ผมรู้สึกเหมือนกำลังทำเรื่องที่ผิดมาก ๆ
ผมไม่ควรจะรู้สึกแบบนี้กับอีดาห์ ไม่ใช่แค่เพราะเธอเป็นคุณหนูชนชั้นสูง แต่เพราะเธอมีคู่หมั้นแล้วและคู่หมั้นคนนั้นก็เป็นเพื่อนผม
“คุณหนู” ผมเข้ามาในห้องนอนเธอหลังจากมีคนมาตามผมถึงที่บ้านว่าอีดาห์ป่วย ผมรู้ว่าเธอไม่ได้ป่วย... เธอเป็นคนแข็งแรงดี ยิ่งเจาะจงว่าต้องเป็นผมแทนที่จะเป็นพ่อ ผมก็รู้ทันทีว่าเธอคงวางแผนอะไรไว้
แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังมา
อีดาห์นอนอยู่บนเตียงสี่เสาหลังใหญ่ ใบหน้าซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่มหนาทำให้ผมเห็นแต่ผมสีทองที่แผ่สยายจนเต็มหมอน ทันทีที่ผมมาใกล้ เธอก็โผล่ดวงตามาช้อนมองผมและทำเสียงไอค่อกแค่กออกมา ผมคุกเข่าลงข้างเตียงก่อนยกหลังมือทาบหน้าผากของเธอ มันอุ่นแต่ไม่ใช่เพราะไข้แน่นอน
“ฉันหนาวจัง” อีดาห์ทำเสียงอู้อี้ใต้ผ้าห่มและไออีกครั้ง ผมไม่ใช่หมอแต่ก็ดูออกว่าเธอกำลังแกล้งป่วย ความจริงผมควรจะบ่นเธอแล้วกลับบ้านเลยแต่ไม่รู้ทำไมวันนี้ผมถึงยอมเล่นตามน้ำ “คุณควรทานอะไรหน่อย ช่วยทำซุปไก่ให้เธอได้ไหมครับ” ผมหันไปหาพี่เลี้ยงของอีดาห์ซึ่งย่อเข่ารับคำทีหนึ่งก่อนออกจากห้องไปแล้วปล่อยพวกผมไว้ตามลำพัง
“คุณก็รู้ว่ามันไม่ดี คุณหนู”
“บอกแล้วไงว่าไม่ต้องเรียกแบบนั้น” หัวคิ้วของอีดาห์ชนกันในตอนที่ผมเรียกเธอแบบนั้น ผมถอนหายใจก่อนยอมเปลี่ยนไปเรียกชื่อ
“คุณแกล้งป่วยไม่เนียนเลยนะ...” ผมว่าพร้อมกับเปิดผ้าห่มที่เธอซ่อนกระเป๋าน้ำร้อนเอาไว้ “ก็ฉันอยากเจอคุณนี่คะ ไม่ได้เหรอ” อีดาห์ช้อนมองผมพร้อมกับยื่นมือมาจับแขนเสื้อผม ไม่บ่อยนักที่เธอจะแสดงท่าทีออดอ้อน คงมีแต่ผมที่ได้เห็นอีดาห์แบบนี้
ผมถือวิสาสะนั่งลงข้างเตียงของเธอก่อนที่เธอจะลุกขึ้นนั่งแล้วเอาหัวมาอิงกับไหล่ของผม ทำให้ผมได้กลิ่นหอมจากเธอ “ฉันรักคุณ” เธอบอกทั้งยังสวมกอดเอวผมไว้
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอบอกรักผม ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทุกครั้งที่เธอพูดมันออกมา การหักห้ามใจก็ยิ่งยากขึ้นไปทุกที ศีลธรรมทุกอย่างกำลังโอบรัดรอบคอผมเหมือนบ่วงเชือกคอยดึงรั้งเมื่อผมมีความคิดบางอย่าง ผมหลุบมองอีดาห์ในชุดกระโปรงนอนซึ่งนาบไปกับส่วนโค้งเว้าอย่างหญิงสาวของเธอ มองใบหน้าสะสวยและริมฝีปากแดงของเธอ กลิ่นหอมจากตัวเธอดึงผมไว้เหมือนดอกไม้ล่อแมลง
รู้ตัวอีกที ผมก็เชยคางของอีดาห์ขึ้นแล้วจูบเธอ
ดูเธอจะตกใจนิดหน่อยที่ผมจูบแต่หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ตอบรับอย่างเชื่องช้าและนุ่มนวล ผมช้อนท้ายทอยของเธอและปล่อยตัวไปตามอารมณ์เมื่อริมฝีปากของเธอเผยอออกอย่างเชื้อเชิญและแขนของเธอเลื่อนมาโอบรัดรอบลำคอของผม
มือของผมลูบตัวเธอผ่านผ้าไหมลื่นนั้น ก่อนที่จะสัมผัสต้นขาเนียนของเธอใต้ชายกระโปรง บ่วงเชือกที่มองไม่เห็นกำลังรัดคอผมแน่นแต่ผมกลับไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนก่อนหน้านั้น ความตื่นเต้นไหวระริกอยู่บนฝ่ามือและปลายนิ้วเมื่อผมเลื่อนฝ่ามือสูงขึ้น
อีดาห์สะดุ้งทั้งหลุดเสียงเมื่อผมสอดนิ้วเข้าไป
ลมหายใจของเธอกระตุกขาดห้วงพร้อมริมฝีปากที่เม้มเข้าหากัน เมื่อผมขยับนิ้ว เธอก็กอดผมแน่นขึ้นพร้อมเสียงครางแผ่วเบาข้างหูผม มันอ่อนหวาน เย้ายวนและแทบจะทำให้สติของผมกระเจิง “เดฟ...” เธอเรียกชื่อผม ตัวสั่นระริกอยู่ใต้ฝ่ามือ ไม่ต้องมองใบหน้าที่ซุกกับไหล่ผมก็รู้ว่ามันกำลังร้อนผ่าวไม่ต่างจากปลายนิ้วของผมในตอนนี้
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นพร้อมกับพี่เลี้ยงของอีดาห์ที่ถือถาดซุปเข้ามา
แน่นอนว่าทั้งผมและอีดาห์แยกออกจากกันไวพอที่พี่เลี้ยงของเธอจะไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น “เดี๋ยวคุณหนูทานซุปก่อนนะคะ” พี่เลี้ยงบอกก่อนที่อีดาห์จะพยักหน้าจากใต้ผ้าห่ม
“ถ้าแบบนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” ผมบอกลาแล้วเดินออกมาจากห้อง
ผมยืนอยู่บนโถงทางเดินที่ไม่มีใครและเลียนิ้วที่เปียกชุ่ม
รสสัมผัสในตอนนั้นทำให้ผมอยากรู้ว่าร่างกายของเธอจะเป็นยังไงหากผมทำมากกว่านี้.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in