6 เทอม 1

    ปีสุดท้ายในช่วงชีวิตมัธยมปลาย ดินแดนอุดมสุข โรงเรียนของเรากับเพื่อนในห้องของเรา ผ่านมาเกือบ 6 ปีที่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน ตั้งแต่กีฬาสีครั้งตอนม.ต้น ที่พี่เค้าเกณฑ์กันทั้งห้องไปนั่งบนสแตนด์ แปลโค้ดไปมา จนมาเป็นพี่ ม.5 ที่เป็นประธานสี หรือตอน ม.3 ที่เข้าค่ายลูกเสือ อยู่หมู่เดียวกัน นอนในเต้นท์เดียวกันกินข้าวที่หุงไหม้ๆหม้อเดียวกัน จนมา ม.ปลาย ก็ไม่พ้นไปเรียน รด ด้วยกันบุกป่าฝ่าเขา อดอาบน้ำเป็นสัปดาห์ด้วยกัน มันช่างเป็นชีวิตที่ดีจริงๆ ม.6 เนี่ย

    สุดท้ายแล้วก็ไม่แคล้ว มีพบก็ย่อมมีจาก งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ปีนี้เป็นปีสุดท้ายที่อยู่ด้วยกันก็จริง แต่ปีหน้า ใครหนอจะได้อยู่ร่วมมหาวิทยาลัยเดียวกับเรา ช่างน่าตื่นเต้น

    Gat-Pat โควตาของแต่ละมหาวิทยาลัย จนสุดท้าย Admission เป็นสัญญาณเตือนแล้วว่า “โอเค แกต้องขยันแล้วนะ นี่อนาคตของแกเลยนะ ชีวิตแกคงไม่ได้หยุดอยู่ที่ ม.6 หรอกนะ?” ก่อนจบปีนี้ต้องหาที่เรียนให้ได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี จะได้เอาเวลาไปทำอย่างอื่น เห็นเพื่อนแต่ละคนมีที่เรียนกัน มันช่างกดดันเราเหลือเกิน มีที่เรียนกันทีละคน ทีละคน เมื่อไหร่เราจะมีที่เรียนอย่างคนอื่นบ้างน้า ตอนนี้ถามตัวเองว่าอยากเรียนต่อคณะอะไร? ยากจัง อยากเป็นไปซะทุกอย่าง ขอเปลี่ยนคำถามเป็นว่า อยากเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยไหน? ยังจะง่ายกว่าอีก

    ม.6 เทอม 2

    ชีวิตมันเริ่มจริงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งพ่อแม่ ครู และเพื่อนๆ กดดันเราเหลือเกินบางทีเราอาจจะคิดไปเองก็ได้ แต่ก็ยอมรับแหละว่าเราก็ชิวเกินไป แต่อย่างน้อยตอนนี้ก็ค้นพบแหละว่า ตัวเองอยากเรียนต่อคณะไหน? สาขาไหน? และที่มหาวิทยาลัยไหน? ช้าไปหน่อยแต่ก็มีจุดหมายแล้ว ต่อไปเหลือแค่ตั้งใจ ขวยขวายให้มีชื่อเราในบัญชีให้ได้

    บางทีก็สงสัยอยู่ ว่าช่วงเวลานี้ เราสนใจเรื่องอนาคตเรามากเหลือเกิน ทั้งที่เมื่อก่อนช่างปล่อยวาง แค่ตื่นนอน มาเรียน เจอเพื่อนๆ เย็นไปเรียนพิเศษ ชีวิตก็ดีแล้วนี่น่า แต่เมื่อเรารู้ว่าปีหน้า ระบบชีวิตคงไม่เหมือนเดิม นี่ก็ใจหาย ถึงแม้ที่จริงก็ตื่นเต้นแหละ ชีวิตในมหาวิทยาลัยจะเป็นอย่างไรน้า จะดีเหมือนชีวิตตอนมัธยมปลายหรือเปล่า?

    จากการฝ่าฟันมันทั้งปี ทั้งการเรียนที่ครูก็ยังให้งานเยอะเหมือนเดิมเหมือนตอน ม. 5 แล้วต้องรักษาเกรดเอาไว้ เพื่อใช้เป็น GPAX ในการยื่นศึกษาต่อกับเรื่องหาที่เรียน ที่เคี้ยวเข็ญและกดดัน สุดท้ายก็เข้ามหาวิทยาลัยที่หวังไว้ได้สักที ถึงแม้จะไม่ใช่คณะที่ใช่กับสาขาที่ชอบก็เถอะ แต่อย่างน้อยมันก็ใกล้เคียงแหละน่า พ่อแม่ก็สบายใจได้สักที หลังจากนี้ ให้ชีวิตตัวเองในปีหน้าจัดการเอาเองละกัน

    วันปัจฉิม

    สุดท้ายแล้วก็ไม่แคล้ว มีพบก็ย่อมมีจากงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา วันนี้คงเป็นวันสุดท้ายที่เราจะได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้า เวลาดีๆนี่อยากให้เดินช้าๆจัง จะต้องจากกันแล้วหรอ?

    คำถามที่เจอทั้งวัน คงไม่พ้น “มึงติดที่ไหน?” คำถามนี้คงไม่ได้ถามขึ้นเพื่ออยากรู้ว่า “มึงมีที่เรียนที่ดีแล้วนะ” หรอก แต่อาจจะเป็นที่ว่า “เราจะได้เจอกันอีกมั้ย?” ละมั้ง รู้นะว่าการจากลามันมีจริง แต่คงไม่มีใครอยากให้เป็นตลอดไป คำถามที่ถามขึ้นทั้งวัน ก็ดีใจที่มีเพื่อนติดที่เดียวกัน แต่ถ้าติดกันทั้งห้องก็คงจะดี

    หมดวันแล้ว ทุกคนแยกย้าย แยกย้ายไปตามเส้นทางของตนเอง ก็เข้าใจสัจจะธรรมอยู่ว่าถึงแม้เราจะเรียนที่เดียวกัน แต่ก็หาใช่ว่าจะเรียนในคณะและสาขาเดียวกันแต่ละคนก็มีทางของตัวเองที่ต้องเดิน แต่ก็อยากให้ทุกคนที่เดินทาง ไม่ว่าจะแยกกันที่ตรงไหนก็ขอให้อย่าลืมมิตรภาพที่จุดเริ่มต้นแห่งนี้ละกัน หดหู่ใจ แต่ก็ต้องเดินทางต่อไป แล้วคงเจอกันใหม่ในสักวันเพราะเราเชื่อมั่นว่า "การจากลาครั้งนี้มันไม่ใช่ตลอดไป" โชคดี.

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in